ทำให้เขาต้องก้มลงไปอ่านชื่อหลิอวี่หลินอีกครั้ง
ตอนนี้เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้มาก แต่เขากลับคิดไม่ออกว่าเคยเห็นชื่อนี้จากที่ไหน
ในที่สุด ด้วยท่าทีที่ประหลาดใจของเสิ่นเฟย ทำให้หลิวอวี่หลินบริจาคเงินห้าพันตำลึงได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย
“แปลกจริงๆ ทำไมชื่อนี้ถึงดูคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ใดมาก่อน”
เสิ่นเฟยส่ายหน้าและทำงานต่อ
หลังจากที่หลิวอวี่หลินกลับมา ช่างฝีมือกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขา
ในสายตาของพวกเขา ชีวิตของหลิวอวี่หลินนั้นน่าสงสารมาก แต่อีกฝ่ายกลับไปบริจาคเงิน ช่างเป็นคนมีน้ำใจดีจริงๆ
“เสี่ยวหลิว เจ้าไปบริจาคเงินมาหรือ แต่ยังไม่ถึงคราวเจ้าต้องบริจาคนี่?”
“จริงด้วยเสี่ยวหลิว เจ้าควรดูแลตัวเองให้ดีก่อน มีพี่ๆ อย่างพวกเราอยู่ อาณาจักรหลู่ไม่ลำบากหรอก”
“เสี่ยวหลิว เจ้าช่างมีน้ำใจดีเสียเหลือเกิน เจ้าบริจาคไปเท่าไหร่? เจ้ามีเงินกินพอใช่ไหม?”
หลิวอวี่หลินหน้าแดงเพราะคำชมเล็กน้อย ในที่สุดก็พูดออกมาว่า
“ข้าไม่ได้บริจาคอะไรมากมายนักหรอก แค่สองสามร้อยเหวินเท่านั้น ยังไม่ถึงหนึ่งตำลึงเลย”
เมื่อช่างฝีมือได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็โล่งใจ อีกฝ่ายมีเงินเดือน เงินไม่กี่ร้อยเหวินก็ได้หนักหนาอะไร
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนจึงไม่กังวลอีกต่อไป พวกเขาหัวเราะและตบไหล่ชมเชยและหยอกล้อหลิวอวี่หลินอีกครั้ง
...
ราชวงศ์ฉิน วันที่สิบหก เดือนมีนาคม
เมืองฉียังคงทำการขุดศพที่ถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังต่อไป ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ฉินเหยียนปรากฎตัวตลอด ในขณะที่ทหารคอยช่วยเหลือประชาชน เขาก็คอยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เสื้อผ้าเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคราบดินและเลือด สายตามุ่งมั่น เขาไม่กล้าชักช้าร่ำไรแม้แต่วินาทีเดียว
หลังจากำงานหนักมาหลายวัน ศพและคนที่ถูกพบเจอยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้อาหารยังคงเพียงพอ แต่สมุนไพรในการรักษาหมดตั้งแต่เมื่อวาน ผู้บาดเจ็บได้แต่พันผ้าพันแผลแบบลวกๆ เท่านั้น
ฉินเหยียนรู้สึกอึดอัดมากในขณะที่เขาต้องนั่งฟังเสียงร้องในเต็นท์
เขาเห็นจ้าวจือหย่าขมวดคิ้วแล้วถามว่า
“ผ่านมาหกวันแล้ว เหตุใดกลุ่มกู้ภัยยังไม่เข้ามาอีก?”
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันพวกเราจะรักษาผู้บาดเจ็บได้เป็นจำนวนมาก แต่จำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันเนื่องจากขาดสมุนไพร
จ้าวจือหย่าอธิบายว่า
“ท่านอ๋อง เหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อหลายมณฑล ประชาชนที่อยู่ในเมืองละแวกใกล้เคียงต่างรีบเดินทางมา แต่เมืองฉีนั้นอยู่ห่างไกลจากเมืองหลัก อีกทั้งถนนบางแห่งเสียหาย ทำให้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพคะ แต่น่าจะใกล้ถึงกันแล้ว”
ไม่เพียงเท่านั้น หน่วยกู้ภัยยังนำสมุนไพร ผ้าห่ม เต็นท์ และเงินจำนวนมาก อีกทั้งยังมีกลุ่มแพทย์จำนวนมากเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีกด้วย
เมื่อถึงจุดนี้ กองพันทหารม้าพยัคฆ์เสือดาวที่ทำงานหนักมาตลอดเจ็ดวัน ไม่ได้พักผ่อน ในที่สุดก็ถอนกองทัพออกและได้พักผ่อน
นี่คือกองทัพที่น่าเกรงขาม
สำหรับฉินเหยียน เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และยิ้มออกมา
“ดีมาก ดีมากๆ”
ทันทีที่เขาพูดจบ ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดทั่วร่างกายพลันกระตุ้นขึ้นมาในทันที ดวงตาเขาเริ่มพร่าเลือน จากนั้นเขาก็สลบไป
“ท่านอ๋อง!”
เมื่อทหารยามที่อบู่รอบข้างเขาเห็นดังนั้น พวกเขาก็ตกใจทันที รีบเข้าไปช่วยและตะโกนขึ้นมาว่า “ท่านอ๋องเป็นลมไปแล้ว! ให้คนเข้ามาช่วยเร็วเข้า!”
“หมอ รีบตามหมอมา!”
จ้าวจือหย่าตะโกนด้วยความตื่นตระหนก หลังจากติดตามฉินเหยียนมาเป็นเวลานาน นางเข้าใจในทันทีว่าช่วงนี้ฉินเหยียนไม่ได้พักผ่อน ทำให้หมดแรง
แต่นางก็พยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายพักผ่อนบ้าง แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ
เขาพยายามยืนหยัดมาถึงตอนนี้ เมื่อรู้ว่าหน่วยกู้ภัยมาถึงแล้ว สติเขายึดไว้พลันดับลงไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...