องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1117

มองไปแล้วราวกับคนชราที่จะสิ้นอายุแล้วยังไงอย่างงั้น

“ท่านผู้นำพ่ะย่ะค่ะ” ทุกคนรีบคุกเข่ากับพื้น แล้วพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น

“หยุดร้องไห้กันได้แล้ว พวกเจ้าเองก็รู้อาการของข้าในตอนนี้ ข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าจะต้องมอบหมายให้พวกเจ้า......”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่พูดอย่างอ่อนล้าว่า

“เราต้องหารือกันให้ดี เรื่องที่หากข้าไปแล้ว ใครจะเป็นผู้นำชนเผ่าหนี่ว์เจิน”

“ท่านผู้นำ ท่านตรัสเช่นนั้นเลยพ่ะย่ะค่ะ ทรงยังมีพระวรกายแข็งแรงพ่ะย่ะค่ะ”

“นั่นสิ พวกกระหม่อมยังคอยให้พระองค์นำเราไปสู่ความรุ่งโรจน์พ่ะย่ะค่ะ อย่าทิ้งพวกกระหม่อมไปพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้นเหล่าแม่ทัพก็ตื่นตระหนกไปหมด เพราะที่ชนเผ่าหนี่ว์เจินรุ่งเรืองแข็งแกร่งได้อย่างทุกวันนี้ ก็เพราะฝีมือของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ทั้งนั้น หากอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่สิ้นใจไปแล้ว ก็เท่ากับเรือที่ขาดหางเสือ

ในช่วงปีแรกๆท่านผู้นำได้พาพวกเขาไปพิชิตเหนือและใต้ คนเหล่านี้ได้มีโอกาสเป็นแม่ทัพขบวนก็เพราะมีอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจยอมรับผลลัพธ์ที่จะตามมาเมื่อต้องสูญเสียอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ไป

แต่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่กลับโบกมือแล้วพูดว่า “ทุกท่าน ข้ามาถึงสุดทางแล้ว ต้องไปรับใช้เทพเจ้าหมาป่าแล้ว จงยอมรับกันเถิด”

เมื่อพูดถึงเทพเจ้าหมาป่าอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ก็ถอนหายใจยาวๆเฮือกหนึ่ง ภูเขาหลางจูชูถูกชิงไปแล้ว คนบาปเช่นเขาจะมีโอกาสได้เดินข้ามสะพานสายรุ้งเพื่อพบกับเทพเจ้าหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่จริงๆงั้นรึ?

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ไม่มั่นใจเลย......

ทุกคนยิ่งรู้สึกเศร้ากันยิ่งขึ้น เหล่าชายหนุ่มร่างกำยำต่างร้องไห้อย่างหนัก

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ด่าทอว่า “เอาล่ะ จะร้องไห้ทำไมกัน ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย”

“อย่าถอดใจนะพ่ะย่ะค่ะ เพียงพระองค์รับสั่งมา พวกกระหม่อมก็ยินดีที่จะบุกน้ำลุยไฟพ่ะย่ะค่ะ!”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่โบกมือแล้วพูดว่า “หยุดพล่ามได้แล้ว พวกเจ้าลองว่ามาสิ ว่าในอนาคตชนเผ่าหนี่ว์เจินจะทำอย่างไร?”

ทุกคนเงียบกันหมด หัวข้อนี้สำคัญอย่างยิ่ง หากเขาสิ้นใจไปจริงๆ แล้วชนเผ่าหนี่ว์เจินที่มีแต่ข้อบกพร่องจะมีความหวังอีกงั้นรึ?

พวกเขาเองก็มองเรื่องนี้ในแง่ร้าย แต่บัดนี้ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย กลัวว่าจะทำให้เขาเดือดดาลอีก ดังนั้นจึงเริ่มหารือกัน

มีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ท่านผู้นำพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าองค์ชายใหญ่สามารถสืบบัลลังก์ได้ อย่างไรก็เป็นโอรสคนโตของพระองค์เอง”

“ไม่ได้” อีกคนส่ายหน้าแล้วพูดแย้งขึ้นว่า “องค์ชายใหญ่เพิ่งจะทำให้เราสูญเสียทหารหัวกะทิสองหมื่นนายไป จากเรื่องนี้ก็สามารถมองออกได้ว่าองค์ชายใหญ่ไม่ได้องอาจกล้าหาญเช่นท่านผู้นำ เราควรจะสืบบัลลังก์ให้แก่องค์ชายสาม!”

“ไร้สาระ!” มีคนแย้งขึ้นอีกว่า “กฎของทุ่งหญ้าจะสืบบัลลังก์ให้แก่คนโตเสมอ สามารถให้องค์ชายสามแบ่งกิจการตระกูลไปครึ่งหนึ่งได้ แต่จะเปลี่ยนกฎของทุ่งหญ้าไม่ได้เด็ดขาด”

“ตอนนี้ไม่เหมือนครั้นอดีตแล้ว ชนเผ่าหนี่ว์เจินต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง ข้าคิดว่าอย่างไรองค์ชายสามก็เหมาะสม”

“หึหึ องค์ชายสามงั้นรึที่แข็งแกร่ง? นี่เจ้าคิดอย่างไรกัน”

“ท่านผู้นำ ชนเผ่าหนี่ว์เจินจะยุบไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ นี่คือสิ่งที่พระองค์สู้มาหลายสิบปีนะพ่ะย่ะค่ะ!”

“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ พวกเรายังไม่จนตรอกถึงขั้นนั้น เรายังมีความเป็นไปได้ที่จะยืนขึ้นได้ใหม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแค่เราสามัคคีกัน ต่อให้จะพบอุปสรรคที่ยากลำบากเพียงใด ก็สามารถนำความรุ่งโรจน์ในอดีตกลับคืนมาได้”

“ท่านผู้นำ อย่าถอดใจนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอร้องล่ะท่านผู้นำ”

เหล่าแม่ทัพต่างคุกเข่าแล้วอ้อนวอนขอร้องหวังให้เขาคิดใหม่

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่มองเพดานแล้วถอนหายใจยาวๆ เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวด หากไม่ใช่เพราะเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางตัดสินใจที่จะยุบชนเผ่าหนี่ว์เจิน

“เฮ้อ......” อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ถอนหายใจแล้วค่อยๆยกมือขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเงียบ

เมื่อทุกคนเงียบลงแล้วเขาจึงจะค่อยๆพูดขึ้นว่า

“พวกเจ้าลองไตร่ตรองกันให้ดีเถิด เราถูกศัตรูรายล้อมและเกิดปัญหาภายใน แม้แต่การอยู่กินก็เป็นปัญหา แล้วจะยังอดทนยืนหยัดไปเพื่ออะไรอีก?”

“อีกอย่างชีวิตนี้ข้าเองก็ใช้มาคุ้มค่าแล้ว อย่างน้อยแม้จะพบเจอเรื่องเช่นนี้ก็ยังมีสหายอย่างพวกเจ้าอยู่เคียงข้าง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์