และภายนอกนี้ก็ไม่อาจรักษาโรคบางชนิดได้เลย โดยเฉพาะคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างองค์ชายสาม ยากที่จะอดทนได้ หากต้องมาตายอยู่ที่นี่จริงๆ ก็คงเสียแรงโดยสูญเปล่า
เมื่อคิดดังนั้นแล้วอูเอ๋อร์เฮ้อหนีก็ตัดสินใจแล้วพูดว่า
“เราจะไปกับพวกเขา ไม่ว่าคนอาณาจักรฉินจะมีเป้าหมายอะไร ตราบใดที่สามารถรักษาเจ้าได้ก็พอแล้ว”
“ไม่ได้ จะไปกับพวกคนอาณาจักรฉินไม่ได้!” องค์ชายสามร้อนใจ
แต่อูเอ๋อร์เฮ้อหนีส่ายหน้าอย่างหนักแน่น เขามองผู้ช่วยโจวอย่างดุดันแล้วพูดว่า
“พวกเจ้าคนอาณาจักรฉินสามารถช่วยคนที่บาดเจ็บของเราได้รึไม่?”
ผู้ช่วยโจวอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“แน่นอนอยู่แล้ว แพทย์ทหารของเราเป็นหมอที่สุดยอดที่สุด ไปเถิด ข้าจะจัดแจงให้อย่างดี”
เมื่อองค์ชายสามเห็นดังนั้นก็ร้อนใจอย่างยิ่ง เขาพยายามยืนขึ้นอยากจะขอให้อูเอ๋อร์เฮ้อหนีไม่ไปกับอีกฝ่าย
แต่อูเอ๋อร์เฮ้อหนีกลับดึงเขามาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“องค์ชายสาม ไม่ใช่เพื่อเจ้าเท่านั้น เราของเราอีกมากก็ได้รับบาดเจ็บ จะปล่อยให้พวกเขาตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้ ไปกับคนอาณาจักรฉินเถิด ช่วยพวกเขา พวกเราเองก็เหลือสหายเพียงเท่านี้แล้ว”
องค์ชายสามขยับริมฝีปาก สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ออก เขาจึงถอนหายใจ
ผู้ช่วยโจวได้พาทุกคนเดินทางไปยังค่ายทหาร
เมื่อกลับไปถึงแล้วเขาก็ได้ไปหาแพทย์ทหาร และได้จัดแจงให้คนที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็ได้หันไปถามอูเอ๋อร์เฮ้อหนีว่า
“เจ้ามีตำแหน่งอะไรในชนเผ่าหนี่ว์เจิน?”
อูเอ๋อร์เฮ้อหนีครุ่นคิด เขาคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดบังตัวตน อย่างไรบัดนี้เขาก็เห็นแล้วว่าในค่ายของอีกฝ่ายมีคนทุ่งหญ้าอยู่มากมาย อาจจะมีคนจำเขาขึ้นมาก็ได้
และแล้วเขาก็พูดความจริงว่า “ข้าคือหนึ่งในแปดแม่ทัพหลัก มีนามว่าอูเอ๋อร์เฮ้อหนี”
“ให้ตายเถิด!”
ผู้ช่วยโจวตกตะลึงอย่างยิ่ง นี่เขาบังเอิญไปช่วยหนึ่งในแปดแม่ทัพหลักแห่งชนเผ่าหนี่ว์เจินมาได้งั้นรึเนี่ย? เรื่องนี้ทำเอาผู้ช่วยโจวดีใจอย่างยิ่ง เขาถูมืออย่างตื่นเต้นทันที
นี่มันเหยื่อชิ้นโตเชียวนะ!
“เจ้าคอยอยู่ที่นี่สักเดี๋ยว ข้าจะไปพบท่านแม่ทัพก่อน”
ผู้ช่วยโจวพูดอย่างร้อนใจ เขาต้องรีบเอาผลงานไปขอรางวัลเสียก่อน นี่มันเรื่องใหญ่เชียวนะ!
“อืม” อูเอ๋อร์เฮ้อหนีพยักหน้า บัดนี้ต้องพึ่งผู้อื่น เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะคัดค้านอะไร
“ฮ่าๆ คราวนี้คงได้กำไรอย่างยิ่ง!”
“ว่าอย่างไรนะ? มีเรื่องนี้ด้วยงั้นรึ?”
หลี่ชางอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเรื่องเช่นนี้ด้วย
อูเอ๋อร์เฮ้อหนียิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า
“พวกเจ้าก็กล้าหาญจริงๆ กล้ามาที่เจ้อหลี่มู่เหมิงด้วยจำนวนคนแค่นี้ แต่ว่าพวกเจ้าก็โชคดีจริงๆ หากองค์ชายใหญ่ไม่ได้ก่อกบฏ พวกข้าอาจจะเกิดความเสียหายอย่างหนัก ส่วนพวกเจ้าก็ไม่ได้กลับไปอีกแล้ว!”
หลี่ชางได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง แต่ยังคงแสดงสีหน้าที่ใจเย็นแล้วพูดว่า
“เจ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าตอนนี้ที่เจ้อหลี่มู่เหมิงเละเทะไปหมดแล้วงั้นรึ?”
“ใช่แล้ว” อูเอ๋อร์เฮ้อหนีพูดอย่างขมขื่นว่า “ดูท่าตอนนี้ ต่อให้เจ้าจะมีจำนวนคนน้อย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะยึดเจ้อหลี่มู่เหมิงได้”
หลี่ชางและผู้ช่วยโจวสบตากัน และเห็นแววตาที่ดีใจในดวงตาของอีกฝ่าย
แต่ว่าหลี่ชางยังคงมีความกังวลอยู่ เขาหรี่ตาแล้วพูดว่า
“เจ้าเกลียดชังโกรธแค้นองค์ชายใหญ่ไม่ใช่รึ? เช่นนี้แล้วกัน ข้าจะมอบกำลังคนให้เจ้าสองพันคน เจ้าจงมาเป็นแนวหน้าของข้าชั่วคราว หากยึดยึดเจ้อหลี่มู่เหมิงได้ ข้าก็จะเชื่อว่าเจ้าไม่ใช่ไส้ศึก ไม้เช่นนั้นเขาก็มีเหตุผลที่จะสงสัยเจ้า รวมถึงสหายของเจ้าที่มารักษาตัวที่นี่ด้วย”
หลี่ชางไม่ใช่คนโง่เขลา อีกฝ่ายพูดอย่างดี ราวกับว่ายึดเจ้อหลี่มู่เหมิงวางอยู่ตรงหน้า สามารถไปยึดครองได้สบายๆยังไงอย่างงั้น เขาจะเชื่อง่ายๆเช่นนั้นได้อย่างไร
ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวัง เพื่อป้องกันว่านี่คือกับดัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...