องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1124

“เจ้าสัตว์เดรัจฉานนั่นกลัวว่าหากเราไปแล้วจะใช้บารมีมาต่อต้านเขาล่ะสิ”

พวกเขาเข้าใจแล้ว ทุกคนสีหน้าซีดเซียวแล้วล้มลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง น้ำตาไหลริน

“ทำอย่างไรดี แล้วตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”

มีคนร้องไห้อย่างสิ้นหวัง “บัดนี้ครอบครัวของเราอยู่ในมือของพวกมัน หากพวกมันไม่ทำตามคำพูด หลังจากหนึ่งปีแล้วไม่ยอมคืนคนในครอบครัวจะทำอย่างไรดี?”

คนอื่นๆเองก็พากันสิ้นหวัง ต่างก็กอดกันร้องไห้ ต่อให้พวกเขาจะเป็นลูกผู้ชายที่แกร่งกล้าเพียงใด แต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนในครอบครัว ก็อ่อนแอกันหมด

“ยังมีวิธีใดอีกรึไม่? เราออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า คนอาณาจักรฉินมีคำที่พูดกันว่าตราบใดมีชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง หากเราไปแล้วเจ้าพวกนั้นอาจจะมีความพะว้าพะวัง ไม่กล้าทำอะไรคนในครอบครัวของเรา”

เมื่อพวกเขาหารือกันแล้วก็ตัดสินใจออกจากเจ้อหลี่มู่เหมิง หากอีกหนึ่งปีให้หลังครอบครัวของพวกเขายังไม่กลับมา พวกเขาก็จะรอโอกาสหวนคืนกลับมาอีกครั้ง

......

ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง ณ เจ้อหลี่มู่เหมิง ที่ที่อยู่ห่างออกไปไม่เกินห้าสิบไมล์

หลี่ชางที่ชูธงอาณาจักรฉินได้พากองทัพของตนเองเดินทางฝ่าพายุหิมะ ในที่สุดก็ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว แต่ว่าทันใดนั้นผู้ช่วยโจวก็ส่งข่าวมาให้

“ท่านแม่ทัพขอรับ หน่วยสอดแนมของเราพบว่าที่ที่ไม่ไกลจากนี้ มีคนทุ่งหญ้ากำลังหนีขอรับ แถมยังมีคนไล่ล่าพวกมันอยู่ด้วยขอรับ”

“หือ? พวกมันเกิดแตกหักกันเองรึ?”

เมื่อหลี่ชางได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าดีใจออกมา

“ถือเป็นเรื่องที่ดี เราไม่รู้สถานการณ์ของเจ้อหลี่มู่เหมิงอยู่พอดี หากมีคนมาบอกก็คงดีอย่างยิ่ง! ฮ่าๆ......ออกคำสั่งของข้าไปให้ส่งคนไปช่วยชีวิตคนที่พวกมันไล่ล่ามาให้ได้!”

“น้อมรับคำสั่งขอรับ!”

เพียงชั่วครู่เหล่าทหารก็มารวมตัวกันแล้วมุ่งหน้าออกไปทันที

......

ขณะนี้อูเอ๋อร์เฮ้อหนีที่กำลังถูกไล่ล่ามาตลอดทาง รวมถึงองค์ชายสามด้วย ยังไม่รู้ว่ากำลังมีคนมาช่วยพวกเขาแล้ว

บัดนี้สถานการณ์ขององค์ชายสามย่ำแย่อย่างยิ่ง เขาเสียเลือดไปมาก มีบาดแผลไปทั่ว พร้อมที่จะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ ร่างกายของเขาย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการรักษาโดยเร็ว เกรงว่าคงจะอดทนได้อีกไม่นาน

อูเอ๋อร์เฮ้อหนีคอยให้กำลังใจเขาอยู่ตลอด เขาตะโกนว่า

“องค์ชายสาม อดทนไว้พ่ะย่ะค่ะ เราใกล้จะสลัดทหารพวกนั้นได้แล้ว อีกเดี๋ยวก็จะรอดแล้วพ่ะย่ะค่ะ จะต้องอดทนไว้นะพ่ะย่ะค่ะ”

เขาภาวนาอยู่ในใจขอให้องค์ชายสามผ่านไปได้ แต่น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่เป็นใจ

องค์ชายสามรู้สถานการณ์ของตนเอง เขาอดทนได้อีกไม่นาน จึงได้พูดอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า

“ท่านลุงเฮ้อหนีปล่อยข้าลงแล้วพาคนของท่านไปเถิด คนที่พวกมันต้องการสังหารคือข้า ท่านคือผู้อาวุโส พวกมันไม่กล้าทำอะไรท่าน”

อูเอ๋อร์เฮ้อหนีส่ายหน้าปฏิเสธ เขาพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า

ทุกคนรีบหันกลับไปมอง และพบว่าพวกเขาถูกรายล้อมเอาไว้ ส่วนคนที่รายล้อมพวกเขาอยู่ก็เป็นชายร่างกายแข็งแกร่งกำยำสามร้อยกว่าคน

โดยเฉพาะแววตาที่พวกเขามองพวก อูเอ๋อร์เฮ้อหนี เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ราวกับกำลังดูถูกพวกเขา

อูเอ๋อร์เฮ้อหนีสีหน้าเปลี่ยนไปย่ำแย่ทันที เขากัดฟันแล้วพูดว่า

“เจ้าพวกกบฏชั่ว ปลาเน่าแห่งชนเผ่าหนี่ว์เจิน พวกเจ้ายอมเป็นสุนัขรับใช้ของเจ้าสัตว์เดรัจฉานนั่นจริงๆงั้นรึ?”

“หึ ถุย!” ชายไว้หนวดที่ขี่ม้าสูงใหญ่ถุยน้ำลายลงพื้น

“บังอาจไม่เคารพต่อท่านผู้นำคนใหม่ของเรา! เช่นนั้นก็ยิ่งปล่อยพวกเจ้าไปไม่ได้แล้ว ฆ่าพวกมันให้หมดซะ!”

เขาเฆี่ยนม้าแล้วออกคำสั่งอย่างโหดเหี้ยมว่า “ฆ่ามัน!”

คนอื่นๆต่างก็พากันตะโกน จากนั้นก็ถืออาวุธแล้วพุ่งเข้าไป

เมื่ออูเอ๋อร์เฮ้อหนีเห็นดังนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึม เขาชักดาบแล้วตะโกนอย่างเดือดดาลว่า

“เหล่าสหาย สู้มัน!”

ทันใดนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปก่อน แต่ต่อให้เขาจะมีความกล้าหาญมากเพียงใด ก็ไม่อาจต้านศัตรูที่มีมากกว่าตนเองหลายเท่าไม่ได้

พวกอูเอ๋อร์เฮ้อหนีพ่ายแพ้แล้วพากันล้มลงกับพื้นเรื่อยๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์