องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1252

แต่ต่อให้จางจวิ้นจะพูดเร่งแค่ไหนทั้งสองก็ยังคงไม่ไป สุดท้ายหยางคังก็พูดด้วยตาแดงก่ำว่า

“พี่ใหญ่ เจ้าคือพี่ใหญ่พวกข้าได้ร่วมสาบานด้วย ได้มีการสาบานเอาไว้แล้ว หากเจ้าไม่ไป แล้วข้าจะไปได้อย่างไร?”

อู๋เจี๋ยเองก็กัดฟันแล้วพูดว่า “ใช่พี่ใหญ่ เรามาด้วยกัน จะไปก็ต้องไปด้วยกัน จะอยู่ก็อยู่ด้วยกัน!”

เมื่อเห็นท่าทีของเหล่าน้องๆแล้วจางจวิ้นก็อยากจะร้องไห้ เขาน้ำตาคลอ

เมื่อก่อนเขาหลอกล่ออีกฝ่ายให้ร่วมสาบานด้วยกัน แต่ว่าตอนนี้ เขาได้เห็นทั้งสองเห็นสหายพี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันแล้ว

ส่วนพวกองค์ชายและองค์หญิงที่ยังอายุน้อย เมื่อเห็นว่าแม่แต่คนอาณาจักรฉินก็ยินดีที่จะต่อสู้ไปพร้อมกับเมืองของพวกเขา แล้วพวกเขาจะหนีไปเองได้อย่างไร ดังนั้นแต่ละคนก็ได้ยืนหยัดอย่างแค้นเคืองว่าจะไม่ไป

ฮ่องเต้งุนงงไปหมด ได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เหตุใดจึงไม่มีใครไปแล้ว อีกอย่างดูจากท่าทีแล้ว ทุกคนล้วนมีความหนักแน่นอย่างยิ่ง

และทันใดนั้นเขาก็ได้รู้แล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะบัดนี้หวงหลิงเอ๋อร์ได้เดินมาข้างๆของจางจวิ้นแล้วพูดว่า

“ท่านพี่จาง โปรดตามข้ามา”

จางจวิ้นลังเลเล็กน้อย แล้วพยักหน้าพูดว่า “ย่อมได้”

ว่าแล้วก็ได้ตามนางไป เมื่อฮ่องเต้เห็นดังนั้น ต่อให้จะโง่เขลาเพียงใด ก็ต้องเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาจ้องแล้วถามว่า “พวกเขามีใจให้กันตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

ให้ตายเถิด แม้แต่ผู้เป็นบิดาอย่างเขายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย!

......

ทางด้านนอก หวงหลิงเอ๋อร์มองจางจวิ้นแล้วถามทั้งน้ำตาว่า “เหตุใดเจ้าจึงไม่ไป เจ้าโง่รึไง? เจ้าไม่มีเหตุผลต้องอยู่เลย!”

“แล้วเจ้าล่ะ เหตุใดเจ้าจึงไม่ไป?” จางจวิ้นถามกลับ

หวงหลิงเอ๋อร์ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ไม่ได้หรอก ข้าคือองค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์ หากพวกข้าไปแล้วใครจะปกป้องท่านพ่อกัน?”

จางจวิ้นเห็นดังนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า “แล้วเจ้าเล่า ใครจะปกป้องเจ้า”

หวงหลิงเอ๋อร์อึ้งไป

จางจวิ้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วมองไปยังกองทัพใหญ่อาณาจักรต้าเยว่จื้อ ที่ได้จัดขบวนทัพเตรียมบุกเมือง เขาพูดเสียงเบา ที่ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้นว่า

“นี่คือเหตุผลที่ข้าอยู่ต่อ เพียงพอรึไม่?”

หากจะบอกว่า เริ่มแรกเขาได้เข้าหาอีกฝ่ายเพราะแผนถุงผ้าของเจ้าสี่หลิวอวี่หลินล่ะก็ เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจถอนตัวได้นับตั้งแต่วินาทีที่ได้พบหวงหลิงเอ๋อร์แล้ว

ในบางครั้ง สำหรับบางคน เพียงแค่สบตาก็เหมือนรักได้อีกหมื่นปีแล้ว......

น้ำตาของหวงหลินเอ๋อร์ไหลริน นางมองใบหน้าที่หันข้างของจางจวิ้นอย่างตะลึง

ที่จริงจางจวิ้นไม่ชอบใจที่จะสวมชุดเหล่านี้เลย เพราะมันน่าเกลียดเกินไป เขาสวมแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร้งขรึมของหยางคังและอู๋เจี๋ยแล้ว เขาก็สวมแต่โดยดี เพราะเขาพูดถูก การสวมหรือไม่สวมชุดเกราะนั้นมีความแตกต่างอย่างมาก มันสามารถปกป้องชีวิตเอาไว้ได้ในยามคับขันจริงๆ

เมื่อเขาสวมเสร็จแล้วก็มองไปยังหวงหลิงเอ๋อร์ แล้วย้ำเตือนอย่างรวดเร็วว่า

“เจ้าคอยอยู่ข้างฮ่องเต้เอาไว้ อยู่ในหอคอยกำแพงเมือง ด้านนอกอันตราย ห้ามไปที่ใดทั้งนั้น!”

หวงหลิงเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป นางตาแดงก่ำอีกครั้ง แล้วพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า

“เจ้าต้องระวังตัวด้วยนะ”

“วางใจเถิด ข้าไม่ตายง่ายๆหรอก” จางจวิ้นยิ้มกว้างๆ เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดของเขา ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกวางใจ

หวงหลิงเอ๋อร์เดินแล้วหันกลับมามองอยู่หลายครั้ง จนสุดท้ายก็ได้เข้าไปด้านใน

บัดนี้ บนกำแพงเมืองสามารถได้ยินเสียงทหารอาณาจักรต้าเยว่จื้อตะโกนร้องฆ่าจากล่างกำแพงเมืองแล้ว

จางจวิ้นก้มศีรษะมองไป บัดนี้เขาไม่แสร้งทำอีกต่อไปแล้ว เขารู้สึกว่าขาอ่อนไปหมด โชคดีที่อู๋เจี๋ยและหยางคังพยุงเขาได้ทัน ไม่เช่นนั้นเขาคงได้เข่าทรุดลงไปกับพื้นจริงๆแล้ว

“บ้า......บ้าเอ๊ย นี่มีจำนวนเท่าไรกัน? จะเฝ้าระวังต่อทำไมกันเนี่ย?” จางจวิ้นพูดอย่างติดอ่างด้วยสีหน้าซีดเซียว

อู๋เจี๋ยถามขึ้นว่า “พี่ใหญ่ไม่อยากหนีไปไม่ใช่รึ?”

“นั่นก็ไม่ได้แปลว่าข้าไม่กลัวนี่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์