“นี่มันอะไรกัน?”
เหล่าทหารม้าทุ่งหญ้าล้มลงกันเรื่อยๆ แต่ละคนมีสีหน้าที่หวาดผวามาก
โดยเฉพาะองค์ชายใหญ่และเหล่าแม่ทัพขบวนทั้งหลาย พวกเขาได้เห็นคนของพวกเขาล้มลงไปด้วยตาของตนเอง แต่กลับไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อาวุธของพวกมันฟันไม่เข้าเนี่ยนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“หนี รีบหนีเร็วเข้า!”
ในที่สุดก็มีแม่ทัพขบวนของกองทัพทุ่งหญ้าที่นำขบวนอยู่อดทนไม่ไหวแล้วร้องตะโกนขึ้นมา เมื่อครู่นี้เขาเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาถูกรถยนต์ชนจนตายกับตาตนเอง ถึงขั้นไม่มีโอกาสจะหลบเลยด้วยซ้ำ มีเพียงคนจำนวนน้อยที่เหลือรอด แต่ก็เสียขวัญไปหมด ราวกับหวาดกลัวอย่างมาก
ภาพนี้แปลกประหลาดเกินไป เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงวิ่งหนีกลับไป
“หนี! หนีเร็ว”
เหล่าทหารม้าไม่กล้าอยู่ต่อ พวกเขาต่างถอยตามหลังของเขาไปอย่างรวดเร็ว เหล่าทหารม้าทุ่งหญ้าที่เดินทีร้องตะโกน บัดนี้กลับสับสนวุ่นวายไปหมด
องค์ชายใหญ่มองภาพนี้ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เขาตะโกนว่า
“ห้ามถอยเด็ดขาด ตั้งขบวน! หากใครกล้าหนีข้าจะฆ่ามันซะ!”
ทหารม้าทุ่งหญ้าสองหมื่นนายนี้คือกองกำลังหลักของชนเผ่าหนี่ว์เจิน เป็นกองกำลังที่คุ้มครองราชวงศ์และเจ้อหลี่มู่เหมิง หากแยกย้ายกันไป ชนเผ่าหนี่ว์เจินก็จบเห่กันแล้ว!
ส่วนเขาก็จะกลายเป็นที่อับอายของชนเผ่าหนี่ว์เจิน ต่อสู้แพ้เช่นนี้ หากเขาหนีกลับไปที่ชนเผ่าหนี่ว์เจิน ท่านหัวหน้าผู้เป็นพ่อของเขาต้องฆ่าเขาเป็นแน่
นี่คือความแตกต่างของชาวทุ่งหญ้าและคนภาคกลาง ในทุ่งหญ้าไม่มีประโยคที่ว่าเสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง
“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะองค์ชายใหญ่ กระหม่อมจะกลับชนเผ่า เจ้าพวกนี้มันเป็นสัตว์ประหลาด!”
แม่ทัพที่สวมหมวกสักหลาดคนหนึ่งตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาพูดไปด้วยแล้ววิ่งไปหนีไปด้วย
“เราสู้ไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ!”
แม่ทัพอีกคนหนึ่งฉวยโอกาสแย่งม้าขององค์ชายใหญ่แล้ววิ่งหนีไปอย่างบ้าคลั่ง เพียงพริบตากองทัพก็แตกกระจายไปหมด พวกเขาคาดผลลัพธ์เช่นนี้กันไม่ถึงเลย เดิมทีพวกเขาคิดว่าชัยชนะอยู่ในกำมือ สุดท้ายกลับถูกไล่ล่าจนหนีหัวซุกหัวซุน
“องค์ชายใหญ่พ่ะย่ะค่ะ รีบถอยทัพเถิด ไม่เช่นนั้นเราจะต้องตายอยู่ที่นี่กันหมดพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์ชายใหญ่ตกใจไปหมด แต่เขาก็ยังคงกัดฟันแล้วด่าทออย่างโกรธเกรี้ยวว่า
“สารเลว! ชนเผ่าหนี่ว์เจินของเราไม่เคยยอมแพ้ คิดจะเอาชนะพวกเราก็ต้องข้ามศพพวกเราไปก่อน!”
องค์ชายใหญ่ตวัดดาบสันโค้ง อยากจะนำกองทัพทหารม้าทุ่งหญ้าที่เหลือกลับไปโจมตีอีกครั้ง แต่เหล่าผู้ใต้บัญชาที่ภักดีกลับหน้าซีดเซียวแล้วกอดเขาเอาไว้แน่น
“องค์ชายใหญ่ คนอาณาจักรฉินน่ากลัวเกินไปแล้ว เราหนีกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์ชายใหญ่หัวเสียอย่างมาก แต่กลับไม่อาจทำอะไรได้ เขาถูกคนหามขึ้นหลังม้าไป จากนั้นก็พาเหล่าทหารที่แพ้ศึกที่เหลือรอดมุ่งหน้ากลับไปยังเจ้อหลี่มู่เหมิง
และทันใดนั้นการต่อสู้ก็จะจบลงแล้ว
นอกจากทหารม้าทุ่งหญ้าส่วนน้อยที่หนีไปแล้ว คนที่เหลือหากไม่ถูกชนจนยุ่งเหยิงไปหมด ก็นั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าที่หวาดผวา แล้วยกมือขึ้นเหนือศีรษะ
พวกเขาตกใจกลัวไปหมด เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์ยักษ์ที่ดุร้ายมากเช่นนี้มาก่อน พวกเขาถึงขั้นรู้สึกว่าต่อให้จะเป็นช้างของท่านหัวหน้าก็คงไม่อาจทำเอาชนะคนพวกนั้นได้ มันอยู่นอกกรอบความรู้เกินไป
ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่พวกเขากลัวยิ่งกว่าก็คือ ดาบของพวกเขาไม่อาจทำอะไรสัตว์ประหลาดเหล็กได้เลย พวกเชื่อของพวกเขาค่อยๆทลายลง เมื่อความเชื่อพังทลายลงก็ไม่เหลือความคิดที่จะสู้ต่อแล้ว
และแล้วเหล่าลูกผู้ชายชาวทุ่งหญ้าก็ทิ้งอาวุธแล้วคุกเข่ากับพื้น อ้อนวอนขอให้อาณาจักรฉินไว้ชีวิต พวกเขาหวาดกลัวอย่างมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
หยางจิ่นซิ่วเดินลงจากรถยนต์ นางมองเชลยศึกเหล่านี้แล้วเกิดเครียดขึ้นมา
“ท่านแม่ทัพ เราต้องไปสนับสนุนอ๋องอวี่ด้วย เชลยศึกมากเพียงนี้คงพาไปด้วยไม่ได้ จะทำอย่างไรดีขอรับ?” รองผู้บัญชาการถามขึ้น
หยางจิ่นซิ่วขมวดคิ้ว “เสบียงของเรามีมากพอรึไม่?”
“เสบียงมีมากพอขอรับ แต่หากนำเชลยศึกเหล่านี้ไป เกรงว่าในระหว่างทางอาจจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นได้......”
รองผู้บัญชาการพูดขึ้นอย่างกังวล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...