องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1133

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ต้องรับเงินไปด้วยสิ” ฉินเหยียนรีบตอบ เขาไม่ใช่คนกินแล้วไม่จ่ายเงิน

แต่เถ้าแก่กลับปฏิเสธ เขายืนหยัดและกล้าหาญมากกว่านั้น เขาพูดออกไปตรงๆ

“ท่านอ๋อง กระหม่อมเองอายุก็มากแล้ว ลูกชายเพิ่งเข้าบรรจุเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มปกครองตนเองแล้ว ตอนนี้ชีวิตถือว่ามั่นคงแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้เงินไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร สาลี่พวกนี้คือผลไม้ที่ข้าให้พวกเขาได้กิน ถ้าชอบก็ถือว่าเป็นเรื่องดีพ่ะย่ะค่ะ”

“สองสามวันนี้ข้าได้รับเงินมาจำนวนหนึ่งแล้ว ท่านพูดว่าท่านชอบ และเก็บเงินจากท่านอีก ทำเช่นนั้นได้หรือ? พวกเราเข้าใจกฎของอาณาจักรฉินดี ลูกชายข้าพูดกับข้าว่า อาณาจักรฉินไม่ใช่อาราจักรที่ซื้อขายได้ง่ายๆ เช่นนั้นท่านเองก็ไม่สามารถบังคับให้ข้ารับเงินจากท่านเช่นกัน”

ประโยคนี้ถูกใจประชาชนในเมืองถูเหอมาก

ทุกคนต่างเห็นด้วย

ฉินเหยียนมองไปที่ชายชรา ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น อีกทั้งยังนำสาลี่จำนวนมากมาให้ทุกคนได้ชิม เขาจึงมองอีกฝ่ายและยิ้มออกมา

“เอาล่ะ เช่นนั้นวันนี้เป็นวันที่ข้ากินฟรี! หากพวกเจ้ากระจายข่าวผิดๆ ว่าข้าไม่จ่ายค่าอาหาร ข้าจะโกรธเจ้า”

“ฮ่าๆๆ”

ทุกคนต่างพากันหัวเราะขึ้นมา

พวกเขารู้ดีว่าฉินเหยียนกำลังล้อเล่น

ด้วยชื่อเสียงและสถานะของเขา กลับหยอกล้อกับประชาชนเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเขาไม่อยากจ่ายเงิน บรรดาพ่อค้าแม่ขายเองก็กระตือรือร้นที่จะมอบอาหารให้ฉินเหยียนอยู่แล้ว เพราะชีวิตความแป็นอยู่ของพวกเขาได้รับการคุ้มครองแล้ว ทำให้เขามีความสุขอย่างยิ่ง

ความตั้งใจเดิมของฉินเหยียนคือตั้งใจออกมาชมบรรยากาศในเมืองถูเหอ ตอนนี้มีประชาชนจำนวนมากออกมาเดินเล่น เขาโบกมือและยิ้ม

“พวกเจ้าค่อยๆ เดินเล่นเถิด ข้าจะกลับจวนเจ้าเมืองแล้ว เจอกันที่สนามกีฬาถูเหอ”

“ยินดีที่ได้เจอท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

...

ฉินเหยียนใช้เวลานานมากกว่าจะออกมาจากฝูงชนได้ ดดยมีจางฝูตามมาด้านหลัง

“ท่านอ๋อง กระหม่อมผิดไปแล้วขอรับ”

จางฝูขอโทษด้วยความกลัว

ฉินเหยียนมองเขาและชี้ไปที่ปากตัวเอง

“เจ้าไปล้างปากเดี๋ยวนี้”

“ปากกระหม่อมเป็นอะไรไรหรือ?”

จางฝูงุนงงและหันไปถามคนข้างๆ

หลายคนกลั้นหัวเราะและส่ายหน้าเพื่อแสดงว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจ แต่รอยยิ้มนั้นกว้างไปเกือบถึงหู

จ้าวจือหย่าเป็นคนที่พึ่งพาได้มากที่สุด นางหยิบกระจกออกมา จากนั้นยื่นให้จางฝูด้วยรอยยิ้ม

“ใต้เท้าจาง ท่านดูเองเสียดีกว่า”

จางฝูได้ยินดังนั้น เขามองตัวเองในกระจกและสะดุ้งทันที

จากนั้นพลันนึกขึ้นมาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาคิดข้าวโพดมานี่เอง

เขารีบหยิบหิมะขึ้นมาลูบหน้า

ฉินเหยียนตีหัวนางเบาๆ แล้วพูดว่า

“แม้แต่เจ้าเองก็เริ่มเอาอย่างแล้วใช่ไหม?”

“โอ้ย... ท่านอ๋อง!”

จ้างจือหย่าจับหัวตัวเองด้วยความโกรธ แล้วพูดออกไปว่า “เจ็บนะเพคะ เบามือหน่อยไม่ได้หรือไร?”

จางฝูเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ไม่กล้ามองเหตุการณ์ตรงหน้า

หลังจากที่วุ่นวายอยุ่ครู่หนึ่ง ฉินเหยียนก็ขอให้จ้าวจือหย่าและคนอื่นๆ กลับไปก่อน เขาเดินคุยกับจางฝูต่ออีกสักพัก

ระหว่างที่เดินคุยกันไปเรื่อยๆ นั้น

“ระบบความร้อนใต้ดินเป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้เริ่มติดตั้งในทุกครัวเรือนแล้วหรือยัง?”

ฉินเหยียนถามโดยหันกลับไปมองเขา

ระบบความร้อนใต้ดินเป็นเรื่องที่เขาขอให้แผนกยุทโธปกรณ์คิดค้นและพัฒนาขึ้น

เขาได้อธิบายหลักการและแนวคิดในไปแล้ว ทำให้พวกเขาไปพัฒนาและศึกษาต่อได้ไม่ยาก

ผ่านไปหลายวันแล้ว คงต้องเรียบร้อยแล้ว อีกอย่างได้ผลิตขึ้นมาแล้วชุดหนึ่ง ได้ถูกส่งมอบมาให้จางฝุแล้ว

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จางฝูเริ่มสนใจและพูดด้วยความดีใจ

“กระหม่อมเริ่มทดลองติดตั้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ ระบบความร้อนใต้พื้นดินนั้นดีมาก มีท่อเข้าบ้านแต่ละหลัง ไม่มีควันไฟในบ้าน บ้านทุกหลังอบอุ่นมากพ่ะย่ะค่ะ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก และได้ผลตอบรับจากประชาชนไปในทางที่ดีพ่ะย่ะค่ะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์