“เกรงว่าสำหรับท่านคงจะเริ่มต้นด้วยผู้นำธงแดงหรือไม่ก็อาจจะได้เป็นผู้นำธงเหลืองเลยด้วยซ้ำ”
“ถูกต้องท้ายที่สุดแล้วในเรื่องของความสามารถและคุณสมบัติ ข้าเกรงว่าในเมืองเปียงยางจะไม่มีใครเหมาะสมแล้วนอกจากท่าน”
ทุกคนเริ่มชมเชยเขา
รอยยิ้มกว้างปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเจ้าเมืองคนนั้น
เขายังคงแกล้งทำเป็นถ่อมตัวและยิ้ม
“ทุกท่านก็พูดเกินไป เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุป ต้องรอท่านผู้นำแต่งตั้งเสียก่อน อย่าเดาไปสุ่มสี่สุ่มห้าเลย...”
แม้ว่าเขาจะดูถ่อมตัว แต่ในใจเขากลับมีความสุข
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่า ในตอนนั้นที่ให้อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้เข้ามาในเมืองเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดของเขา
เมื่อเขาได้รับตำแหน่งผู้นำแห่งแปดกองธง เขาจะกลายเป็นผู้นำสูงสุดในชนเผ่านวี่ห์เจิน
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ครอบครัวที่คอยสนับสนุนเขาก็จะกลายเป็นคนของแปดกองธงด้วยเช่นกัน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจ้าเมืองรู้สึกสบายใจ
เพราะเขารู้สึกว่า ตนต้องได้เป็นหนึ่งในผู้นำแปดกองธงแน่นอน
เขานึกไม่ออกเลยว่าในเมืองเปียงยาง นอกจากเขาแล้ว ยังจะมีใครอื่นที่มีคุณสมบัติเหมือนเขาอีกหรือ?
เขาไม่เพียงแต่ต้องการถูกเลือกเท่านั้น แต่เขาอยากลองเป็นผู้นำธงแดงที่มีอำนาจเหนือคนทั้งปวง
อย่างไรก็ตาม หน้าตาที่ดูเสแสร้งของเขา ในสายตาของทุกคนรู้สึกว่าเสแสร้งมากเกินไป
พวกเขาเม้มริมฝีปากแน่น
แต่กลับไม่พูดอะไร เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นเรื่องไม่ฉลาดนักหากทำให้ท่านเจ้าเมืองขุ่นเคืองใจเพราะเขามีโอกาสเป็นหนึ่งในผู้นำแปดกองธงในอนาคต
เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่าสถานะและอำนาจของพวกเขานั้น ไม่สามารถแข่งกับอีกฝ่ายได้
ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจผูกมิตร ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาต้องประจบประแจงอีกฝ่ายก่อน
ตั้งแต่นั้นมา ทุกคนต่างชมเชยท่านเจ้าเมืองตัวน้อยคนนั้น
เจ้าเมืองตัวน้อยคนนั้นในใจมีความสุข แต่ยังคงแสดงสีหน้าถ่อมตัว
“ทุกคนชมข้ากันเกินไปแล้ว ข้าจะเป็นผู้นำแปดกองธงได้อย่างไร...”
อย่างไรก็ตามในใจเขามีความสุขมาก เขาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าหากตนเองเป็นผู้นำแปดกองธงจะเป็นอย่างไร
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ จนถึงตอนเย็น เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ฮูมู่หลู่จึงเริ่มลงมือทันที
เขารู้อยู่แล้วว่าขุนนางคนไหนเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองเปียงยาง
ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน ฮูมู่หลู่เดินอกผายไหล่ผึ่งไปยังบ้านของขุนนางคนนั้นพร้อมกับทหารยามสองสามคน
“หยุด เจ้ากำลังทำอะไร?”
ทันทีที่พวกเขามาถึงประตู เขาพลันเห็นทหารยามหลายคนเมายืนขวางและถามอย่างเย็นชาทันที
ทหารยามเหล่านี้คือทหารที่คอยปกป้องความปลอดภัยในคฤหาสน์นั่นเอง
เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดุร้ายของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาพร้อมที่จะใช้กำลังทำร้ายร่างกายได้ตลอดเวลา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ขุนนางเริ่มระแวง แต่ใบหน้าของเขาไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
“เอ๋? ไม่ทราบว่าสิ่งใดหรือ ท่านใต้เท้าฮูมู่หลู่พอจะแสดงให้ข้าดูได้หรือไม่?”
พูดจบ เขาพลันยื่นมาออกไปเพื่อแสดงให้ฮูมู่หลู่แสดงของออกมา
ฮูมู่หลู่ยิ้ม จากนั้นหันกลับไปสั่งทหารองครักษ์ให้นำของออกมา
ของสิ่งนั้นคือธงเหลือง
ขุนนางวัยกลางคนคนนั้นมองเห็นดังนั้น ตาโตด้วยความตกใจ
“ธงเหลืองหรือขอรับ?
ฮูมู่หลู่หัวเราะ “ถูกต้อง ท่านผู้นำให้ธงเหลืองนี้แก่ข้า”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายวัยกลางคนอึ้งไปในทันที
ยังจะไม่เข้าใจหรือ? พูดได้ว่าตอนนี้ฮูมู่หลู่เป็นผู้นำธงเหลืองนั่นเอง
แปดกองธงของชนเผ่านวี่ห์เจินมีสถานะสูง อีกทั้งยังแบ่งออกเป็นแปดระดับดังนี้ ธงเหลืองขลิบ ธงเหลือง ธงแดง ธงแดงขลิบ ธงขาวขลิบ ธงขาว ธงคราม ธงครามขลิบ
ธงเหลืองเป็นธงที่รองลงมาจากธงเหลืองขลิบ
กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ตอนนี้ฮูมู่หลู่เป็นรองท่านผู้นำ
ประชาชนในชนเผ่านวี่ห์เจินให้ความเคารพแปดกองธงเป็นอย่างมาก ชีวิตของพวกเขาในตอนนี้ครั้งหนึ่งเคยต่อสู้เพื่อแปดกองธงมาแล้ว
ดังนั้นขุนนางวัยกลางคนจึงเลิกดูถูกฮูมู่หลู่มานานแล้ว เขารีบก้มลงและโค้งคำนับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...