องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1182

“นั่นสิท่านแม่ทัพ ต่อให้ต้องตายเราก็ต้องทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บ!”

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาต่างก็ขอให้บัญชา แต่แม่ทัพขบวนกลับเงียบไป ผ่านไปนานเขาก็เงยหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า

“หนีรึ? แล้วจะหนีไปที่ใดได้อีก เรายอมแพ้กันเถิด”

“หา?”

“ท่านแม่ทัพเสียสติไปแล้วรึ?”

“เรายอมตาย ไม่ยอมเป็นทาสขอรับ!”

“ใช่ขอรับท่าน เราจะไม่ยอมเป็นสุนัขรับใช้ของพวกมัน!”

เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ทัพขบวนแล้ว เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาก็สีหน้าประหลาดใจ ไม่อาจยอมรับผลลัพธ์นี้ได้

“หึหึ......”

แม่ทัพขบวนส่ายหน้าแล้วยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นก็ถามกลับว่า

“แต่ว่าหากไม่ยอมแพ้ แล้วเราจะทำอย่างไรได้อีก?”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วทุกคนก็เงียบลง

เมื่อแม่ทัพขบวนเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า

“ในเมื่อสูญเสียการควบคุมสถานการณ์แล้วก็ปล่อยไปตามยถากรรมเถิด เรายอมแพ้กันเถิด หากยอมแพ้ บางทีอาจะมีข้าเพียงคนเดียวที่ต้องตาย แต่หากต่อต้านต่อไปเราจะตายกันหมด!”

“คือ......”

คนอื่นๆเองก็แสดงสีหน้าลังเล แต่ว่าคำพูดของแม่ทัพขบวนก็ถูกต้อง พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้แล้ว อย่างไรในตอนนี้สถานการณ์ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าพวกเขาพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ต่อต้านต่อไปเกรงว่าจะต้องตายสถานเดียว

แต่ว่าหากให้แม่ทัพของพวกเขาไปตายเพื่อให้พวกเขารอด ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่อยากยอมรับ แต่เมื่อมองกองเลือดที่อยู่รอบๆ และศพที่เกลื่อนอยู่เต็มไปหมด พวกเขาก็รู้ทันทีว่านี่คือทางเลือกเพียงทางเดียว

แม่ทัพขบวนมองทุกคนแล้วพูดอย่างจริงจังว่า

“ข้าต้องฝากครอบครัวของข้าด้วยแล้ว ข้าขอบคุณอย่างมากที่ในยามเช่นนี้พวกเจ้ายังยินดีที่จะติดตามข้า และต่อสู้กับข้ามาจนถึงตอนนี้ ข้าก็พึงพอใจมากแล้ว!”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นแล้วก็แสดงสีหน้าโศกเศร้า น้ำตาไหลรินไม่หยุด แม่ทัพขบวนตบบ่าพวกเขาแล้วหันหน้ามองไปยังฮูมู่หลู่ที่กำลังไล่ล่ามาจากที่ไกลๆ

เขาตะโกนว่า “ฮูมู่หลู่ หากเข่นฆ่ากันต่อไปก็ไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น ข้ายินดีที่จะยอมแพ้ ข้าจะเป็นหรือตายก็ได้ แต่ช่วยปล่อยเหล่าสหายของข้าไปได้รึไม่!”

เมื่อฮูมู่หลู่เห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วเบาๆ แต่สุดท้ายก็พยักหน้าแล้วพูดว่า

“พวกเจ้ายอมแพ้ พวกข้าก็ไม่ไล่ล่าจนตายกันหมด เพียงแค่ยอมแพ้ ข้าก็รับรองว่าจะสังหารเพียงแม่ทัพเท่านั้น!”

บัดนี้เกิดเรื่องมากมายเพียงนี้ มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและล้มตายมากมาย อีกอย่างเจ้าพวกคนที่ติดตามแม่ทัพบวนผู้นี้ก็ล้วนเป็นนักรบ ฮูมู่หลู่ก็ไม่อยากจะสังหารพวกเขา

“ขอบคุณ!”

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วแม่ทัพขบวนก็ยิ้มอย่างดีใจ จากนั้นก็หันหน้าไปตะโกนว่า

“เหล่าสหาย หยุดต่อสู้ได้แล้ว ฟังข้าซะ ยอมแพ้ให้หมด! การต่อสู้จบลงแล้ว!”

“ว่าอย่างไรนะ?”

ทันใดนั้นเหล่าทหารกบฏก็ได้ถูกคุมตัวไปยังลานประหาร

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ยืนอยู่บนขั้นบันไดแล้วมองเหล่าทหารกบฏอย่างเหยียดหยาม แถมยังมีชาวเมืองที่นับไม่ถ้วนด้วย สุดท้ายก็มองไปยังแม่ทัพขบวนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า

“ข้าคือท่านผู้นำ แต่เจ้ากลับบังอาจทรยศข้า ข้าสมควรต้องโทษเช่นไร?”

แม่ทัพขบวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “แพ้เป็นโจร ชนะเป็นกษัตริย์ บัดนี้เจ้าจะพูดอะไรก็ได้ แต่ว่า ข้าหวังว่าเจ้าจะปล่อยเหล่าสหายของข้าไป!”

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ก็หรี่ตา ดวงตาประกายความโหดร้ายขึ้นว่า

“หือ? งั้นรึ?”

เขาค่อยๆเดินลงมาแล้วเดินมาใกล้แม่ทัพขบวน จากนั้นก็ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า

“เจ้าอยากให้ข้าปล่อยพวกผู้สมรู้ร่วมคิดของเจ้าไปรึ? ข้าไม่มีทางให้เป็นดังที่เจ้าปรารถนาอยู่แล้ว”

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ก็ประกาศเสียงดังต่อหน้าเหล่าชาวเมือง และต่อหน้าอีกฝ่ายที่ประหลาดใจว่า

“เจ้าพวกกบฏบังอาจก่อกบฏ มีความผิดมหันต์ ข้าขอประกาศว่าให้สังหารทุกคนให้หมด!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วทุกคนก็ตกตะลึงกันหมด แม่ทัพขบวนเบิกตากว้างแล้วจ้องอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้อย่างเหลือเชื่อ เขาด่าทอเสียงดังว่า “ต่ำช้า! ไร้ยางอาย!”

แต่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้กลับไม่แยแสเขาแล้วเดินกลับไปยังบัลลังก์ จากนั้นก็พูดว่า

“เริ่มตั้งแต่โตไปเด็ก เริ่มจากเขาซะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์