แต่ก็ยังโชคดีที่เงื่อนไขสองประการที่สำคัญที่สุดยังได้รับการดำเนินการ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้วหลี่เหยียนคังก็ตั้งสติขึ้นมาอีกครั้ง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เดินไปยังเต็นท์ของตนเอง
ในระหว่างทางเขาได้พบกับคนหลากหลายเผ่า เมื่อพวกเขาพบหลี่เหยียนคังก็พากันซุบซิบ ส่วนใหญ่ก็เป็นเสียงที่ไม่ดีนัก เสียงด่าทอไปกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลือก็เป็นการประชดประชัน
หลี่เหยียนคังไม่คิดมาก เขาเดินไปยังเต็นท์ของคนเองด้วยสีหน้าที่สงบ
......
เมืองถูเหอ
มีคนควบม้าตัวหนึ่งกำลังวิ่งอย่างรวดเร็วบนเส้นทางของทางการ ในขณะที่เข้าเมืองเขาเห็นมีคนมาขวางทาง คนคนนั้นรีบแสดงธงเล็กๆที่ติดเอาไว้ด้านหลังออกมา แล้วตะโกนอย่างร้อนใจว่า
“หลีกไปเร็วเข้า ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องรายงานกับอ๋องเหยียน!”
“ว่าอย่างไรนะ! เรื่องเร่งด่วนรึ?” ทหารเฝ้าระวังเมืองตกตะลึง จากนั้นรีบหลีกทาง
คนคนนั้นรีบควบม้าไปยังจวนเจ้าเมืองโดยไม่ทันกลับมา
บัดนี้ฉินเหยียนกำลังหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าของการติดตั้งเครื่องทำความร้อนกับเหล่าขุนนางกรมโยธาธิการ เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องเร่งด่วน เขาก็ได้รีบให้ต้าหย่งพาเข้ามา
ทหารส่งสารรีบเข้ามา เมื่อเห็นฉินเหยียนแล้วเขาก็ตาแดงก่ำ จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดอย่างเจ็บปวดว่า
“อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ! เกิดเรื่องขึ้นกับ......อ๋องอวี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
“ว่าอย่างไรนะ?” ฉินเหยียนตกตะลึง เขายืนขึ้นแล้วพูดอย่างร้อนใจว่า “พี่เจ็ดเป็นอะไร?”
ทหารส่งสารดวงตาแดงก่ำ เขาพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า
“ในขณะที่กวาดล้างกองทัพของทั่วป๋าเยี่ยน อ๋องอวี่ได้นำกองกำลังอาณาจักรเยี่ยนหลายพันนายสู่รบกับฝ่ายศัตรูนับหมื่น สามารถสู้จนฝ่ายศัตรูต้องถอยไปได้หลายครั้ง ถ่วงเวลาจนคนอื่นๆตามมาทัน แต่ตัวพระองค์เองถูกฟันหกครั้ง และถูกฟันเข้าที่ศีรษะหนึ่งครั้ง......บัดนี้ กำลังตกอยู่ในอันตรายพ่ะย่ะค่ะ......”
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็เกิดความฮือฮากันหมด
ฉินเหยียนเซ เขาเกือบจะยืนไม่อยู่ โชคดีที่จ้าวจือหย่าที่อยู่ข้างๆเข้ามาพยุงเอาไว้ จึงไม่ล้มลงไป
สีเหยียนสีหน้าซีดเซียวอย่างยิ่ง เขาพูดด้วยสีสั่นเทาว่า “แล้ว แล้ว......ตอนนี้พี่เจ็ดของข้าอยู่ที่ใด?”
คนคนนั้นเช็ดน้ำตาแล้วพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “บัดนี้ได้ถูกส่งไปทำแผลคร่าวๆที่เมืองชุนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วพ่ะย่ะค่ะ......”
ฉินเหยียนกัดฟัน เขาพยายามสงบสติอารมณ์แล้วหันไปทางจ้าวจือหย่า เขาพูดด้วยเสียงสั่นเทาว่า
“ไป......เตรียมตัว ข้าจะไปเมืองชุน จะไปเดี๋ยวนี้”
“เพคะ!” จ้าวจือหย่าพยักหน้าแล้วรีบไปออกคำสั่ง
ในระหว่างทางฉินเหยียนไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้เลย หลังจากการรอคอยที่ยาวนาน ในที่สุดเขาก็ได้ลงจากรถแล้ว เขามาถึงโรงหมอแห่งหนึ่งที่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป
ที่นี่คือโรงหมอที่ดีที่สุดในเมืองชุนแล้ว ด้านนอกมีแม่ทัพหลายคนที่เพิ่งสู้รบและได้รับชัยชนะมา พวกเขาทุกคนเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด แต่ก็ไม่มีอารมณ์จะไปชำระกายเลย
แต่เมื่อพูดจบแล้วกลับไม่มีเสียงตอบกลับใดๆเลย
“พี่เจ็ด?”
ฉินเหยียนร้อนใจอย่างยิ่ง แต่ฉินอวี่ได้หมดสติไปแล้ว
“หมอ! หมออยู่ที่ใด?” เขารีบหันกลับไปแล้วตะโกน
ทันใดนั้นก็มีหมอชราคนหนึ่งรีบวิ่งมา เมื่อตรวจอาการแล้วก็ถอนหายใจพูดว่า
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ อ๋องอวี่อาการสาหัสอย่างยิ่ง เรื่องหมดสติไป กระหม่อมเองก็จนปัญญา”
“บาดแผลบนร่างกายของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ บาดแผลของอ๋องอวี่นั้น มีสองจุดที่อันตรายถึงชีวิต มีจุดหนึ่งคือบนใบหน้า เหรงว่าจะเสียโฉมพ่ะย่ะค่ะ”
หมอรายงานอย่างระมัดระวัง
ฉินเหยียนไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเสียโฉมรึไม่ ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดีที่สุดแล้ว
ฉินเหยียนอวี่กัดฟันพูดว่า “ข้าจะส่งเขาหลับไปยังอาณาจักรฉินเดี๋ยวนี้ พี่เจ็ดจะอดทนจนกว่าจะกลับไปถึงรึไม่?”
“ไม่......ไม่อาจรับประกันได้เลยพ่ะย่ะค่ะ......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...