ทุกคนพูดอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “พวกเราเห็นด้วยกับความเห็นของผู้ช่วยโจวขอรับ ท่านแม่ทัพโปรดออกคำสั่งด้วยเถิด”
“ได้! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เตรียมพร้อมซะ กวาดล้างเจ้าอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ให้สิ้นซาก!”
หลี่ชางกัดฟัน สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“น้อมรับคำสั่งขอรับ” ทุกคนก้มคำนับพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติ
เมื่อหารือกันเรียบร้อยแล้วหลี่ชางก็วิเคราะห์แผนที่อย่างละเอียด ในเมื่อจะลงมือปฏิบัติ เช่นนั้นเขาก็ต้องวางแผนที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ว่ายังไม่ทันที่เขาจะวางแผนการรบ ก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามา
ทหารนายนั้นเข้ามาแล้วรายงานทันทีว่า “ท่านแม่ทัพขอรับ มีคนขอเข้าพบขอรับ”
“มีคนขอเข้าพบรึ? เป็นใครกัน?” หลี่ชางหรี่ตาแล้วถามขึ้น
ทหารลังเลครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ก็เจ้าอูเอ๋อร์เฮ้อหนี ราวกับว่ามีเรื่องสำคัญยังไงอย่างงั้น ดูร้อนรนมากขอรับ!”
หลี่ชางได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “หือ? เชิญเขาเข้ามา”
เขามีความเคารพต่ออูเอ๋อร์เฮ้อหนีอยู่ คนผู้นี้ต่อสู้ได้ดี สำหรับทหารอย่างพวกเขาแล้ว ผู้ที่ต่อสู้ได้เป็นผู้ที่จะได้รับความเคารพ ยิ่งไปกว่านั้นหลี่ชางยังคิดอยากจะดึงเขามาเป็นพวกด้วย ดังนั้นจึงเกรงใจอยู่บ้าง
ไม่นานอูเอ๋อร์เฮ้อหนีก็เดินเข้ามาในเต็นท์ของหลี่ชาง
หลี่ชางยิ้มแล้วเดินไปพูดอย่างเป็นมิตรว่า “แม่ทัพอูเอ๋อร์เฮ้อหนี มาแล้วรึ รีบนั่งพักดื่มชาก่อนเถิด”
ว่าแล้วก็รินน้ำชาให้อูเอ๋อร์เฮ้อหนี
“ขอบคุณ” อูเอ๋อร์เฮ้อหนียิ้มแล้วพูดขึ้น
หลี่ชางถามอย่างประหลาดใจ “เจ้ามาพบข้าเพราะมีอะไรงั้นรึ?”
“อืม”
อูเอ๋อร์เฮ้อหนีพยักหน้า “ข้ามีเรื่องจะขอร้องแม่ทัพหลี่จริงๆ
หลี่ชางโบกมือแล้วพูดขึ้นว่า “มีเรื่องอะไรก็ว่ามาได้เลย เกรงใจอะไรกันเล่า”
อูเอ๋อร์เฮ้อหนีลังเลขึ้นมา ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็กัดฟันถามขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้แม่ทัพหลี่จับขุนนางในเมืองมาไม่น้อยเลยใช่รึไม่?”
หลี่ชางพยักหน้า “เป็นเช่นนั้น ทำไมรึ?”
อูเอ๋อร์เฮ้อหนีถอนหายใจแล้วส่ายหน้าอย่างจนปัญญา เขาพูดว่า
“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ในบรรดาขุนนางเหล่านั้น ข้าหวังว่าท่านแม่ทัพจะยอมเมตตาปล่อยคนจำนวนร้อยกว่าคนได้รึไม่......”
หลี่ชางอึ้งไป เดิมทีเขาคิดว่าที่อูเอ๋อร์เฮ้อหนีมาหาเขาเพราะจะคุยเรื่องอยู่หรือไป ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้ แต่ว่าเขาก็ลังเลแล้วพยักหน้าทันที
“เรื่องนี้รึ?” อูเอ๋อร์เฮ้อหนีถอนหายใจแล้วส่ายหน้าพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “เจ้าเกลี้ยกล่อมให้องค์ชายสามอยู่ต่อเถิด หากองค์ชายสามอยู่ ข้าก็จะอยู่”
“เอ่อ......ย่อมได้”
หลี่ชางรู้สึกสลดทันที แม้ว่าเขาจะชื่นชอบความสามารถของอูเอ๋อร์เฮ้อหนี แต่จะบังคับให้อยู่ต่อก็ไม่ได้ อย่างไรก็หาวิธีเกลี้ยกล่อมองค์ชายสามของพวกเขาดีกว่า
ทั้งสองคุยกันอีกหน่อย จากนั้นหลี่ชางก็ลาอูเอ๋อร์เฮ้อหนี
เมื่ออูเอ๋อร์เฮ้อหนีจากไปแล้วก็ได้ไปรับคนที่ที่คุมขัง และได้พาคนในครอบครัวหนึ่งร้อยกว่าคนนั้นออกมา เมื่อเห็นคนพวกนี้แล้ว มีส่วนใหญ่ที่เป็นคนชรา ผู้หญิงและเด็กที่ไร้กำลัง
อูเอ๋อร์เฮ้อหนีถอนหายใจแล้วพูดเสียงดังว่า
“ทุกท่านโปรดฟังข้า ในอนาคตไม่แน่ว่าข้าจะไปหรืออยู่ต่อ และไม่อาจพาทุกคนไปด้วยได้ คนอื่นๆเองก็หายสาบสูญ สิ่งที่ข้าทำได้ก็มีขีดจำกัด พวกเจ้าอยู่ที่นี่ต่อก่อนเถิด คนอาณาจักรฉินไม่เลวเลยทีเดียว แถมยังแจกจ่ายเสบียงให้ด้วย อย่างน้อยก็ไม่ต้องหิวแล้ว”
“ไว้ในอนาคตแม่ทัพหลักคนอื่นๆกลับมาแล้ว ชีวิตของพวกเจ้าก็จะมีความหวังอีกครั้ง พวกเจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง?”
เมื่อเขาพูดจบทุกคนก็พากันหารือกัน แต่ว่าคนพวกนี้ไม่ได้แสดงท่าทีสนับสนุน และไม่มีใครออกมาคัดค้านด้วย
อูเอ๋อร์เฮ้อหนีเห็นสถานการณ์เช่นนั้นแล้วก็ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า
“แน่นอนว่าทุกท่านจะไม่สามารถได้มีชีวิตเช่นขุนนางอีกแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าชีวิตที่ต้องหวาดผวาทุกวัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...