“หือ?”
ทั่วป๋าหงเลี่ยอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ทำเสียงเย็นชาพูดว่า “ไม่ว่าอาณาจักรฉินจะแข็งแกร่งเพียงใด ทหารม้าเหล็กของชาวตาดก็จะบั่นคอของพวกเขาเช่นเคย”
ท่านหลี่ส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่ กำลังของอาณาจักรฉินนั้นไม่ได้อ่อนแออย่างที่ข่านคิดเลย ข้าขอถามข่านเสียหน่อย ข่านคิดว่าทหารม้าเหล็กของชนเผ่าหนี่ว์เจินเป็นอย่างไร?”
เมื่อได้ยินดังนั้นทั่วป๋าหงเลี่ยก็ครุ่นคิด
เมื่อครุ่นคิดแล้วเขาก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า “ทหารม้าเหล็กของชนเผ่าหนี่ว์เจินมีความสุดยอดอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางต่อสู้กับพวกข้ามาได้นานเพียงนี้......”
“ถูกแล้ว” ท่านหลี่พยักหน้า จากนั้นก็ถามด้วยสายตาที่สงสัยว่า “ข้าขอถามข่านอีกครั้งว่า ในอดีตชาวตาดเคยฝ่าเข้าไปถึงเมืองหลงของชนเผ่าหนี่ว์เจินรึไม่? หรือก็คือภูเขาหลางจูซู”
เมื่อได้ยินดังนั้นทั่วป๋าหงเลี่ยก็เงียบลง ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วพูดว่า
“นั่นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา พวกเขาเห็นมันสำคัญยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก จะฝ่าเข้าไปถึงที่นั่นก็ต้องกวาดล้างชนเผ่าหนี่ว์เจินไปให้ได้เสียก่อน”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าอยากจะเตือนข่านเสียหน่อยว่า อย่าลืมเชียวว่าอาณาจักรฉินใช้เวลาเป็นไม่กี่เดือนก็สามารถกวาดล้างชนเผ่าหนี่ว์เจินไปได้แล้ว”
“ขุนพลชนะศึกหลี่ชางแห่งอาณาจักรฉินใช้กำลังทหารเพียงสามพันนายก็สามารถฝ่าเข้าไปถึงส่วนกลางของชนเผ่าหนี่ว์เจินได้แล้ว และได้บุกเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปได้ด้วย พระราชสำนักเจ้อหลี่มู่เหมิงของพวกเขา สุดท้ายเมืองเปียงยางของพวกเขา......”
“เช่นนี้แล้วข่านยังคิดว่าอาณาจักรฉินไม่คู่ควรให้เราคิดมากงั้นรึ?”
ประโยคนี้ทำเอาทั่วป๋าหงเลี่ยอึ้งไป จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเองก็เคร่งขรึม ราวกับกำลังพยายามรับสารเมื่อครู่นี้ ผ่านไปครู่หนึ่งทั่วป๋าหงเลี่ยก็พูดขึ้นว่า
“จากความหมายของเจ้า หากพวกข้าขัดแย้งกับอาณาจักรฉิน ก็มีแต่ต้องตายอย่างนั้นรึ?”
เมื่อได้ยินดังนั้นท่านหลี่กลับส่ายหน้าแล้วยิ้มพูดว่า “ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”
“แล้วมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?” ทั่วป๋าหงเลี่ยถามต่อ
ท่านหลี่ยิ้มอย่างมีลับลมคมในแล้วพูดว่า “บัดนี้อาณาจักรฉินเองก็มีปัญหาไม่น้อย หากเราเปิดสงครามกับพวกเขาจะพ่ายแพ้ก็จริง แต่หากเราค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆวางแผน อาณาจักรฉินจะต้องล่มสลายเป็นแน่!”
“หือ?” ทั่วป๋าหงเลี่ยเลิกคิ้วแล้วพูดอย่างประหลาดใจว่า “พวกเขามีปัญหาอะไร? แล้วเราจะมีการวางแผนอย่างไร?”
“ข่านดูนี่สิ!” ท่านหลี่ชี้ไปยังระเบียนแล้วพูดว่า “นี่คือข่าวสารที่ข้าให้คนส่งมาจากอาณาจักรฉิน จากการอนุมานของข้า แหล่งเสบียงอาหารของอาณาจักรฉินเกิดปัญหาใหญ่อย่างยิ่ง แหล่งเสบียงมีไม่เพียงพอต่อการแจกจ่ายนับตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อนแล้ว”
“ใช่แล้ว!” ท่านหลี่พยักหน้าแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “ข้ายินดีที่จะเป็นตัวแทนคณะทูตไปยังอาณาจักรพัลแฮ รับรองว่าจะต้องยึดอาณาจักรพัลแฮเป็นของเราได้แน่!”
ในขณะที่ท่านหลี่พูดใบหน้าก็แสดงสีหน้าที่ภูมิใจออกมา ราวกับว่าจะครอบครองอาณาจักรพัลแฮได้เป็นแน่
ทั่วป๋าหงเลี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาเงียบไปนาน จากนั้นก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองท่านหลี่ แล้วพูดว่า
“ดี เช่นนั้นก็ทำตามที่ท่านกล่าวมา หลังจากเตรียมตัวแล้วเจ้าก็ไปเยือนที่อาณาจักรพัลแฮ อาณาจักรฉินเพิ่งจะรวมเก้าแคว้นเป็นหนึ่งเดียวได้ไม่นาน เก้าแคว้นยังไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หากเกิดความโกลาหล อาณาจักรฉินจะต้องล่มสลายเป็นแน่!”
เมื่อได้ยินทั่วป๋าหงเลี่ยพูดจบแล้วท่านหลี่ก็โค้งตัวคำนับพูดว่า
“ข้าจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้ แล้วจะมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรพัลแฮเพื่อทำการเจรจาให้อีกไม่กี่วันให้หลัง!”
ทั้งสองพูดคุยรายละเอียดอีกครั้ง จากนั้นก็ให้ท่านหลี่ถอยไป
จากนั้นทั่วป๋าหงเลี่ยก็ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่านี่คือแผนที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง เขารีบเรียกเหล่าผู้นำและขุนนางมาเพื่อทำการหารือเรื่องนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...