องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1190

หลิวอวี่หลินยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าคิดว่าที่อ๋องเหยียนไม่ยอมพบเรา นั่นเพราะเขากำลังรอโอกาสบางอย่างอยู่”

เมื่อพูดเช่นนี้แล้วทุกคนที่อยู่รอบๆก็เงียบลง

“โอกาสรึ? โอกาสอะไร?”

หลิวอวี่หลินยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “พวกท่านเคยได้ยินเรื่องที่อาณาจักรฉินเคลื่อนทัพต่อสู้กับชนเผ่าหนี่ว์เจินรึไม่”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วทุกคนก็แสดงสีหน้าสงสัยแล้วเงียบลง

จู่ๆก็มีคนนึกขึ้นได้แล้วถามอย่างตกตะลึงว่า “ผู้นำตระกูลหลิวหมายถึงแม่ทัพหลี่ชางแห่งอาณาจักรฉินอย่างนั้นรึ?”

“ใช่แล้ว!”

หลิวอวี่หลินค่อยๆพยักหน้าแล้วพูดว่า “จากรายงาน แม่ทัพหลี่ชางกำลังนำทัพโจมตีเมืองเปียงยาง หากสามารถยึดครองได้สำเร็จ ชนเผ่าหนี่ว์เจินก็จะล่มสลายทันที!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยนไป และพากันถกเถียงขึ้นมา สำหรับผู้นำตระกูลทั้งสามแล้ว ชนเผ่าหนี่ว์เจินคือสิ่งที่ใหญ่มหึมาอย่างมาก

พวกเขาเหล่านี้เทียบอะไรไม่ได้เลย ชนเผ่าหนี่ว์เจินคือรัฐบรรณาการที่มีกองกำลังทหารเองโดยแท้จริง หากแม้แต่ชนเผ่าหนี่วืเจินยังล่มสลาย แล้วพวกเขาจะมีความมั่นใจอะไรในอาณาจักรฉินอีก? อย่างไรสำหรับอาณาจักรฉินแล้ว พวกเขาไม่มีภัยใดๆเลย

เมื่อคิดดังนั้นแล้วก็มีคนแสดงสีหน้าขมขื่นออกมาทันที หลิวอวี่หลินเห็นดังนั้นก็พูดต่อว่า

“ทุกท่าน ข้าคิดว่าอ๋องเหยียนกำลังรอรายงานนี้อยู่ ทันทีที่แน่นอนว่าชนเผ่าหนี่ว์เจินล่มสลาย ก็จะเรียกเราเข้าพบ เพราะนี่ไม่เพียงแต่จะกำจัดหนามยอกอกของเขาไปได้เท่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือ อาณาจักรฉินจะมีสิทธิ์มากกว่าในการเจรจาครั้งนี้แล้ว!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วทุกคนก็ต่างครุ่นคิด ผ่านไปนานผู้นำตระกูลอู๋ก็เงยหน้ามองหลิวอวี่หลินแล้วถามว่า

“เจ้าพูดถูก แล้วเจ้าคิดว่าคราวนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรรึ?”

เมื่อเขาพูดเช่นนั้นแล้วทุกคนก็มองไปยังหลิวอวี่หลิน

หลิวอวี่หลินเองก็ไม่มัวรีรอ เขาตอบกลับทันทีว่า “ทุกท่านเป็นกังวลไปก็ไม่อาจแก้ไขสิ่งใดได้ หากเป็นเช่นนั้นก็สู้ไปเที่ยวให้สนุกสนานจะดีกว่า ในเมื่ออาณาจักรฉินเชื้อเชิญให้เราเที่ยวชม เช่นนั้นเราก็ไปเที่ยวชมก็พอแล้ว!”

เมื่อเขาพูดดังนั้นแล้วทุกคนก็เงียบกันหมด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วใครจะมีอารมณ์ไปเที่ยวอีก

ผู้นำตระกูลอู๋อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอีกว่า “แล้วเจ้าคิดว่าชนเผ่าหนี่ว์เจินจะล่มสลายจริงรึไม่?”

“แน่นอน” หลิวอวี่หลินตอบกลับทันที “แม้ชนเผ่าหนี่ว์เจินจะยอดเยี่ยม แต่หากเทียบกับอาณาจักรฉินก็ยังห่างไกลกันมาก!”

หลิวอวี่หลินพูดถูก ต่อให้ชนเผ่าหนี่ว์เจินจะเชี่ยวชาญด้านต่อสู้ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงการทะเลาะวิวาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับอาณาจักรฉินแล้วยังห่างชั้นกันมาก อย่างไรอาณาจักรฉินก็สามารถทำให้อาณาจักรเยี่ยนล่มสลายได้แล้ว ชนเผ่าหนี่ว์เจินที่เป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรเยี่ยนก็ง่ายยิ่งกว่า

หลิวอวี่หลินไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย เพราะชื่อเสียงของอาณาจักรฉินไม่แปดเปื้อนเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่มีคนมองสถานการณ์ออกได้อย่างชัดเจนแล้วเลือกที่จะไปพัฒนาต่อที่อาณาจักรฉิน ในทีแรกอาจมีขาดทุนสูญเสียไปบ้าง แต่ในอนาคตจะได้ทดแทนคืนมาอย่างแน่นอน บัดนี้พวกเขาเหล่านั้นต่างมีชีวิตที่ดีอย่างยิ่ง

ดังนั้นสิ่งที่หลิวอวี่หลินกล่าวมานั้นไม่ใช่เรื่องโกหกแต่อย่างใด

“ได้”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็เริ่มมีชีวิตชีวากันขึ้นมา

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ควรจะตระเตรียมกิจการของตระกูลให้ดีเพื่อที่จะส่งมอบให้อาณาจักรฉิน เพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งกว่าในแก่ตระกูลในอนาคต

เมื่อมีหลิวอวี่หลินช่วยชี้แนะแล้ว ทุกคนก็อารมณ์ดีกันมากขึ้น มีหลายคนที่เริ่มวางแผนจะประจบอาณาจักรฉินอย่างไรแล้ว เมื่อหลิวอวี่หลินเห็นทุกคนตระหนักกันแล้วก็โล่งใจ

เขากังวลจริงๆว่าจะยังมีคนทำตัวหยิ่งยโส ดึงดันจะท้าชนกับอาณาจักรฉิน จนทำให้เยี่ยนเป่ยเกิดความโกลาหลอีกครั้ง เช่นนั้นตระกูลหลิวก็คงอยู่ในจุดที่ทำตัวไม่ถูก ไม่อาจเลือกได้ว่าจะเข้าข้างใคร

ดึกมาแล้ว ทุกคนก็ได้กลับห้องนอนของตนเองเพื่อพักผ่อน เว้นแต่จางจวิ้นที่ได้เดินมาที่ลานด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง เขายืนเป่าลมอันหนาวเหน็บแล้วเหม่อ

ถือว่าเขาได้ทำภารกิจที่อาณาจักรฉินมอบให้สำเร็จแล้ว อย่างไรเขาก็ได้ทำให้ตระกูลทั้งสามมาเจรจาได้แล้ว ตามตกลงคนอาณาจักรฉินจะไว้ชีวิตเขา แต่แล้วในอนาคตเขาจะไปที่ใดกัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์