หยางจิ่นซิ่วออกคำสั่งว่า “แต่จะสังหารทั้งหมดก็คงไม่ได้ เช่นนี้แล้วกัน ส่งคนส่วนหนึ่งพาพวกเขาไปยังเมืองถูเหอ ให้อ๋องเหยียนเป็นผู้ตัดสินความเป็นความตายของพวกเขา ส่วนพวกเราไปสนับสนุนอ๋องอวี่กันต่อ”
“พ่ะย่ะค่ะ!” รองผู้บัญชาการตอบรับ
......
ในเมืองถูเหอ
วันนี้จางฝูเดินมาหาฉินเหยียน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเหยียนเห็นสีหน้าประจบสอพลอของเขา หากเขาไม่รู้ว่านี่คือจางฝู จงคิดว่ามีใครปลอมตัวมาเป็นแน่
“ท่านอ๋องลองเสวยสิ่งนี้สิพ่ะย่ะค่ะ นี่คือชาเซียนห้าวที่มีแต่ในเยี่ยนเป่ยพ่ะย่ะค่ะ”
จางฝูยื่นชาแก้วหนึ่งไปราวกับยื่นสมบัติล้ำค่าให้
ฉินเหยียนมองเขาอย่างสงสัยไปครู่หนึ่งแล้วรับมา เขาสูดดมกลิ่นแล้วได้กลิ่นหอมของชาจริงๆ จากนั้นจางฝูจัดวางชุดชาแล้วรินน้ำชาให้แก่ฉินเหยียน
“เชิญพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”
“อืม” ฉินเหยียนถือแก้วชาขึ้นมาจิบแล้วชื่นชมว่า “เป็นชาที่ดีจริงๆ”
“แหะๆ แน่นอนอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ใบชานี้ต่อให้เอาทองมาแลกก็ไม่ยอมหรอกพ่ะย่ะค่ะ”
จางฝูยิ้มแล้วมองฉินเหยียน
ยิ่งมองเขาฉินเหยียนก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ เขาวางแก้วชาแล้วถามขึ้นว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
จางฝูถูมือแล้วพูดว่า “แหะๆ ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกพ่ะย่ะค่ะ ก็แค่อยากจะทูลขอให้ท่านอ๋องช่วยเสียหน่อยพ่ะย่ะค่ะ”
“หือ? ช่วยอะไรรึ?” ฉินเหยียนเลิกคิ้วแล้วถามขึ้น
จางฝูพูดว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ยังจำได้รึไม่ว่าก่อนหน้านี้ให้กระหม่อมคิดหาวิธีพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองถูเหอให้ยืนหยัดเองได้ จากนั้นก็นำพาทั่วทั้งเยี่ยนเป่ยด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินเหยียนก็เข้าใจทันที
“เช่นนั้นเจ้ามีวิธีแล้ว บัดนี้ต้องการความช่วยเหลือจากข้างั้นรึ?”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องช่างมีปรีชาญาณยิ่งนัก!” จางฝูยกยอ “ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆต่างก็พูดว่าท่านอ๋องคือท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ ช่าง......”
ฉินเหยียนหลุดหัวเราะขัดจังหวะแล้วพูดว่า “เอาเถิดๆ ฟังคำยกยอของเจ้าแล้วข้ารู้สึกแปลกๆ มีอะไรก็รีบพูดมาซะ”
“พ่ะย่ะค่ะ!” จางฝูยิ้ม จากนั้นก็พูดแผนการของเขาอย่างจริงจังขึ้นมา
ฉินเหยียนเงียบครู่หนึ่งแล้วอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าชื่นชมว่า
“เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย ข้าไม่มีอะไรจะแย้ง เจ้าจงไปทำอย่างสบายใจเถิด ข้าจะให้การสนับสนุนมากที่สุด”
จางฝูพูดอย่างซาบซึ้งว่า “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง เมื่อมีท่านอ๋องคอยสนับสนุน กระหม่อมเชื่อว่าเมืองถูเหอจะต้องรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆเป็นแน่”
ฉินเหยียนพูดอย่างสงสัยว่า “เจ้าคงจะไม่ใช้นามของข้าไปเที่ยวหลอกลวงต้มตุ๋นหรอกนะ?”
จางฝูรีบส่ายหน้าแล้วอธิบายว่า “ไม่มีทางพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่หากอยากจะดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาแข่งขันก็คงต้องมีรางวัลกันเสียหน่อยใช่รึไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วรางวัลของเจ้าคืออะไรรึ?”
“อะแฮ่ม ทีมที่ได้อันดับต้นๆจะได้รับสิทธิพิเศษในการไม่ต้องเสียภาษีสองสามปี ตัวอย่างเช่นหากทีมจากอาณาจักรอู๋ได้รับชัยชนะ พวกเขาก็จะได้รับการยกเว้นภาษีในอาณาจักรอู๋สองสามปีพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” ฉินเหยียนยืนขึ้นทันที เขาเบิกตากว้างแล้วส่ายหน้าพูดว่า
“ไม่ได้ เรื่องนี้จะอนุมัติให้เจ้าไม่ได้ ไม่เช่นนั้นทั้งเก้าแคว้นคงวุ่นวายไปหมด”
หากทำเช่นนั้นจริงๆ ผู้ว่า ผู้พิพากษาท้องถิ่นของที่อื่นๆเองก็ต้องเลียนแบบกันสิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...