องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1178

ทหารยามที่รับผิดชอบในการตรวจสอบคนโค้งคำนับด้วยความเคารพและถามออกไป

จางฝูส่ายหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่เหนื่อย ข้ารอต้อนรับพวกเขาแล้วค่อยไป ลำบากพวกเจ้าหน่อยนะ ความปลอดภัยในเมืองถูเหอขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว”

เขาพูดกับทหารยามทั้งสองอย่างเป็นกันเองราวกับเป็นเพื่อนเก่า ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด

ทหารยามทั้งสองรู้สึกยินดี รีบเข้ามาพูดคุยกับจางฝูอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ได้พูดคุยกันสักพัก จู่ๆ ยามพลันชี้มาแต่ไกลแล้วถามว่า

“ใต้เท้าจาง ดูนั่นสิขอรับ คนที่ท่านกำลังรอดูเหมือนว่าจะมาถึงแล้ว!”

จางฝูหันกลับไปพลันเห็นรถม้าหลายคันขับเข้ามาอย่างช้าๆ

“ฮ่าๆ ในที่สุดก็มาถึงแล้ว” จางฝูพูดด้วยสีหน้ามี่ความสุขและรีบเดินไปทักทายพวกเขา

ขบวนรถกลุ่มนี้เป็นคนที่เขารออยู่จริงๆ คือตัวแทนจากทั้งสามตระกูล พวกเขามารวมตัวกันที่นี่เพื่อเจรจากับอาณาจักรฉิน

ผู้นำทั้งสามตระกูลเป็นผู้นำของแต่ละกลุ่ม

ผู้นำตระกูลหลิวคือหลิวอวี่หลินที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าตระกูล

นอกจากนี้ขบวนรถยังมีคนหนุ่มสาวจากสามตระกูลใหญ่ในกลุ่มด้วย ตงเป่ยเอฟโฟร์ มากันครบทุกคน

ในกลุ่ม จางจวินขี่ม้าเข้ามารวมกับกลุ่มของตระกูลหลิว และเดินเคียงข้างหลิวอวี่หลิน

แม้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะเป็นผู้นำตระกูล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันใช่หรือไม่?

“นี่ พี่ใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นกำแพงสูงขนาดนี้!”

เจ้าสาม หยางคังมองไปที่กำแพงสูงตระหง่านของเมืองถูเหออดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “เมืองถูเหอยิ่งใหญ่มากจริงๆ!”

แม้แต่หลิวอวี่หลินที่อ่านรายงานต่างๆ มาก่อนแล้วยังต้องรู้สึกประหลาดใจ

คนอื่นมองแค่ภายนอก สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากก็คือชาวอาณาจักรฉินสร้างกำแพงเมืองเล็กๆ ที่ผุพังให้ดูดีขนาดนี้ได้อย่างไร?

ความยากระดับนี้ ยังยากกว่าการสร้างเมืองใหม่ใช่หรือไม่?

“ฮ่าๆ ยังมีอีกหลายอย่างในเมืองนี้ที่พวกเจ้าต้องตะลึง เมื่อเข้าไปในเมืองพวกเจ้าจะรู้เอง”

จางจวินพูดด้วยรอยยิ้ม

ทุกคนต่างพากันพยักหน้า จากนั้นอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ประตูเมืองด้วยสายตาคาดหวัง

พวกเขาทั้งหมดต้องการรีบเข้าไปในเมืองเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าทุกอย่างเจริญรุ่งเรืองมากแค่ไหน ในขณะเดียวกัน พวกเขาอยากเห็นว่าเมืองถูเหอที่อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรฉินนั้นเป็นอย่างไร

ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงหน้าประตูเมือง

จางฝูที่ยืนอยู่ข้างนอกประตูเมืองเดินเข้ามาทักทายพวกเขาด้วยตัวเอง

“ฮ่าๆ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านในที่สุดก็มาถึงแล้ว”

จางฝูทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง

ผู้นำตระกูลทั้งสามไม่กล้ารีรอ พวกเขารีบลงจากรถและโค้งคำนับทำความเคารพ

กลุ่มคุณชายและคุณหนูแห่งตระกูลผู้มีอำนาจเห็นการเปลี่ยนแปลงในเมืองด้วยตาตัวเอง ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

มีเพียงหลิวอวี่หลินเท่านั้นที่ยังนิ่งเงียบ ดวงตาของเขาสั่นไหม

จางฝูเห็นท่าทีเช่นนั้นจึงถามออกไปว่า

“หัวหน้าตระกูลหลิวดูแลตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือว่าเป็นวีรบุรุษจริงๆ”

เมื่อได้ยินคำชม หลิวอวี่หลินพูดอย่างถ่อมตัว “ใต้เท้าจางก็ชมเกินไปแล้ว เมื่อเทียบกับท่าน ข้าไม่ได้เก่งขนาดนั้นขอรับ”

จางฝูส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“เจ้าอย่าดูถูกตัวเองเลย ในใต้หล้านี้ใครจะไม่รู้ว่าอ๋องเหยียนให้ความสำคัญกับความสามารถ ขอเพียงแค่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นใครเจ้า ขอเพียงแค่เจ้าทำด้วยความมุ่งมั่น ในอนาคตย่อมประสบผลสำเร็จ ข้าเกรงว่าพวกคำเยินยอจะไร้ซึ่งความหมาย”

“ใต้เท้าจางพูดเล่นแล้ว กลยุทธ์เก็บเสบียงทั้งสามของท่านมีชื่อเสียงดังไปทั่ว ข้าชื่นชมท่านมากขอรับ” หลิวอวี่หลินยังคงพูดอย่างอ่อนโยนและให้เกียรติ

เขาพูดอย่างสุภาพและมีความนับถือในสีหน้าของเขา

ใจของจางฝูกระตุกทันที ทันใดนั้นเขาก็ถามว่า

“ข้าจำได้ว่าในตอนที่ข้าใช้วิธีนี้ดึงพ่อค้าขายธัญพืช ในตอนนั้นคนของตระกูลหลิวส่งมามากที่สุดใช่หรือไม่?”

ตระกูลหลิวอยู่ทางตอนเหนือ และมีหลิวอวี่หลินที่เป็นบุตรแห่งกิเลนเป็นคนดูแล เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะไม่รู้แผนการของเขา

ในเมื่อเห็นแผนการของเขาแล้ว เหตุใดถึงส่งพ่อค้าธัญพืชมาจำนวนมาก?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์