เขารอแทบไม่ไหวที่จะต่อสู้กับอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้ชีวิตเขาอยู่ในกำมืออีกฝ่ายแล้ว เขาจะกล้าทำผิดได้อย่างไร?
ทั่วป๋าหงเลี่ยชอบท่าทีเช่นนี้ เขายิ้มชั่วร้ายและเอื้อมมือไปตบแก้มอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้
“ทำไม? ไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้รีบก้มหน้าลงและพูดด้วยความเคารพ
หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เห็นได้ชัดว่าในใจเขาน้อยเนื้อต่ำใจมาก
“ในเมื่อเจ้าไม่กล้า ดังนั้นจงเป็นสุนัขรับใช้ของข้า!” ทั่วป๋าหงเลี่ยจ้องไปที่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวด้วยสายตาเหนือกว่า
อ้ายซินเจวี๋ยหลังหย่งอี้สั่นไปทั้งตัว แต่ในขณะนี้เขาทำได้เพียงคลานไปที่เท้าของทั่วป๋าหงเลี่ยและพูดเสียงสั่น
“ท่านข่าน ข้าจะภักดีต่อท่านเหมือนสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ตลอดไปพ่ะย่ะค่ะ!”
“ดีมาก” ทั่วป๋าหงเลี่ยยิ้ม
“ทหาร พาตัวสุนัขตัวใหม่ของข้าไปที่ที่พี่เถิงอยู่”
ทหารยามที่อยู่ข้างๆได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินเข้ามาพาตัวอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ไป
เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องทุกอย่าง ทั่วป๋าหงเลี่ยเดินกลับไปที่นั่งของตัวเองพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
ผู้นำชนเผ่าอีกหลายคนก็หัวเราะออกมาอย่างสุขใจเช่นกัน
ในอดีต ระหว่างพวกเขาและชนเผ่านวี่ห์เจินมีเรื่องบาดหมางและการต่อสู้มานานหลายร้อยปี
และตอนนี้ท่านผู้นำแห่งชนเผ่านวี่ห์เจินได้กลายเป็นสุนัขรับใช้ของท่านข่านไปแล้ว แม้ว่าจะไม่สำคัญมากนัก แต่ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
“ครืน!”
ทันใดนั้นม่านเต็นท์ใหญ่ก็ถูกเปิดออก จู่ๆ มีทหารยามเดินเข้ามา
“ท่านข่าน อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหงจื้อ องค์ชายสามแห่งชนเผ่านวี่ห์เจิน ต้อการเข้าเฝ้าท่านเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือพ่ะย่ะค่ะ”
เขาพูดอย่างเคารพ
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป ทุกคนในเต็นท์ต่างตกใจ
มาอีกคนแล้วหรือ?
แถมยังเป็นคนจากชนเผ่านวี่ห์เจินอีก? อีกทั้งคิดว่าน่าจะเป็นน้องชายของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้
“ช่างน่าสนใจจริงๆ ท่านข่านหรือว่าพวกเราจะรับสุนัขรับใช้เข้ามาอีกตัวพ่ะย่ะค่ะ?”
“ฮ่าๆ ชนเผ่านวี่ห์เจินนี่ช่างน่าสนใจยิ่งนัก รีบไปเปิดประตูต้อนรับสุนัขรับใช้อีกตัวเข้ามาเถิด”
ทุกคนต่างหัวเราะ แม้แต่ทั่วป๋าหงเลี่ยเองยังอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาถามออกไปอย่างสนใจ
“มาทั้งหมดกี่คน? มีทหารของฝั่งนั้นมาด้วยหรือไม่?”
“มีทหารม้าสองพันนาย ทั้งหมดต่างมาขอความร่วมมือพ่ะย่ะค่ะ!”
ชนเผ่านวี่ห์เจินครั้งหนึ่งเองก็ไม่อาจปบ่อยให้ทหารนับหมื่นให้จัดการชนเผ่าตัวเองเป็นเวลาร้อยปีได้
แน่นอน แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่คนสองพันคนไม่ได้ทำให้ทั่วป๋าหงเลี่ยสนใจมากเท่าไหร่
เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายต้องการนำทัพมาเข้าร่วมกับตน เช่นนั้นต้องมีท่าทีสุภาพ มิฉะนั้นหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะทำให้คนอื่นไม่กล้าร่วมทัพกับเขา ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียมากกว่าได้กำไร
ดังนั้นทั่วป๋าหงเลี่ยจึงถามความตั้งใจอีกฝ่ายไปตรงๆ เพราไม่ต้องการให้เสียเวลา
“ท่านข่าน ข้าอยากเข้าร่วมกับท่านจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหงจื้อพูดอย่างเคร่งขรึม
“เพราะเหตุใดกัน?”
ทั่วป๋าหงเลี่ยมองเขาด้วยสายตาสนใจ
“เจ้าสามารถรวบรวมทหารได้กว่าสองพันคน เจ้าสามารถหนีไปได้และสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในพื้นที่ทุ่งหญ้าได้ แต่เจ้ากลับอยากเข้าร่วมกับข้าอย่างนั้นหรือ? เข้ามีแผนการอื่นใดแอบแฝงอย่างนั้นหรือ?”
ตาของทั่วป๋าหงเลี่ยหรี่ลงเล็กน้อย เขาพยายามถามต้อน
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหงจื้อส่ายหัวและพูดอย่างใจเย็น
“เพราะข้าต้องการแก้แค้น”
“เอ๋? แก้แค้น?” ทั่วป๋าหงเลี่ยเลิกคิ้วถาม
“ถูกต้อง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...