องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1218

จู่ๆผู้นำคนก่อนก็ถามขึ้นว่า “แต่ว่าหลินเอ๋อร์ อ๋องเหยียนมีปรีชาญาณมากเพียงนั้นเชียวรึ?”

หลิวอวี่หลินลังเลแล้วส่ายหน้าพูดว่า “ลูกไม่ทราบ แต่ลูกกำลังลองเชิงอยู่ ลูกได้ทำให้อ๋องเหยียนเข้าใจผิดว่าลูกเป็นคนที่ยึดติดกับตระกูลอย่างยิ่ง และจะลองเชิงอีกสักสองครั้ง หากอ๋องเหยียนมีความมุ่งมาดปรารถนาอันยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นนายที่หาได้ยาก ลูกจะต้องคอยรับใช้อย่างสุดกำลังเป็นแน่ขอรับ!”

ผู้นำคนก่อนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ เขาตบบ่าของหลิวอวี่หลินแล้วพูดว่า

“อืม เจ้ารู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว พ่อจะสนับสนุนเจ้าอย่างสุดกำลัง......”

......

ยามบ่าย เมืองถูเหอ จวนเจ้าเมือง บัดนี้กำลังจัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเตรียมการงานเลี้ยงกลางคืนสำหรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่า

แต่ว่า ในขณะที่พวกจางฝูกำลังมีความสุขกับฉินเหยียนอยู่ จู่ๆก็ได้รับข่าวจากองครักษ์เงา ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

เมื่อพวกจางฝูเห็นดังนั้นก็หุบยิ้มแล้วรีบถามขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นรึพ่ะย่ะค่ะ?”

ฉินเหยียนส่ายหน้าแล้วยืนขึ้น แล้วพูดว่า “ต้องขออภัยด้วยทุกท่าน ข้าต้องขอตัวก่อน ท่านจาง ตามข้ามาเถิด”

ว่าแล้วก็พาจางฝูออกไป แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด ระหว่างทางจางฝูเองก็ไม่กล้าถามอะไร เขามีลางสังหรณ์ว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเป็นแน่

ฉินเหยียนเดินไปด้วย และเรียกต้าหย่งมาด้วย เขาออกคำสั่งว่า

“เจ้าจงไปบอกกล่าวพี่เจ็ดเอาไว้ด้วย ให้เขาคอยรับมือที่งานเลี้ยงก่อน แล้วเรียกจ้าวจือหย่ามาที่ห้องสมุด”

ต้าหย่งพยักหน้า “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”

จากนั้นก็รีบจากไป

ส่วนฉินเหยียนก็พาจางฝูมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด ไม่นานจ้าวจือหย่าก็ได้มาถึงห้องสมุดด้วย

“นั่งกันก่อนสิ” ฉินเหยียนโบกมือเพื่อให้ทั้งสองนั่งลง เขามองจางฝูด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วถามขึ้นว่า

“ลูกบุญธรรมจางจวิ้นของเจ้า เดินทางไปยังอาณาจักรพัลแฮตั้งแต่เมื่อไร”

จางฝูอึ้งไป จากนั้นก็พูดอย่างประหลาดใจว่า “วันนี้ยามเช้าพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องมีอะไรรึพ่ะย่ะค่ะ?”

“แย่แล้ว”

ฉินเหยียนถอนหายใจยาวๆ เขาหลับตาลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ผ่านไปนานจึงพูดว่า

ผ่านไปนานจางฝูจึงจะดึงสติกลับมาได้ เขาพูดอย่างเหลือเชื่อว่า

“ชาวตาดจะเฉลียวฉลาดเช่นนั้นได้อย่างไร ไม่เพียงแต่จะมองเห็นปัญหาของอาณาจักรฉินได้อย่างเฉียบขาด แถมยังได้ออกปฏิบัติการก่อนตั้งห้าหกวัน นำหน้าพวกเราเสียหมด”

จ้าวจือหย่าขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “บางทีเราอาจจะดูถูกชาวตาดมากเกินไป ในชาวตาดมีผู้เฉลียวฉลาด”

“มาพูดเรื่องนี้เอาตอนนี้ก็สายไปแล้ว”

ฉินเหยียนถอนหายใจยาวๆ เขาดูเหนื่อยล้าไปหมด ตอนนี้เขารู้สึกถึงความปวดศีรษะแล้ว เขาดูถูกพวกชาวตาดไปจริงๆ จะว่าไปก็จริง ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่นั้น ชาวทุ่งหญ้าได้กดดันจนทำให้ฮ่องเต้ชาวฮั่นที่มีชื่อเสียงไม่กล้าจะออกมาเลยด้วยซ้ำ มีเพียงการส่งองค์หญิงมาสมรสเพื่อสันติภาพ

เป็นเวลาห้าพันปีมาแล้ว หรือก็คือเหล่าพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ที่จะเอาชาวทุ่งหญ้าได้อยู่หมัด ส่วนใหญ่แล้วคนที่ราบภาคกลางจะไม่อาจแข็งขันกับชาวทุ่งหญ้าได้ ที่เหลือก็เป็นโศกนาฏกรรม ถึงขั้นที่เคยมีปรากฏว่าคนทางเหนือเคยถูกมองเป็นอาหาร นำมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารของชาวทุ่งหญ้า จนแทบเกือบจะถูกกวาดล้าง......

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เห็นว่าทุ่งหญ้าเป็นสถานที่น่าผวาเพียงใด ส่วนฉินเหยียน เนื่องด้วยหลายปีมานี้ทุกอย่างราบรื่นมากเกินไป จึงทำให้เขาไม่ได้ระมัดระวัง

จางฝูรีบครุ่นคิด ผ่านชั่วครู่เขาก็รีบลุกขึ้นแล้วประสานมือคารวะพูดว่า

“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ขณะนี้เราจะมานั่งรอเช่นนี้ไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นก็จะต้องถูกชาวตาดจูงจมูกไป กระหม่อมคิดว่ารีบส่งคนไปยังต้าเยว่จื้อ โครยอ ทิเบต เจียวจือ ที่เป็นพรมแดนกับอาณาจักรฉินจะดีกว่า เพื่อซื้อเสบียงอาหารเติมเต็มคลังเสบียงในแต่ละแห่งเอาไว้ เพื่อในยามฉุกเฉินพ่ะย่ะค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์