วันต่อมา พระอาทิตย์ยามเช้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เมืองเปียงยางสว่างไปทั่วเมือง
ขุนนางจำนวนมากในเมืองเริ่มตื่นขึ้นมาแต่งตัวก่อนรุ่งสาง ผมที่ไม่ได้สระมาหลายเดือนก็ถูกสระให้สะอาด
พวกเขาสวมเสื้อผ้าทุกแบบและจัดการตัวเองให้เรียบร้อย หวังว่าจะแสดงภาพลักษณ์ที่ดีที่สุดออกมา
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว เขาก็รีบไปยังพระราชวัง
เพราะคนที่ไม่รู้เรื่อง ต่างหวังว่าจะมีโอกาสเป็นผู้โชคดีคนนั้น
สำหรับคนที่ได้รับการทาบทามมาแล้วนั้นพลันมีท่าทีเคร่งขรึม สำหรับพวกเขาวันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
นี่คือวันที่พวกเขาจะมีอำนาจเหนือฟ้า พวกเขาต้องแสดงท่าทีจริงจัง อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปได้
ในไม่ช้า ขุนนางจำนวนมากก็มารวมตัวกันที่ห้องโถง เพื่อรอคำสั่งของท่านผู้นำ
“เฮ้อ ไม่รู้ว่าวันนี้ท่านผู้นำจะเลือกผู้นำกองธงทั้งหมดกี่คน?”
“ไม่รู้เลย”
“พวกเจ้าลองเดาสิว่าครั้งนี้จะมีขุนนางกี่คน?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นพวกขุนนางตระกูลใหญ่เหล่านั้นแน่!”
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น
“จะเดากันอยู่ทำไมเล่า? พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของท่านผู้นำ ใครก็ตามที่ท่านผู้นำขอให้เป็นผู้นำธง ก็คือคนนั้นนั่นแหละ!”
เออร์เดนยืนอยู่ข้างฝูงชน ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะฟังบทสนทนารอบตัว
น้ำเสียงเขาแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ขุนนางหลายคนรู้สึกไม่พอใจทันที
อย่างไรก็ตามเพราะเออร์เดนเป็นขุนนางที่มีความสามารถและแข็งแกร่ง จึงไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ
ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นหนึ่งในขุนนางชั้นยอดของเมืองเปียงยาง
“เออร์เดน เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ราวกับว่าเจ้าภักดีต่อท่านผู้นำอย่างไรอย่างนั้น
ในเวลานี้ ท่านเจ้าเมืองยืนขึ้นอย่างไม่พอใจและกล่าวหาเออร์เดนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้นำตัวเล็กๆ ธรรมดาๆ แต่เขาเป็นถึงท่านเจ้าเมือง ก่อนที่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้จะมาที่นี่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองเปียงยางเขาเป็นคนตัดสินใจ
ตอนนี้เออร์เดนมีท่าทีเสแสร้งเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาต้องลุกขึ้นมาตำหนิอีกฝ่าย
เออร์เดนเหลือบมองเขาและพูดเบาๆ ว่า
“เจ้ากล้าพูดเช่นนี้หรือ? ในตอนที่ท่านผู้นำขอเข้ามาในเมืองเจ้ากลับมีท่าทีอิดออด หนำซ้ำในช่วงนี้ไม่ว่าท่านผู้นำออกคำสั่งอะไร เจ้าก็มักจะขัดขวาง เจ้าเป็นขุนนางที่ภักดีจริงหรือ?”
เออร์เดนพูดตรงกับใจ เมื่อคืนฮูมู่หลู่พูดกับเขาชัดเจนแล้ว เขาจะยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
ความจริงที่ว่าเขาถูกเลื่อนตำแหน่งให้สูงเช่นนี้ได้ แสดงให้เห็นว่าถ้าหลังจากนี้ท่านเจ้าเมืองยังเป็นท่านเจ้าเมืองอยู่ ส่วนเขาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำธง เขาจะพึ่งพาตำแหน่งนั้น
เขายังจะกลัวคนอื่นอีกหรือ?
อีกทั้งเขารู้ดีว่า ท่านผู้นำไม่พอใจอีกฝ่ายมานานแล้ว อีกอย่างตอนนี้เขาสนับสนุนฝั่งท่านผู้นำ เขาต้องแสดงท่าทีบางอย่างออกมา
“ไร้สาระ! คนโง่อย่างเจ้าจะรู้ความคิดของข้าได้อย่างไร?”
ท่านเจ้าเมืองกัดฟันแน่น ระงับความโกรธและปล่อยมือเขาออกจากคอเสื้ออีกฝ่าย
เขาจ้องมองเออร์เดนด้วยสายตาดุเดือดและพูดเสียงเบาว่า
“เจ้าคนไร้สมอง เจ้าจะไปรู้อะไร? เจ้าไม่เห็นหรือว่าท่านผู้นำไม่ได้พูดอะไรเลย! เขาเข้าใจความพยายามของข้า ไม่เหมือนเจ้าที่ไร้สมองคิดแต่จะกัดคนอื่น”
พูดจบ เขาหันหลังกลับไปและรอท่านผู้นำปรากฎตัว
เออร์เดนเม้มริมฝีปาก และไม่ได้คิดจริงจังกับคำขู่ของอีกฝ่ายเลย
เขาส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อย และรอท่านผู้นำอย่างเงียบๆ
ในไม่ช้า ในตอนที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ มีรถม้าคันหนึ่งขับผ่านมาอย่างช้าๆ โดยมีทหารยามคอยคุ้มครองจำนวนมาก
ทุกคนมองไปที่รถม้าและรู้สึกตื่นเต้น
พวกเขารู้ว่าท่านผู้นำกำลังมา
แน่นอนว่ารถม้าก็หยุดต่อหน้าทุกคน
จากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงมา
คนๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้
“เข้าเฝ้าท่านผู้นำพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อเห็นอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ ทุกคนรีบคุกเข่าลงและตะโกนต้อนรับด้วยความเคารพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...