องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1166

“ยินดีที่ได้พบผู้นำกองธง ขอให้เทพเจ้าหมาป่าอวยพรท่านขอรับ”

เมื่อเห็นท่าทีของขุนนางวัยกลางคนๆ นั้นแล้ว ฮูมู่หลู่รู้สึกมีความสุขและพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“อืม ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรหรือ?”

“ข้ามีนามว่า เออร์เดน ขอรับ”

ขุนนางวัยกลางคนตอบกลับ ไม่ว่าในใจเขาจะรู้สึกเช่นไร แต่ต้องแสดงท่าทีเคารพออกมาเป็นพอ

ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับชนเผ่านวี่ห์เจิน แปดกองธงถือว่าอำนาจมาก

ถ้าเขาทำให้ฮูมู่หลู่ไม่พอใจขึ้นมาล่ะก็ เขาอาจจะไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากความตาย

“เออร์เดน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดวันนี้ข้าถึงมาหาเจ้า?” ฮูมู่หลู่ถาม

“ไม่ทราบขอรับ” ขุนนางวัยกลางคนส่ายหน้า

ฮูมู่หลู่ยิ้มและตอบกลับว่า

“ฮ่าๆ เจ้าเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง แต่ข้าเองก็ขี้เกียจพูดจาไร้สาระ”

“เจ้าอยากเป็นหนึ่งในผู้นำกองธงหรือไม่?”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเออร์เดนตกใจมาก

เขาอดไม่ได้ที่จะมองธงที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่

แต่ไม่นาน เขาก็ตอบสนองและพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“ใต้เท้าฮูมู่หลู่ ท่านกำลังทดสอบข้าอยู่หรือ? ข้าไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่าง จะได้ธงมาครอบครองได้อย่างไรกัน?”

ฮูมู่หลู่ยิ้มและพูดว่า “ฮ่าๆ ใครบอกกันว่าเจ้าทำอะไรไม่สำเร็จเลย พูดอีกอย่างก็คือไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่อยู่ตรงหน้าเสมอไป”

เขาแสร้งทำเป็นมีลับลมคมในและพูดว่า “ตราบใดที่เจ้าเห็นด้วยและสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อท่านผู้นำ ข้าจะแนะนำเจ้าในตำแหน่งหนึ่งในผู้นำกองธงให้ ข้ารับรองว่าเจ้ามีส่วนร่วมนั้นแน่นอน”

ทันทีที่ฮูมู่หลู่พูดเช่นนี้ รูม่านตาของเออร์เดนหดลงเหลือเท่าเข็มหมุดทันที

เดิมทีเขาคิดว่าอีกฝ่ายมาเยาะเย้ยเขา

แต่ไม่คาดหวังว่าจะมีการเสนอเงื่อนไขที่น่าสนใจเช่นนี้

ต้องรู้ว่าตำแหน่งผู้นำธงไม่เพียงแต่ได้รับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งเท่านั้น แต่ทำมาซึ่งอำนาจและความแข็งแกร่งอีกด้วย

ทันใดนั้นการหายใจของเออร์เดนก็เร็วขึ้น

หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เขากัดฟันและพูดขึ้นมาว่า

“ใต้เท้าฮูมู่หลู่ ข้าไม่สนใจว่าท่านจะเสนอเงื่อนไขนี้ให้แก่ข้าหรือไม่ แต่ข้าภักดีต่อท่านผู้นำ ไม่มีวันคิดเป็นอื่น...”

ฮูมู่หลู่ระเบิดเสียงหัวเราะดังออกมา

“ดี! เจ้าเป็นคนน่าสนใจจริงๆ!”

ทันใดนั้นรีบสั่งออกไปว่า

“ในเมื่อเจ้ามีความมุ่งมั่นมากเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะไปหาท่านผู้นำเพื่อแนะนำเจ้า แนะนำให้เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ถือธง!”

“ขอบพระคุณท่านใต้เท้าฮูมู่หลู่เป็นอย่างมาก”

เออร์เดนตื่นเต้นมาก จนโค้งคำนับให้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ฮูมู่หลู่ยังไม่ได้กลับไป เขานั่งดื่มชาต่อ

“ใต้เท้าฮูมู่หลู่มีเรื่องอันใดอีกหรือขอรับ?”

เออร์เดนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสับสน

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็หยิบจี้ฟันหมาป่าออกมาจากแขนของเขาและโยนให้ฮูมู่หลู่

เพราะตอนที่เขาออกมาจากเจ้อหลี่มู่เหมิงสถานการณ์วุ่นวายมาก อีกทั้งเขาไม่มีของมีค่าติดตัวมาเลย ดังนั้นนั่นคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวเขา

ฮูมู่หลู่หยิบจี้หมาป่าขึ้นมาและรู้สึกรังเกียจในใจ เพราะเขาเพิ่งรวมรวบสมบัติได้มากมายขนาดนั้น จะสนใจของพรรค์นี้หรือ?

แต่เขายังคงแสร้งทำเป็นดีใจและพูดว่า “ขอบพระทัยท่านผู้นำ กระหม่อมรู้สึกตื้นตันใจมากพ่ะย่ะค่ะ”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้โบกมือให้เขากลับไป จากนั้นตนก็เอนกายลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความตื่นเต้น

ด้วยการสนับสนุนของเหล่าขุนนาง ใครก็ตามที่กล้าควบคุมอำนาจของเขาในเมืองเปียงยางเท่ากับว่ากำลังรนหาความตาย!

“โอกาสในการกลับมามีอำนาจมาถึงแล้ว ฮ่าๆ อาณาจักรฉิน ข้าจะทำให้เจ้าชดใช้ด้วยเลือด โดยเฉพาะไอ้สุนัขจรจัดอย่างหลี่ชาง และไอ้สารเลวอูเอ๋อร์เฮ้อหนี!”

เสียงของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้เต็มไปด้วยความเย็นชาและขุ่นเคืองใจ ราวกับว่าเขาเกลียดอาณาจักรฉินสุดใจ

แต่ไม่นานความโกรธนี้พลันหายไปและถูกแทนที่ด้วยความทะเยอทะยานและความโลภ

พรุ่งนี้เขาจะเข้าควบคุมเมืองเปียงยางอย่างเต็มตัวแล้ว!

ในเวลาเดียวกัน ด้านผู้นำตัวน้อยที่นอนไม่หลับด้วยความดีใจ

บางทีพรุ่งนี้เขาอาจถูกเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแปดกองธงก็เป็นได้

ด้วยความตื่นเต้น เขาวิ่งไปที่ป้ายของเทพเจ้าหมาป่าและคำนับสามครั้ง

จากนั้นกลับเข้าห้องไปนอน

แต่เขาไม่รู้ว่าผู้นำแปดกองธงนั้นได้ถูกเลือกเอาไว้แล้ว ดังนั้นความสุขของเขาจึงไร้ความหมาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์