องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1228

แต่หลี่เหยียนคังกลับไม่กระวนกระวายเลย เขาจ้องมองทั่วป๋าหงเลี่ยแล้วพูดอย่างจริงจังว่า

“อาณาจักรพัลแฮปฏิเสธเราเช่นนี้ ที่พวกเขามั่นใจเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าได้เข้าร่วมกับอาณาจักรฉินแล้ว ดังนั้นหากเราเปิดสงครามกับอาณาจักรพัลแฮในสถานการณ์เช่นนี้ จะต้องเผชิญกับสงครามอาณาจักรฉินด้วยเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”

“บังอาจ เจ้ามีสิทธิ์พูดอะไรที่นี่ด้วยรึ?”

“ใช่ บอกไว้แล้วนี่ว่าต่อให้เป็นอาณาจักรฉินก็เท่านั้น ก็แค่พวกอ่อนแอเท่านั้น คิดว่ามีกำลังอะไรมากนักรึ?”

หลี่เหยียนคังขมวดคิ้วแล้วด่าทอในใจว่าพวกเขาโง่เขลา

แต่เขาไม่กล้าด่าออกมาตรงๆ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ทุกคนโกรธเอาได้ จึงทำได้เพียงอธิบายอย่างใจเย็นว่า

“อาณาจักรฉินไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกเจ้า การจะจัดการกับอาณาจักรฉินจะต้องวางแผน บุ่มบ่ามมิได้”

เขาคิดว่าพวกคนนี้จะเข้าใจคำเตือนของเขา แต่ทั่วป๋าเยี่ยนกลับหัวเราะเสียงดัง

“ฮ่าๆ! พวกข้าชาวทุ่งหญ้าสูงใหญ่และเชี่ยวชาญการต่อสู้ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด ต้องระมัดระวังด้วยรึ?”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วสีหน้าของทั่วป๋าเยี่ยนก็ค่อยๆเย็นชาขึ้นมา เขาพูดว่า

“แต่ว่าเจ้า นี่คือการหารือกันของขุนนาง ใช่ว่าคนชั้นต่ำอย่างเจ้าจะเข้ามาพูดแทรกได้ ทหาร นำเขาออกไป!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ทหารที่อยู่ข้างๆรีบเดินมาแล้วจะหามตัวหลี่เหยียนคังไป

สายตาของหลี่เหยียนคังค่อยๆเย็นชา สุดท้ายก็มองไปยังทั่วป๋าหงเลี่ยที่เป็นความหวังสุดท้าย แต่น่าผิดหวัง ที่บัดนี้ทั่วป๋าหงเลี่ยกลับไม่พูดอะไรเลย

หลี่เหยียนคังถอนหายใจอย่างขมขื่น จากนั้นก็ยืดอกแล้วถามว่า

“ไม่มีใครคิดว่าสิ่งที่ข้ากล่าวมีเหตุผลบ้างเลยงั้นรึ?”

เดิมทีทั่วป๋าเยี่ยนยังคิดจะประชดประชัน แต่ทันใดนั้นก็เกิดสถานการณ์ที่ทำเอาเขาประหลาดใจ จู่ๆก็มีผู้นำสองคนและขุนนางราวสี่ห้าคนยืนขึ้น แล้วพูดกับทั่วป๋าหงเลี่ยว่า

“ข่านพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมคิดว่าสิ่งที่เขากล่าวมามีเหตุผลอยู่บ้างพ่ะย่ะค่ะ”

ภาพนี้ทำเอาทั่วป๋าหงเลี่ยอึ้งไป เขาไม่คิดเลยว่าจะมีผู้นำสองคนและขุนนางหลายคนให้การสนับสนุนหลี่เหยียนคัง! เหล่าผู้นำคนอื่นๆเองก็งุนงง และพากันถามคนเหล่านั้นขึ้นมาว่า

“เมื่ออาณาจักรฉิน เก้าแคว้นเกิดความโกลาหลขึ้น พวกเขาก็จะวุ่นวายไปหมด แล้วเราก็จะยึดครองที่ราบกลาง!”

หลี่เหยียนคังพูดถึงแผนการล้อมอาณาจักรของตนเองอย่างกระตือรือร้นให้ทุกคนฟัง สิ่งที่เขาพูดในตอนนี้คือแผนใหม่ในการยึดครองอาณาจักรฉินแบบใหม่ที่เขาคิดขึ้น

บัดนี้ได้หลุดมือจากอาณาจักรพัลแฮแล้ว พวกเขาได้หลุดเข้าไปแล้ว หากเปิดสงครามกับอาณาจักรฉินในสถานการณ์เช่นนี้ก็จะโง่เขลาอย่างยิ่ง

เพราะอาณาจักรฉินในตอนนี้ได้ครอบครองอาณาจักรพัลแฮ เท่ากับว่าได้มีเสบียงอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ต่อให้เสบียงอาหารของพวกเขาจะไม่เพียงพอ แต่ในระยะสั้นๆนี้จะไม่มีเหตุการณ์ขาดแคลนเสบียงอีกแน่นอน

การทำสงครามกับอาณาจักรฉินในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ต้องเผชิญคืออาณาจักรฉินที่กำลังเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง ไม่รู้เลยว่าจะแพ้หรือชนะ และสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด ก็คือนี่คือการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงด้วย

ดังนั้นหลี่เหยียนคังจึงได้ครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน เขาจะใช้ประโยชน์ที่สถานการณ์เก้าแคว้นยังไม่คงที่ และความวิตกกังวลของอาณาจักรต่างๆที่อยู่รอบๆ เพื่อสร้างความวุ่นวายให้แก่อาณาจักรฉิน และบรรลุเป้าหมายการยึดครองที่ราบกลาง

หลี่เหยียนคังมีความมั่นใจอย่างยิ่ง เพียงแค่แผนได้ดำเนินการ หากใช่ระยะเวลานานก็สิบปี สั้นก็สามถึงห้าปี เขาก็สามารถทำให้อาณาจักรฉินตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากได้!

แน่นอนว่าไม่ค่อยจะมีใครเชื่อคำพูดของเขา แม้แต่ทั่วป๋าเยี่ยนก็หัวเราะ

“หึหึ! คนที่ราบกลางมีคำที่พูดกันว่า ปิดที่ราบภาคกลางอะไรนั่น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์