พูดจบ เขาพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงสั่งจ้าวจือหย่าออกไปว่า
“เจ้าส่งคนไปแจ้งพี่เจ็ดเอาไว้ด้วย เขาจะได้เตรียมการล่วงหน้า”
จ้าวจือหย่าตอบรับคำสั่งทันที “เพคะ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ คนรับใช้เข้ามาแจ้งข่าว
“ทราบทูลรายงานท่านอ๋อง อ๋องอวี่กลับมาแล้วเพคะ”
“อ้อ? พี่เจ็ดกลับมาแล้วหรือ?”
ฉินเหยียนเลิกคิ้ว จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “บังเอิญอะไรขนาดนี้ เพิ่งพูดถึงเขา เขาก็มาทันที ไป พวกเราออกไปต้อนรับพวกเขากัน”
เมื่อกลุ่มมาถึงประตู เขาเห็นฉินอวี่ตัวสั่นเพราะความหนาวกำลังลงจากม้า
“พี่เจ็ด!”
“เจ้าสิบสี่ ข้ากลับมาแล้ว ข้าทำสำเร็จแล้ว!”
“ฮ่าๆ ลำบากพี่เจ็ดแย่เลย”
หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันเสร็จ พวกเขาก็เข้าไปในห้องและนั่งลงด้วยกัน
จ้าวจือหย่านำชุดน้ำชามาชงชาให้เอง
ฉินเหยียนคุยกับฉินอวี่เป็นเวลานาน ในระหว่างการสนทนา ฉินเหยียนพบว่าท่าทีและการพูดการจาของพี่เจ็ดมีความสุขุมและน่าเชื่อถือกว่าเมื่อก่อนมาก เรื่องที่เขาได้ทำไป มีรายงานตั้งแต่ต้นจนจบ
...
อีกด้านหนึ่ง ไกลจากม่อเป่ยไปอีกหลายร้อยลี้
ท่ามกลางสายลมและหิมะ หลี่ชางและทหารเดินฝ่าหิมะด้วยตัวสั่นเทา
รองแม่ทัพพูดกับหลี่ชางและพูดอย่างสั่นเทา
“ท่าน... ท่านแม่ทัพ ข้าว่า พวกเรา... ควรตั้งค่ายพักแรมก่อนนะขอรับ อากาศหนาวมากเกินไป ทหารพวกเราจะแข็งตายอยู่แล้วขอรับ”
สภาพอากาศที่หนาวเย็น หิมะตกหนักเช่นนี้ ไม่เอื้อต่อการเดินทัพแม้แต่น้อย
หลี่ชางเหลือบมองทหารที่เดินโซเซด้วยความหนาวเย็น เขาหายใจเข้าลึกๆ กัดฟันแล้วพูดว่า
“อดทนต่อ! คืนนี้ต้องเดินให้ได้อีกห้าสิบลี้ เร่งความเร็ว พวกเราเข้าใกล้เจ้อหลี่มู่เหมิงแล้วค่อยตั้งค่ายพักแรม”
รองแม่ทัพเอ่ยปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาตัวสั่นเพราะความหนาวเย็น เขารอให้ตัวเองสงบลงจึงพูดออกเสียงสั่น
“แต่ท่านแม่ทัพ เมื่อพวกเราไปถึงที่นั่น จะสามารถโจมตีได้หรือ สภาพอากาศตอนนี้เลวร้ายมากนะขอรับ”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ? ไม่ต้องมาบอกข้า!”
หลี่ชางตบหมวกรองแม่ทัพ ทำให้หมวกเขาเอียงไปเล็กน้อย
“คำสั่งของท่านอ๋องคือให้โจมตีเจ้อหลี่มู่เหมิง เช่นนั้นต้องทำตาม แน่นอนว่าที่ท่านอ๋องเช่นนี้ต้องมีความหมายแน่ อีกอย่าง แม้แต่พวกเราเองรู้สึกว่าการโจมตีในสภาพอากาศเช่นนี้เป็นเรื่องยาก พวกชาวทุ่งหญ้าก็ต้องลำบากเช่นกัน”
“ก็มีเหตุผลขอรับ”
รองแม่ทัพพยักหน้าเข้าใจ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทหารที่อยู่ข้างๆ เขาพูดขึ้นมา
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องทะเลาะกัน”
หลี่ชางเห็นทั้งสองทะเลาะกัน หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าที่ทหารคนนั้นพูดก็มีเหตุผล เขามองไปที่รองแม่ทัพโจวด้วยความสงสัย และถามว่า
“เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ว่าตอนที่รับคำสั่งท่านอ๋องสั่งว่าเราต้องโจมตีเจ้อหลี่มู่เหมิงอย่างสุดกำลัง?”
รองแม่ทัพโจวพยักหน้า เขาพูดอย่างจริงจัง
“ขอรับ ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเหยียนยังกล่าวอีกว่า นักรบทุกคนต้องรู้จักใช้ความสามารถเอาชนะเรื่องไม่คาดคิด สำหรับคนที่เก่งเรื่องการทหาร ให้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อให้อีกฝ่ายคาดเดาไม่ได้”
“ตามสถานการณ์ปกติ เจ้อหลี่มู่เหมิงเป็นแหล่งกบดานหลักของพวกนวี่ห์เจิน หากจะยึดครองมาให้ได้ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ท่านอ๋องจะใช้ประโยชน์จากหิมะที่ตกหนักทำลายชนเผ่านวี่ห์เจินทิ้ง เป็นการลงมือที่คุ้มค่ามากขอรับ”
รองแม่ทัพโจวพูดจาฉะแน ยิงเขาพูดมากเท่าไหร่ เขายิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น
หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของอีกฝ่าย ท่าทีของหลี่ชางกลับเคร่งขรึมและถอนหายใจออกมา
“อ๋องเหยียนเป็นคนที่พระเจ้าส่งมาจริงๆ เขาสั่งให้กองทัพเร่งความเร็ว เราจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากทำลายเจ้อหลี่มู่เหมิงทิ้ง”
“ขอรับ”
ทุกคนตอบรับ
...
เจ้อหลี่มู่เหมิง
ตั้งแต่ที่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่รู้ว่าภูเขาหลางจูชูถูกทำลายลง เขาจมอยู่แต่กับความสิ้นหวัง
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เขาน้ำหนักลงไปมากกว่าสิบกิโล เขานอนอ่อนแรงบนเตียง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายอ่อนแอราวกับคนที่แก่ตัวลงเป็นสิบปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...