องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1249

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วผู้พิพากษาท้องถิ่นก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหน้า

หลิวอวี่หลินประหลาดใจอย่างยิ่ง เขาถามขึ้นว่า “แล้วเป็นโจรแบบใดงั้นรึ?”

“โจรสลัด”

“โจรสลัดรึ?”

“ใช่ หากเจ้ามาจากเยี่ยนเป่ยคงไม่เคยได้ยิน ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลมีโจรสลัดอาละวาดมาก พวกมันบางคนโจรสลัดมืออาชีพ บางคนก็เป็นกองทัพของอาณาจักรอื่น เพื่อปล้นชิงพวกเราโดนเฉพาะ น่ารำคาญยิ่งนัก”

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ? ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเหตุใดอาณาจักรฉินจึงไม่ส่งกองทัพมาเฝ้าระวังที่นี่?”

หลิวอวี่หลินตกตะลึง เขาเพิ่งจะเคยได้ยินเรื่องของโจรสลัดเป็นครั้งแรก และยังไม่คิดว่ากองทัพอาณาจักรอื่นจะเข้ามาเป็นโจรสลัดด้วย สำหรับพวกเขาแล้ว โจรและกองทัพแตกต่างกันคนละขั้วเลย

ผู้พิพากษาท้องถิ่นส่ายหน้าแล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า

“เจ้าบอกว่าส่งกองทัพมาเฝ้าระวังแล้วจะส่งมาเลยงั้นรึ? อีกอย่างเจ้าคิดบ้างรึไม่ว่าชายฝั่งทะเลของอาณาจักรฉินยาวเพียงใด? เจ้าจะส่งคนไปเฝ้าระวังทุกจุดได้อย่างนั้นรึ?”

“อีกอย่างเจ้าพวกโจรสลัดก็มาจากทะเล เจ้าไม่มีทางรู้เลยว่าในครั้งหนึ่งพวกมันจะมากันกี่คน แล้วจะมาจากทิศทางใด จะป้องกันอย่างไร?”

ผู้พิพากษาท้องถิ่นพูดเข้าประเด็นจนหลิวอวี่หลินพูดอะไรไม่ออกเลย

แต่หลิวอวี่หลินก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาขมวดคิ้วถามขึ้นว่า

“แล้วจะไม่ทำสิ่งใดเลย ให้พวกโจรสลัดปล้นชิงตามอำเภอใจต่อไปงั้นรึ?”

“เปล่าเลย ก่อนหน้านี้โจรสลัดละแวกนี้เหิมเกริมกว่านี้มาก ถึงขั้นกล้าเข้าไปปล้นชิงในดินแดนอาณาจักรอู๋เชียวนะ แต่บัดนี้เมื่อมีอาณาจักรฉินคอยหนุนหลัง แล้วอาณาจักรอู๋เองก็ได้มีค่ายทหารอยู่ในทุกระยะที่ห่างออกไป ทุกเมืองเองก็มีการป้องกัน โจรสลัดจึงกล้ามาทำเช่นนี้ในหมู่บ้านเล็กๆบางแห่งตามชายฝั่ง”

เมื่อหลิวอวี่หลินได้ยินดังนั้นก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว เขาครุ่นคิดแล้วถามขึ้นว่า

“แล้วเจ้าเป็นถึงผู้พิพากษาท้องถิ่น เมื่อเผชิญกับความโกลาหลจากโจรสลัดแล้ว มีวิธีการป้องกันดีๆรึไม่?”

เมื่อผู้พิพากษาท้องถิ่นได้ยินดังนั้น สีหน้าก็หม่นหมองไปแล้วพูดว่า

“เฮ้อ จะมีวิธีได้อย่างไรเล่า เจ้าพวกโจรสลัดขึ้นมาจากทะเล เมื่อปล้นชิงแล้วก็พากันหายไปในทะเล อยากจะป้องกันพวกมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ข้าเองก็มีแต่ต้องพยายามเก็บกวาดให้ได้มากที่สุด”

ว่าแล้วเขาก็เหมือนจะคิดอะไรได้ เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า

“แต่หากเป็นเช่นนี้ก็จำเป็นต้องสร้างเรือเหล็กยักษ์หลายพันตันนี่ การสร้างของที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเช่นนี้ จะต้องใช้กำลังทั้งอาณาจักรแน่นอน ใช้แรงงานคนและทรัพย์สินนับไม่ถ้วนเป็นแน่”

“แต่จากที่ข้าได้รู้ว่า ทักษะการต่อเรือของเก้าแคว้นในตอนนี้ สามารถสร้างเรือไม้หลายสิบจั้งได้ มันก็น่าเกรงขามมากพอแล้ว การใช้เรือเช่นนี้ในการสร้างกองเรือก็สามารถคลี่คลายภัยจากโจรสลัดได้เหมือนกัน และทำให้อาณาจักรอื่นหวาดผวาได้ไม่ใช่รึ?”

“เรื่องที่สามารถประหยัดแล้วทำผลลัพธ์ได้เช่นเดียวกัน เหตุใดจึงต้องเลือกทางที่ฟุ่มเฟือยมากกว่าด้วยเล่า? สุดท้ายภาระก็ต้องตกลงไปที่ชาวเมืองไม่ใช่รึ”

แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะไม่ควร แต่หลิวอวี่หลินก็ไม่ได้อ้อมค้อมเลย เพราะนี่คือความคิดที่แท้จริงของเขา และเป็นสิ่งที่เขาเกลี้ยกล่อมอ๋องเหยียนก่อนหน้านี้ด้วย เขาคิดว่าการใช้กำลังคนและกำลังทรัพย์มากขนาดนั้น มันฟุ่มเฟือยมากเกินไปจริงๆ

“จะง่ายเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า!”

ผู้พิพากษาท้องถิ่นถอนหายใจแล้วพูดว่า “เรือที่เจ้าพูดมานั้นพวกข้าสามารถสร้างได้ก็จริง แต่เราสร้างได้ผู้อื่นก็ต้องสร้างได้ อีกอย่างอ๋องเหยียนจะต้องมีการไตร่ตรองมากแล้วด้วยเป็นแน่ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นบางทีในอนาคตเราก็จะรู้เอง”

หลิวอวี่หลินเองก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย แต่แม้ว่าจะเข้าใจก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเห็นด้วยทั้งหมด

เขาส่ายหน้า ไม่คิดจะพูดถึงเรื่องนี้อีก อย่างไรเขาก็เสียเวลาอยู่ที่นี่มากแล้ว เขาจึงได้เปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า

“บัดนี้ข้าต้องเดินทางไปยังเมืองหัวถิง อยู่ต่อนานไม่ได้ ข้าขอตัวก่อน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์