พวกเขาดึงดูดทหารม้าทุ่งหญ้าไปจำนวนมาก บัดนี้มีเพียงไม่กี่สิบคนที่รอดกลับมาได้
หลี่ชางเงียบแล้วกวาดตามองไปยังทหารอาณาจักรฉินที่กลับมาได้ เขาเจ็บปวดใจอย่างมาก มีคนสามพันคนที่ออกมาด้วยกันกับเขา จนตอนนี้เหลือเพียงสองร้อนกว่าคนแล้ว
แต่ผลของสงครามยิ่งใหญ่อย่างมาก เขาเดินทางเข้ามาในส่วนลึกของม่อเป่ย ยึดครองภูเขาหลางจูชูที่เป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ของขนเผ่าหนี่ว์เจินได้ สังหารคนไปหลายหมื่นคน แถมยังจับองค์ชายสองทั้งเป็นได้
ความสำเร็จดังกล่าวเพียงพอที่จะจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาใหญ่ที่รอหลี่ชางอยู่ นั่นคือเชลยศึกมากมายเพียงนี้จะทำอย่างไรดี?
ไม่ว่าคนสองร้อยคนจะเฝ้าระวังอย่างไรก็ไม่มีทางคุมตัวไปยังภูเขาหลางจูชูได้เลย แต่จะปล่อยไปก็ไม่ได้ หากปล่อยไปก็เหมือนทำสงครามไปอย่างสูญเปล่า
ในขณะที่หลี่ชางกำลังเครียด ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาก็เสนอขึ้นว่า
“ท่าแม่ทัพขอรับ หรือว่าเราจะ......”
ว่าแล้วทหารก็ทำท่าทางปาดคอ ความหมายนั้นเห็นได้ชัดเจนแล้ว
หลี่ชางถีบเขาครั้งหนึ่งแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คิดบ้าอะไรของเจ้า คนมากเพียงนี้เจ้าจะฆ่าอย่างไร? ข้าไม่กลัวที่จะถูกฝังหรอก แต่กลัวว่าจะไม่รอดชีวิตกลับไปมากกว่า!”
ทหารหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเป็นเพียงแค่ทหารคนหนึ่ง เพียงแค่คอยปฏิบัติตามคำสั่งก็พอ ส่วนจะปฏิบัติอย่างไรไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องคิด
“เฮ้อ” หลี่ชางถอนหายใจอีกครั้ง เขาเข้าใจความคิดของทหาร ที่จริงเขาเองก็เคยคิดจะทำเช่นนั้น
แต่ปัญหาคือจะทำได้งั้นรึ? พวกเขามีกันแค่สองร้อยคน หากจะไปฆ่าพวกคนที่ยอมจำนนเกือบหมื่นคน จะต้องฆ่าไปถึงเมื่อไร อย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของจิตสำนึก
ก่อนหน้านี้เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามที่ม่อเป่ยก็ได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกันแล้ว เขาได้ยึดครองที่มาได้แล้ว และดูจากสถานการณ์แล้ว เกรงว่าม่อเป่ยอาจจะเป็นของอาณาจักรฉินไปในอนาคตก็ได้
เช่นนั้นเรื่องนี้ก็จะส่งผลกระทบมาก สิ่งสำคัญมีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว หากมันกระทบต่อชื่อเสียงของเขาคนเดียวเขาก็ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย แต่หากทำลายชื่อเสียงของอ๋องเหยียน เช่นนั้นก็เป็นความผิดของเขาเต็มๆ
“ท่านแม่ทัพ!”
ทันใดนั้นเองก็มีทหารนายหนึ่งรีบวิ่งมาหา
หลี่ชางขมวดคิ้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วงั้นรึ?”
“ไม่ได้เกิดเรื่องขอรับ คือ......คือ......”
เหมือนว่าทหารจะมีความลังเล พูดไม่ชัดเจนเสียที เขาจึงพูดอย่างจนปัญญาว่า
“ท่าแม่ทัพ ไปดูเองจะดีกว่าขอรับ”
“อะไรของเจ้า!” หลี่ชางพูดเช่นนั้น แต่ก็ยังเดินตามทหารไป
ทหารตบหน้าอกแล้วรับรอง “ท่านแม่ทัพขอรับ ข้าเพิ่งจะสืบมาเมื่อครู่นี้ จริงแท้แน่นอนขอรับ!”
หลี่ชางฟังแล้วก็เข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้คงจะเป็นจริง
สถานการณ์พลิกผันจริงๆ เมื่อครู่นี้เขายังเครียดว่าจะจัดการคนนับหมื่นอย่างไร แต่สุดท้ายเขากลับมีผู้ใต้บังคับบัญชาเกือบหมื่นตาเนี่ยนะ?
แม้จะพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ก็สามารถหาคนที่ฟังภาษาทุ่งหญ้าและภาษากลางได้ไม่ยาก โชคเข้าข้างจริงๆ
......
อีกด้านหนึ่ง ณ ในเมืองถูเหอ
จางฝูได้จำกัดรายชื่อคนวางยาพิษแล้ว ผู้ที่วางยาพิษก็คือพ่อค้าเสบียงของผู้ใต้บังคับบัญชาของจางจื้อสยงและชนเผ่าหนี่ว์เจิน อีกทั้งยังสืบพบว่าเจ้าสองคนนั้นได้หนีไปแอบซ่อนอยู่ที่อาณาจักรหลู่แล้ว
เขาได้รายงานเรื่องนี้กับฉินเหยียน เมื่อฉินเหยียนรู้แล้วก็เดือดดาลอย่างมาก เขาได้สั่งให้ต้าหย่งนำคนไปจับกุมทันที เพียงไม่นานก็ถูกจับมาได้แล้ว แถมยังถูกส่งมายังเมืองถูเหอแล้วด้วย
จางฝูมองพ่อค้าเสบียงที่ถูกคุมตัวส่งมาทั้งสองคนแล้วก็โกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขาชี้พวกมันแล้วด่าทอว่า
“เสียแรงที่พวกเจ้าเป็นถึงพ่อค้าขายเสบียงนะ กล้าวางยาพิษใส่อาหารที่ขายได้ พวกเจ้ายังมีจิตสำนึกกันรึไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...