เขาชี้ไปยังแม่ทัพขบวนแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ทันใดนั้นก็มีทหารไปจับตัวเขาแล้วลากไปยังตรงกลางลาน จากนั้นเพชฌฆาตก็หยิบดาบขึ้นมาแล้ววางทาบตรงคอของแม่ทัพขบวนเพื่อลงมือ
แม่ทัพขบวนตะโกนร้องอย่างสุดเสียงว่า “อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้เจ้าคนสารเลว เจ้าพูดว่าหากยอมแพ้จะสังหารข้าเพียงคนเดียวแล้วปล่อยคนอื่นๆ เจ้าพวกไร้สัจจะ พวกเจ้ามันสัตว์เดรัจฉาน!”
เขาตะโกนอย่างสุดเสียง ราวกับจะปลดปล่อยความโกรธและความเกลียดชังทั้งหมดที่อยู่ในใจออกมา
“หึหึ ข้าให้สัจจะกับเจ้างั้นรึ?”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดอย่างไม่เกรงใจใดๆว่า
“คนอื่นให้สัจจะแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็โบกมือให้สังหารทันที
เพชฌฆาตชูดาบขึ้นมาแล้วฟันลงตรงคอของแม่ทัพขบวน ส่วนแม่ทัพขบวนก็หลับตาลงแน่นรอคอยความคายเงียบๆ
ศีรษะของแม่ทัพขบวนถูกบั่นเพียงดาบเดียว เลือดสาดกระจายไปหมด
“แม่ทัพขอรับ!”
เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าทหารกบฏก็เจ็บปวดอย่างมาก และคุกเข่าร้องไห้โฮกันหมด แม้แต่พวกขุนนางเองก็ต้องหลบตาอย่างอดใจไม่ไหว อย่างไรเขาก็ได้ดูแลเมืองเปียงยางมาหลายสิบปี
เหล่าชาวเมืองต่างก็อึ้งไปหมด มีหญิงสาวมากมายที่ตกใจจนเข่าอ่อน สีหน้าซีดเซียว
แม่ทัพขบวนที่ช่วยพวกเขาคลี่คลายปัญหาเรื่องแล้วเรื่องเล่า บัดนี้กลับมาตายอยู่ตรงหน้า ทำให้รู้สึกปวดใจอย่างยิ่ง
“ฮือๆๆ”
ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่เหล่าชายหนุ่มที่สนับสนุนแม่ทัพขบวนผู้นั้นมาตลอดเองก็คุกเข่ากับพื้น ปิดกน้าแล้วร้องไห้อย่างเจ็บปวด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกบฏ แต่แม่ทัพขบวนก็มีบุญคุณกับพวกเขาอย่างมากจริงๆ
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้กลับสีหน้าไม่เปลี่ยนเลย เขาโบกมือต่อว่า
“นำผู้นำชั้นกลางมาประหารให้หมด!”
จากนั้นทหารก็ได้พาชายหนุ่มหลายสิบคนขึ้นมา
เมื่อเหล่าผู้นำเห็นดังนั้นก็ด่าทอขึ้นมาทันที
“อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ เจ้าคนสารเลวไร้สัจจะ เจ้าไม่ได้ตายดีแน่!”
“ข้าขอสาปแช่งให้พวกเจ้าทั้งหมด!”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ได้ยินดังนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึมทันที เขาถีบคนที่ด่าทอแรงที่สุดแล้วตะโกนว่า
“คนที่เหลือ ให้ยิงเป้าทั้งหมด ข้าผู้นี้จะทำให้ทุกคนได้รู้ว่า ที่คือจุดจบของคนที่ทรยศข้า!”
เมื่อสิ้นเสียง เหล่าทหารกบฏก็รู้สึกสิ้นหวัง หวาดผวากันอย่างมาก แต่ว่านี่กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย อย่างไรพวกเขาก็ถูกกำหนดให้ไม่อาจรอดพ้นจากความตายได้ มีลูกธนูยิงมาอย่างโหมกระหน่ำ
เหล่าทหารกบฏถูกยิงเข้าร่างกายและร้องออกมาอย่างอนาถ พวกเขาล้มลงกองกับกองเลือด ไม่นานผู้ที่ล่มตายก็มากกว่าครึ่งแล้ว และจำนวนก็มากขึ้นเรื่อยๆด้วย!
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว เหล่าขุนนางก็ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่สับสน เหล่าชาวเมืองทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ภายในทหารกบฏนี้มีหลายคนที่เป็นเครือญาติของพวกเขา หรือไม่ก็เป็นสหายกันมาตั้งแต่ยังเล็กจนโต
และแล้วเมื่อเกือบจะสังหารไปกว่าครึ่งแล้ว ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวและก้าวออกมาตะโกนว่า
“ท่านผู้นำบ้าบออะไรกัน ให้ตายเถิด เจ้ากำลังเข่นฆ่าคนเผ่าเดียวกัน เจ้าเดรัจฉาน เจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นท่านผู้นำของเรา!”
ในขณะที่พูดเช่นนั้นเขาก็ยังรู้สึกไม่สาแก่ใจ เขาได้หยิบรูปวาดของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ที่ถูกแจกมาออกมา จากนั้นก็ถ่มน้ำลายใส่ภาพนั้นแล้วโยนลงพื้น แถมยังเหยียบย่ำแล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า
“เจ้าพวกสัตว์เดรัจฉาน ชอบฆ่านักไม่ใช่รึ? มาสิ มาฆ่าข้าด้วยเลยสิ!”
“ให้ตายเถิด เจ้าชาวเมืองชั้นต่ำบังอาจดูหมิ่นท่านผู้นำรึ รนหาที่ตายรึไง!”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้เห็นดังนั้นก็เดือดดาลอย่างมาก เขาตะโกนขึ้นว่า “ทหาร ฆ่ามันซะ!”
“ฮ่าๆๆ......เอาสิ มาฆ่าข้าเลย!”
แต่ว่าชายคนนั้นกลับไม่เกรงกลัวเลย เขาหัวเราะเสียงดังแล้วหลับตาลง แสดงท่าทีจะทำอะไรก็แล้วแต่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...