ทั้งที่กำลังคุยกันอยู่ดีๆ เหตุใดจู่ๆจึงกลายเป็นเช่นนี้?
ทันใดนั้นองค์ชายใหญ่ก็ยืนขึ้นแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า
“ท่านพ่อแก่ชราเลอะเลือนไปหมด ท่านลุงทั้งหลานเองก็เลอะเลือนตามไปด้วยงั้นรึ? องค์ชายสามไม่มีความสามารถอะไรเลย จะเป็นท่านผู้นำได้อย่างไร”
“รอเดี๋ยวพ่ะย่ะค่ะ เข้าใจสิ่งใดผิดรึไม่ ไม่มีใครกล่าวว่าองค์ชายสามได้รับสืบทอดพ่ะย่ะค่ะ”
มีคนหนึ่งรีบโบกมือ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าองค์ชายใหญ่จะเข้าใจผิดถึงขั้นนี้ แถมยังหันอาวุธเข้าหาพวกเขาด้วย
“หึ เจ้ายังไม่ยอมรับอีกงั้นรึ?” องค์ชายใหญ่ทำเสียงเย็นชาแล้วพูดต่อว่า “เมื่อครู่นี้พวกเจ้าทุกคนเผยออกมาแล้ว ข้าถามพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิดว่าข้าโง่งั้นรึ?”
น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างมาก แววตาปรากฏความเย็นยะเยือก ราวกับอยากจะสังหารให้ตายยังไงอย่างงั้น
ทุกคนเข้าใจทันที ที่แท้อีกฝ่ายก็เข้าใจพวกเขาผิดนี่เอง พวกเขาสีหน้าซีดเซียวไปหมด ไม่อยากจะเชื่อ ที่สำคัญคือพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายใหญ่จะก่อกบฏเช่นนี้
แม่ทัพที่อารมณ์ร้อนถามขึ้นทันทีว่า “องค์ชายใหญ่หมายความว่าอย่างไร? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความเข้าใจผิดของพระองค์ ต่อให้มันเป็นความจริง พระองค์จะก่อกบฏงั้นรึ? ไม่ว่าท่านผู้นำจะตัดสินใจอย่างไร ก็ควรจะปฏิบัติตามบัญชาจึงจะถูก”
เหล่าแม่ทัพคนอื่นๆเองก็เห็นด้วยความตำหนิว่า “ใช่แล้ว องค์ชายใหญ่จะบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว”
“ที่พระองค์กระทำอยู่คือการคิดกบฏ มีโทษอย่างหนัก”
“ต่อให้ท่านผู้นำจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรคิดสงสัยในการตัดสินใจของพระองค์”
เมื่อฟังทุกคนพูดแล้วองค์ชายใหญ่ก็หัวเราะอย่างไม่สบอารมณ์ เขาชักดาบออกมาแล้วฟันลงบนโต๊ะ ทำให้โต๊ะถูกฟันเป็นสองข้าง
“พวกเจ้าอยากลิ้มลองความคมของดาบข้ารึไม่?”
น้ำเสียงขององค์ชายใหญ่เต็มไปด้วยความเดือดดาลและจิตสังหาร เหล่าองครักษ์ที่อยู่รอบๆเองก็ถืออาวุธมองไปทางเหล่าแม่ทัพ ทำให้พวกเขาหวาดผวาทันที
“หึ!”
แม่ทัพอารมณ์ร้อนคนนั้นชักดาบออกมาอย่างไม่ลังเลเช่นกัน เขาตะคอกอย่างเย็นชาว่า
“ดาบของข้าก็คมเช่นกัน!”
ดวงตาขององค์ชายใหญ่โหดเหี้ยมอย่างมาก มันเต็มไปด้วยจิตสังหาร
โชคดีที่ฮูมู่หลู่ที่อยู่ข้างๆเห็นว่าสถานการณ์ผิดปกติจึงรีบมาเกลี้ยกล่อมว่า
“สองก็คือพวกเจ้าไม่ยอมทำตาม ข้าก็จะกักขังพวกเจ้าไปตลอด เมื่อสถานการณ์มั่นคงแล้ว ข้าจะฆ่าพวกเจ้าซะ!”
สีหน้าขององค์ชายใหญ่โหดเหี้ยมอย่างมาก ราวกับว่าจะจับพวกเจ้ากิน ทำให้รู้สึกขนลุกไปหมด
แม่ทัพที่เหลือได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว พวกเขาเข้าใจความหมายขององค์ชายใหญ่กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเลือกทางใด เขาก็จะก่อกบฏ ท่านผู้นำเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ต่อให้พวกเขาจะห้ามไป แล้วจะอย่างไรต่อ?
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะมาพวกเขาก็ได้ตัดสินใจกันแล้วว่าจะออกจากที่นี่ เพื่อหาชีวิตใหม่ หากคิดจะให้พวกข้าเชื่อฟังก็คงจะเพ้อฝัน ไม่มีใครเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย
“เลือกได้หรือยัง?”
องค์ชายใหญ่จ้องมองพวกเขา หากพวกเขายอมสนับสนุนให้เป็นผู้นำ เช่นนั้นทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นอย่างมาก ถึงขั้นที่ว่าหากราบรื่น ก็จะมอบตำแหน่งและอำนาจให้ดีกว่าตอนนี้ด้วย
“ไม่ต้องเลือกแล้ว พรุ่งนี้พวกข้าจะออกไป”
มีแม่ทัพคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชาว่า “หวังว่าพรุ่งนี้เจ้าจะทำตามคำพูดนะ”
เมื่อองค์ชายใหญ่ได้ยินดังนั้นก็แอบด่าทอในใจว่า ช่างเป็นเจ้าพวกดื้อรั้นเสียจริง แต่เมื่อถึงขั้นนี้แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ย่อมได้ พวกเจ้าอยู่ที่นี่ไปสักคืนแล้วกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...