ไม่ให้เขาพูดต่อ เขาจึงทำได้แค่กลืนคำพูดทั้งหมดเข้าไป และพูดออกมาได้เพียงว่า
“ในเมื่อท่านอ๋องไม่อยากฟัง กระหม่อมจะเก็บข้อสงสัยเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนไม่สนใจและถามไปว่า
“เจ้าคิดอยากรับใช้ข้าหรือไม่?”
“กระหม่อมยินดีติดตามท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” หลิวอวี่หลินตอบอย่างไม่ลังเล
หลังจากการทดสอบอีกฝ่าย เขาตัดสินใจแล้วว่าฉินเหยียนเป็นเจ้าเหนือหัวที่ฉลาด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาตั้งใจจะติดตามอีกฝ่าย”
“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หลิวอวี่หลินเจ้าฟังคำสั่งข้าให้ดี”
ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจัง
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลิวอวี่หลินปฏิบัติและพูดด้วยความเคารพ
“ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าคอยควบคุมกรมโยธาธิการ รับผิดชอบและให้ความร่วมมมือในการสรางอู่ต่อเรือหลวง และยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากรมตรวจสอบอู่เรือหลวงด้วย หลังจากวันนี้เจ้ากลับไปเก็บข้าวของและออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อเข้ารับตำแหน่ง”
ฉินเหยียนโบกมือและยืนขึ้นทันทีหลังจากออกคำสั่ง และเตรียมออกไป
หลิวอวี่หลินอึ้งไปเมื่อได้ยินการแต่งตั้ง นี่เป็นแค่หัวหน้าคนงานมิใช่หรือ?
เจ้ากรมตรวจสอบคืออะไรกัน? ดูจากชื่อแล้ว ให้เขาตรวจสอบคุณภาพเรือหรือ? คำถามคือมีแค่เขาคนเดียวหรือ?
ไม่ หากคิดว่าเขาไม่ใช่พนักงาน หากให้เขารับผิดชอบในเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเป็นคำสั่งที่ไม่สอดคล้องกันเท่าไหร่
หลิวอวี่หลินคุกเข่าลงบนพื้น ไม่ลุกขึ้นมาเป็นเวลานาน ในขณะที่ฉินเหยียนออกไปอย่างเงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เขายืนขึ้นและเดินออกไปข้างนอก
ทันทีที่เขากลับไปถึงจวนเจ้าเมือง จางฝูรีบตะโกนเรียกเขาทันที
“หลิวอวี่หลิน ข้าเห้นว่าองค์ชายอารมณ์ดีมิใช่น้อย ครั้งนี้พวกเจ้าพูดคุยกันสนุกสนานเลยใช่หรือไม่?”
จางฝูถามด้วยรอยยิ้ม
ครั้งนี้ในตอนที่เขารอ เขายังเป็นกังวล แต่ในตอนที่เห็นฉินเหยียนเดินกลับไป เขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่าย
หลิวอวี่หลินยิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นส่ายหน้าและพูดว่า
“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเป็นการสนทนาที่ดีหรือไม่”
จางฝูตกใจเล็กน้อย จากนั้นถามออกไปอย่างแปลกใจว่า
“ท่านอ๋องมีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าหรือไม่?”
หลิวอวี่หลินพยักหน้า
จางฝูเดินเข้าไปหาทันทีและถามเสียงเบา
“ตำแหน่งอะไร?”
เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ อ๋องเหยียนสามารถมอบหมายงานและมอบความไว้วางใจให้กับเขาได้ บางทีตำแหน่งอาจจะทัดเทียมเขาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงอยากพูดคุยด้วยเล็กน้อย
เขาไม่เข้าใจว่า ตนพูดจาไม่เข้าหูอีกฝ่ายหรือ เรื่องถึงเป็นเช่นนี้ได้
อาจเป็นเพราะเขาบอกว่าการสร้างกองทัพเรือเป็นเรื่องเสียทรัพยากรและกำลังคนหรือ?
ไม่ใช่สิ เขารู้ว่าการก่อสร้างกองทัพเรืออ๋องเหยียนเป็นคนตัดสินใจ แต่เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมอบตำแหน่งเล็กๆ ให้เขาเพียงเพราะเขาพูดเช่นนั้น
หากอีกฝ่ายเป็นคนแบบนี้จริงๆ ที่เขาทดสอบอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ ก็แค่ลงโทษเขาสิ เหตุใดต้องรอถึงตอนนี้?
จางฝูคิดไม่ออก เพราะเขารู้สึกว่าฉินเหยียนไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย
เขาคิดไม่ออก จึงทำได้แค่ขมวดคิ้วและถามว่า
“เจ้าจะไปอาณาจักรอู๋ไหม?”
เขารู้สึกว่าหากเป็นหลิวอวี่หลิน อีกฝ่ายคงปฏิเสธ ดังนั้นเขาต้องการโน้มน้าวอีกฝ่าย ในเมื่อท่านอ๋องวางแผนเช่นนี้ เขาไม่ควรทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง เพราะอาจจะทำให้อ๋องเหยียนโกรธเข้าให้จริงๆ
หลิวอวี่หลินพูดโดยไม่คิด
“ท่านอ๋องสั่งให้ข้ากลับไปเก็บข้าวของ จากนั้นพรุ่งนี้ออกเดินทาง เช่นนั้นข้าต้องไป”
จางฝูอึ้งไป จากนั้นเขาพลันรู้สึกโล่งใจ โชคดีที่เด็กคนนี้มิใช่คนดื้อรั้นหรืออวดดีเกินไป
มิฉะนั้นคงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาพูดปลอบออกไปว่า
“ดีแล้วที่เจ้าคิดเช่นนี้ ในเมื่อท่านอ๋องจัดการเช่นนี้ เขาคงมีเจตนาที่ลึกซึ้งกว่านั้น ท่านอ๋องเป็นคนรู้จักใช้คน เขาเห็นความสามารถของเจ้าอย่างแน่นอน หลังจากสามถึงห้าปี้นี้ เจ้าต้องเป็นคนสำคัญแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...