องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1243

ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นองค์ชายใหญ่ของชนเผ่านวี่ห์เจิน ต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นท่านผู้นำด้วยวิธีสกปรก

ครั้งหนึ่งเขาเคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจ และได้รับการชื่นชมจากทุกเผ่า แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย ไม่มีโอกาสให้ลุกขึ้นมาผงาดอีกครั้ง

ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะถึงคราวที่เขาจะแสดงความสามารถแล้ว โอกาสของเขามาถึงแล้ว

หลังจากที่เขาฟังความคิดเห็นทั้งหมด เขาก็พูดขึ้นมาว่า

“ท่านข่าน อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามพ่ะย่ะค่ะ!”

น้ำเสียงของเขา ทำให้ทุกคนถึงกับขมวดคิ้ว

พวกเขากำลังหารือกันอยู่ แต่เจ้าทาสคนนี้กลับพูดแทรกขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?

แต่ในเวลานี้ทั่วป๋าหงเลี่ยมองเขา และใจกลับกระตุกเช่นกัน

เขาลืมชายคนนี้ไปได้อย่างไร ชายที่เคยเป็นถึงท่านผู้นำของชนเผ่านวี่ห์เจิน อีกทั้งเขายังเคยเผชิญหน้ากับหลี่ชางและกองทัพอาณาจักรฉินมาแล้ว

“ทุกคนเงียบ”

ทั่วป๋าหงเลี่ยโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ จากนั้นมองไปที่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้และถามออกไปว่า

“เจ้ามีอะไรจะพูดหรือ?”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้มองไปที่ขุนนางคนอื่นอย่างหวาดกลัว เพราะทุกคนต่างมองมาที่เขาด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ เขาจึงพูดออกมาอย่างประหม่าว่า

“ท่านข่าน กระหม่อมคิดว่าพวกเราอย่าเสี่ยงเลยพ่ะย่ะค่ะ”

นี่เป็นโอกาสที่จะให้เขาแสดงความสามารถ เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร

“อ้อ? ทำไมหรือ?”

ท่านข่าน ได้โปรดฟังที่กระหม่อมจะพูด”

“อืม เจ้าว่ามา”

“การใช้กำลังกองทัพของหลี่ชางนั้นแปลกประหลาดมาก เขาเด็ดเดี่ยว ท่านข่านเคยได้ยินมาแล้วใช่หรือไม่ว่าเขานำกองทัพทหารม้าสามพันนายบุกเข้ามาในดินแดนของชนเผ่านวี่ห์เจิน โจมตีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นภูเขาหลางจูชู เมืองหลวงที่เจ้อหลี่มู่เหมิงและเมืองเปียงยาง

ทั่วป๋าหงเลี่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาแล้ว

ในเวลานี้ ขุนนางคนอื่นๆ กลับหัวเราะเยาะ

“นี่มันหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าชนเผ่านวี่ห์เจินของเจ้าไร้ความสามารถอย่างไรล่ะ!”

“ถูกต้อง ถูกเด็กเมื่อวานซืนนำกองทัพทหารสามพันนายโค่น ฮ่าๆ”

ขุนนางต่างหัวเราะกับความล้มเหลวของพวกเขา แต่ใครจะรู้ว่าคำเยาะเย้ยของพวกเขาไม่ได้ทำให้อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้เสียการควบคุมเลย

ทั่วป๋าหงเลี่ยขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาถูกโน้มน้าวได้แล้ว

ขุนนางคนอื่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในขณะนี้

สิ่งสำคัญคือที่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้พูดมานั้นมีเหตุผลมากจนถึงกับทำให้พวกเขาต้องระวังตัว

อย่างไรก็ตาม บางคนกลับคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่

ขุนนางมีชื่อคนหนึ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า

“เช่นนั้นเจ้าบอกว่าทหารหกหมื่นคนเหล่านี้เป็นพวกเทพเจ้าอย่างนั้นหรือ? ทหารหกหมื่นคนนั้นถึงทำลายชาวตาดอย่างเราได้?”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้นึกถึงคำพูดที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้และพยายามพูดอย่างชอบธรรม

“ดังนั้นกระหม่อมถึงพูดว่า พวกมันมีแนวโน้มใช้อุบายเก่า ในความคิดข้าหลี่ชางจะนำกองทัพเข้ามาใกล้ ใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าพวกเราไม่สนใจเขา เมื่อพวกเรามุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้กับอาณาจักรฉิน พวกเราจะไม่สนใจกองทัพหกหมื่นคนที่แอบเข้ามาใกล้อาณาจักรตาด”

“เมื่อเราตอบโต้และส่งกองกำลังเข้าไปทำลายพวกมัน พวกมันจะยึดพื้นที่ชาวตาดได้อย่างรวดเร็ว ในเวลานี้พวกเราจะตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน และส่งกองกำลังหลายแสนคนเพื่อทำลายกองทัพหกหมื่นคนของพวกมัน”

“เราต้องใช้เวลาในการระดมกองทัพทหารจากชนเผ่าต่างๆ และเรียกขวัญกำลังใจของกองทัพที่ต่างหวั่นกลัว อย่างไรก็ตามพวกมันจะรอจังหวะและฉวยโอกาสนี้โจมตีเราเป้ฯครั้งสุดท้าย”

“กระหม่อมขอถามอะไรเสียหน่อย เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนั้น พวกมันยกทัพมาโจมตีราชสำนักที่ไร้คนคอยดูแล และมีคำสั่งจับท่านข่านทั้งเป็น พวกเราจะทำเช่นไร?”

หลังจากเขาพูดจบ ทุกคนต่างอึ้งราวกับว่าพวกเขาได้เห็นแผนการของหลี่ชางแล้ว ทุกคนพากันเหงื่อแตกด้วยความกังวล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์