ฉินเหยียนไม่พูดอะไร แต่เขากลับมองเพื่อบอกว่าให้อีกฝ่ายพูดต่อ
หลิวอวี่หลินพูดต่อว่า
“ในอาณาจักรหลู่และเยี่ยนไม่เคยเกิดภัยน้ำท่วมขึ้นมาก่อน หรือพูดได้เลยว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากเลยก็ว่าได้ พวกเขาไม่รู้ว่าในเจียงหนานและพื้นที่อื่นๆ เรื่องน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นภายใต้การยุยงของคนนอก พวกเขาอาจคิดว่าเป็นเพราะทางการอาณาจักรอู๋นั้นละเลยเรื่องนี้ และอาจนำไปสู่เรื่องร้ายแรง ว่าเพราอะไรในอาณาจักรเยี่ยนและอาณาจักรหลู่ถึงไม่เกิดน้ำท่วม?”
“ประชาชนในอาณาจักรอู๋ก็เช่นกัน พวกเขาคิดว่าหน่วยงานของทางการได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในขณะที่คนของทั้งสองอาณาจักรเกิดความขัดแย้งทางความคิด และสุดท้ายอาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลง”
ฉินเหยียนขมวดคิ้ว แต่หลิวอวี่หลินยังคงกลัวว่าฉินเหยียนจะไม่เชื่อ ดังนั้นเขาจึงยกตัวอย่างต่อไป
“ทุกฤดูหนาวในอาณาจักรเยี่ยน ประชาชนบางคนถึงกับต้องหนาวตาย แม้ว่าอาณาจักรฉินจะติดตั้งระบบทำความร้อนใต้พื้นให้กับทุกครัวเรือนแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อเรื่องนี้ถูกคนที่สนใจนำมาใช้ประโยชน์ ทำให้เกิดการอภิปรายทั้งจิ่วโจวได้”
“ประชาชนในอาณาจักรอื่นไม่รู้ว่าในอาณาจักรเยี่ยนนั้นหนาวแค่ไหน พวกเขาคิดแค่ว่าอาณาจักรฉินลำเอียง เห็นแก่ประชาชนในอาณาจักรเยี่ยนมากกว่า ผลก็คือสถานการณ์ในอาณาจักรเยี่ยนยังคงเป็นเช่นนั้น ต้องมีคนยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเองแน่นอน”
“ประชาชนในอาณาจักรเยี่ยนรู้สึกเสียใจ ใครกันจะรอดในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ได้ ความขัดแย้งครั้งใหม่ของทั้งสองฝ่ายจึงเกิดขึ้น... หากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ หากมีคนจงใจยุแยง ทั้งจิ่วโจวจะตกอยู่ในความระส่ำระสายทันที”
“เป็นไปได้ว่าจิ่วโจวอาจจะทำให้กลุ่มคนที่รู้จักกันในนามราชวงศ์เก่าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อฟื้นฟูอาณาจักรเอง!”
หลังจากฉินเหยียนได้ฟังคำอธิบายเหล่านี้แล้ว ใจเขาพลันเต้นรัว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เขาไม่เคยพิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันในจิ่วโจวด้วยมุมมองนี้มาก่อน แต่หลังจากที่ได้ยินการวิเคราะห์ของอีกฝ่าย เขาเองก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล
ฉินเหยียนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงโลกที่เขาจากมา ในโลกนั้นมักจะมีการโจมตีลับหลังหลายแบบบนโลกอินเตอร์เน็ต บางครั้งบางเรื่องก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ แม้ว่าเรื่องแบบนี้จะมีรัฐบาลคอยจัดการอยู่ก็ตาม
อาณาจักรฉินในตอนนี้ไม่ได้รับมือกับเรื่องนี้เลย ตราบใดที่อาณาจักรอื่นมีความคิดเช่นนี้ พวกเขาจะค่อยๆ แทรกความคิดเช่นนี้ลงไปในความคิดประชาชนได้
ในตอนที่ฉินเหยียนเหมือนไม่ได้จดจ่อ หลิวอวี่หลินก็พูดถึงความอันตรายของเรื่องนี้
“ข้อพิพาทในตอนแรกอาจจะมองไม่เห็น ท่านอ๋อง พระองค์ทรงไม่อาจจับตาดูประชาชนบนท้องถนนได้ตลอดเวลาว่าพวกเขากำลังแพร่งพรายเรื่องใด แต่เมื่อถึงตอนที่พระองค์ทรงทราบ สถานการณ์ในตอนนั้นก็อาจจะยากเกินว่าที่พระองค์จะควบคุมได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าขอลองถาม หากประชาชนในอาณาจักรอู๋ถูกยั่วยุ และลุกขึ้นมาหยิบจอบหยิบเสียมออกมาเรียกร้องกับอาณาจักรฉิน ท่านจะทำเช่นไร? หรือเมื่อประชาชนทั้งสองอาณาจักรกำลังจะทะเลาะกัน ท่านจะทำอย่างไรหรือ?”
ฉินเหยียนเงียบอยู่นาน ในที่สุดก็ขมวดคิ้วและพูดว่า
“พวกเราควรปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเป็นกลาง ประชาชนทั้งสองอาณาจักรที่มีข้อพิพาทต่อกันจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม”
“แต่ประชาชนในทั้งสองอาณาจักรเองมีความคับข้องใจ พวกเขาต่างคิดว่าอาณาจักรฉินควรเห็นใจพวกเขาทั้งสองฝ่าย หากอาณาจักรทำทุกอย่างให้เป็นกลาง การกระทำที่เป็นกลางบางอย่างมักจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะเกิดความขัดแย้งขึ้นมาได้”
ฉินเหยียนเงียบอีกครั้ง
“อ้อ? เจ้ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือ?”
ฉินเหยียนสนใจทันที
หลังจากที่หลิวอวี่หลินหยักหน้า เขาก็พูดขึ้นว่า
“ท่านอ๋อง กระหม่อมคิดว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองทรัพยากรและกำลังคน บนภาคพื้นดินอาณาจักรฉินยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเผชิญ แต่หากท่านอ๋องมุ่งให้ความสนใจกับภาคท้องทะเลและสร้างกองทัพเรือ มันอาจจะไม่ถูกใช้งาน เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มเสียพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ เขาพยายามหาคำพูดที่ดีที่สุดแล้ว ตอนแรกเขาต้องการพูดให้ตรงไปตรงมามากกว่านี้
แต่ในของฉินเหยียนกลับหล่นวูบเมื่อได้ยินเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ตำหนิอีกฝ่าย เพราะแผนการของเขาก้าวหน้าเกินไป หากพูดตามตรงถ้าหลิวอวี่หลินเข้าใจและเอ่ยปากสนับสนุน เขาเองก็คงจะสงสัยว่าอีกฝ่ายข้ามทะลุมิติมาเหมือนเขาแล้ว
“ข้าเข้าใจความหมายที่เจ้าต้องการจะสื่อ แต่การสร้างอู่ต่อเรือในอาณาจักรอู๋จะไม่มีการหยุด ข้าจะลงทุนเพิ่มอีกในอนาคต!”
ฉินเหยียนพูดอย่างหนักแน่น
หลิวอวี่หลินตะลึงไป เดิมทีเขาต้องการโน้มน้าวอีกฝ่ายเพิ่ม แต่ฉินเหยียนโบกมือปัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...