ผู้พิพากษาได้ยินดังนั้นก็หยักหน้าแล้วพูดว่า “อืม เช่นนั้นก็ขออวยพรให้เจ้าเดินทางราบรื่น ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย”
“ขอบคุณคำอวยพรขอรับ”
หลิวอวี่หลินประสานมือขอบคุณแล้วพาผู้ติดตามออกไป
......
เมืองถูเหอ ในจวนเจ้าเมือง
ฉินเหยียนจ้องไปทางอาณาจักรพัลแฮอยู่ตลอด บัดนี้ต้องแข่งกับเวลาแล้ว กองทัพของอาณาจักรต้าเยว่จื้อจะไปถึงนอกอาณาจักรพัลแฮก่อนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย และที่เขากังวลก็คือ คนอาณาจักรพัลแฮจะอดทนรอถึงตอนที่กองทัพของเซี่ยชิงไปถึงรึไม่
และในขณะที่เขากำลังมองแผนที่แล้วครุ่นคิด จ้าวจือหย่าก็นำรายงานล่าสุดมาให้
“ท่านอ๋องเพคะ กองทัพอาณาจักรต้าเยว่จื้อได้ถึงอาณาจักรพัลแฮแล้ว เกรงว่าสองวันนี้จะเริ่มการโจมตีเมืองแล้วเพคะ”
“เร็วเพียงนี้เชียวรึ?”
ฉินเหยียนเลิกคิ้วกระตุกเล็กน้อย สีหน้าของเขาแสดงความหนักใจ มันเร็วกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรความแข็งแกร่งของอาณาจักรต้าเยว่จื้อก็เห็นกันอยู่แล้ว อาณาจักรพัลแฮจะต่อต้านได้รีไม่ เขาก็ไม่มั่นใจเช่นกัน
ตามที่เขาบอก อาณาจักรพัลแฮอย่างมากที่สุดก็มีเพียงกองกำลังสามสี่หมื่นนายเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรต้าเยว่จื้อที่ใช้กองกำลังทั้งหมดแล้ว ก็ไม่มีข้อได้เปรียบใดเลย
ฉินเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ส่งจดหมายไปให้เซี่ยชิง สั่งนางให้สัมภาระทั้งหมดแล้วเดินทางโดยเร็วที่สุด จะต้องไปถึงอาณาเขตพัลแฮก่อนที่อาณาจักรต้าเยว่จื้อจะทำการโจมตีให้ได้”
นี่คือเรื่องที่เขามองว่าจะทำได้ในตอนนี้แล้ว
“เพคะ” จ้าวจือหย่าคำนับน้อมรับคำสั่ง จากนั้นก็ถอยไปทันที
ฉินเหยียนมองไปยังแผนที่อีกครั้ง แล้วพูดพึมพำว่า “อาณาจักรพัลแฮ หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวังนะ ไม่เช่นนั้น......ต่อให้ข้าจะอยากยื่นมือช่วยพวกเจ้าสักตั้งก็คงไม่ทันการเสียแล้ว”
......
ยามค่ำคืน อาณาจักรพัลแฮ
เมฆดำมืดปกคลุมท้องฟ้า ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง และมีลมพัดแรง
เสียงตีกลองสงครามดังขึ้นสนั่นฟ้า ทันใดนั้นก็มีทหารม้าที่สวมชุดเกราะรีบควบม้ามา ทำให้มีฝุ่นกระจาย
“ศัตรูโจมตี! ศัตรูโจมตี!”
ก่อนที่ทหารเฝ้าระวังจะส่งเสียงสัญญาณเตือนภัย ก็ได้มีการตีกลองส่งสัญญาณทันทีแล้ว และได้จุดไฟไว้ด้วย เพียงพริบตาทั่วทั้งเมืองก็สว่างไสว
“ฝ่าบาท อีกเดี๋ยวคนอาณาจักรต้าเยว่จื้อคงบุกเข้าเมืองมาได้แล้ว ที่นี่ไม่ปลอดภัย เสด็จกลับพระราชวังเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงด้วย เชื่อกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ จะเสี่ยงอันตรายมิได้พ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าแม่ทัพต่างขอร้อง ถึงขั้นคุกเข่าลง แต่ฮ่องเต้ก็ใจแข็ง และได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เขาดึงดันจะอยู่ที่ประตูเมือง
ฮ่องเต้พูดดังขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ผู้ที่มาไม่ใช่ชาวตาด ก็แค่อาณาจักรต้าเยว่จื้อ มันไม่อาจทำให้ข้ากลัวได้หรอก อีกอย่าง เราเองก็มีกองสนับสนุน เพียงแค่อดทนสองวัน กองสนับสนุนของอาณาจักรฉินก็จะมาถึง ถึงตอนนั้นก็จะเป็นเวลาที่เราจะตอบโต้กลับ!”
มีกองสนับสนุนด้วยรึ?
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ความกลัวในใจก็หายไปจนหมด และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขความตื่นเต้นแทน ราวกับมองเห็นความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป
“ใช่! เพียงแค่ถ่วงเวลาอาณาจักรต้าเยว่จื้อเอาไว้ได้ กองสนับสนุนก็จะมาถึง!”
“พวกเรามีกองสนับสนุน อีกอย่างเรายังมีกำแพงมืองที่แข็งแกร่งด้วย อาณาจักรต้าเยว่จื้อไม่มีทางบุกมาได้หรอก ฮ่าๆ ทุกคนอย่าได้กลัวไปเลย!”
“เหล่าสหาย เพื่อชาวเมืองอาณาจักรพัลแฮของเรา เพื่อฮ่องเต้ สังหารพวกมันซะ!”
ทหารที่อยู่บนกำแพงเมือง เมื่อลังเลใจแล้วก็เลือดร้อนกันไปหมด พวกเขาถือหอกเอาไว้แน่น และจ้องไปยังกองทัพศัตรูสีกำที่อยู่ไกลๆเขม็ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...