องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1311

“ว่าอย่างไรนะ?”

“กระหม่อมคิดว่า แม้อาณาจักรฉินในตอนนี้จะไม่สามารถสร้างเรือรบเหล็กได้ แต่การสร้างเรือโดยใช้เหล็กและไม้ก็ไม่เป็นปัญหาพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนตาเป็นประกายทันที แล้วถามขึ้นว่า “อย่างไรรึ?”

หลินเย้าจู้พูดว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ด้วยการวิจัยเรื่องเรือหินของตระกูลเสิ่น ทำให้รู้แนวทางการสร้างเรือรบเหล็ก มีแผนการดำเนินการเริ่มต้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยทั่วไปแล้วส่วนใหญ่เรือรบจะใช้ไม้เป็นหลัก ด้านนอกห่อหุ้มไปด้วยเหล็กชั้นหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้เรือรบมีความทนทานและแข็งแกร่งอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“แม้ว่าวิธีนี้จะไม่ได้เฉลียวฉลาดมากนัก แต่หากรวมทั้งสองเป็นหนึ่ง ประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็จะดีขึ้นอย่างมากแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

ว่าแล้วหลินเย้าจู้ก็เงยหน้ามองฉินเหยียนแล้วถามขึ้นว่า “ท่านอ๋องคิดว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

“ฮ่าๆๆ!” เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินเย้าจู้พูดแล้ว ฉินเหยียนก็หัวเราะแล้วชื่นชมว่า

“เป็นวิธีที่ดี ทำตามที่เจ้าว่ามา สร้างออกมาให้ข้าโดยที่สุด”

“แล้วท่านอ๋องจะฝึกฝนทหารเรือไปพร้อมกันรึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการวางรากฐานกองเรือของอาณาจักรฉินในอนาคตด้วย!”

“ท่านอ๋องช่างมีปรีชาญาณยิ่งนัก!”

ฉินเหยียนโบกมือ เมื่อหลินเย้าจู้ไปแล้วจ้าวจือหย่าก็เดินมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

“ท่านอ๋องเพคะ ร่างกายของท่านยังคงอ่อนแอ ไหนว่าจะพักฟื้นระยะหนึ่งไงเพคะ? เหตุใดจึงเริ่มทรงงานอีกแล้ว?”

ฉินเหยียนพูดอย่างจนปัญญาว่า

“เจ้าไม่รู้รึว่าบัดนี้อาณาจักรฉินขาดแคลนเงิน? แม้แต่เงินที่จะสร้างเมืองหลวงใหม่ก็ยังไม่มี ข้าก็ต้องพยายามเสียหน่อย บัดนี้พี่ใหญ่เป็นผู้ครองทั่วทั้งเก้าแคว้นในนามแล้ว หากจะคอยอยู่แต่ในพระราชวังที่ทรุดโทรมนี้ก็ไม่เหมาะสม”

“แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องทรงงานอย่างหนักนี่เพคะ”

จ้าวจือหย่าพูดขึ้น นางมองฉินเหยียนด้วยสีหน้าที่กล่าวโทษ

ฉินเหยียนได้ยินดังนั้นก็ยื่นมือไปบีบจมูกของนาง แล้วยิ้มพูดว่า

“ใครให้ข้าใช้เงินเก่งเพียงนี้เล่า? ไม่ได้ยินที่พวกนั้นพูดรึ? เงินของกรมพระคลังแห่งอาณาจักรฉิน ส่วนใหญ่ข้าเป็นคนใช้ทั้งหมดเอง”

“ใช่ที่ไหนกันละเพคะ ท่านอ๋องไม่ได้ใช้เองเสียหน่อย ก็ใช้ไปเพื่ออาณาจักรฉินทั้งนั้น”

จ้าวจือหย่าพูดอย่างไม่พอใจ สีหน้าของนางยังคงไม่สบอารมณ์อยู่

นางไม่ได้ไม่พอใจจริงๆ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ฉินเหยียนเคยหมดสติเพราะเหนื่อยมากเกินไปมาก่อนแล้ว แพทย์ก็ได้ย้ำแล้วว่าต้องพักฟื้นให้ดีระยะหนึ่ง ไม่อยากเห็นฉินเหยียนเหนื่อยมากเกินไปอีกแล้ว

“เพคะ หม่อมฉันจะเขียนจดหมายติดต่อทันทีเพคะ”

“อืม......จริงสิ อย่าลืมบอกนางล่ะ ว่าบัดนี้อาณาจักรฉินไม่มีแม้กระทั่งผู้นำกองเรือด้วยซ้ำ ให้นางตัดสินใจอย่างรอบคอบด้วย”

“เพคะ!”

จ้าวจือหย่าตอบรับ จากนั้นก็รีบออกไป

เมื่อมองอีกฝ่ายไปไกลแล้วฉินเหยียนเองก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมา

การสร้างกองทัพเรือนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง อาศัยการพัฒนาเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองไม่เพียงแต่จะต้องใช้เวลาในการบรรลุผลเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถกู้คืนต้นทุนการลงทุนได้ในไม่กี่ปีด้วย อีกอย่างมันจะกลายเป็นเหยื่อชิ้นโตในสายตาผู้อื่นได้ง่ายๆ

โบราณว่ากันว่าเดิมคนไร้ซึ่งความผิด หากมีหยกกลับเป็นโทษ แม้ว่าบัดนี้อาณาจักรฉินจะรุ่งเรืองอย่างยิ่ง แต่หากมีทรัพย์สมบัติมากเกินไป ก็ยังคงเป็นเหยื่อชิ้นโตในสายตาผู้อื่นด้วย

พวกเขาอาจไม่มีความกล้าพอที่จะท้าทายอาณาจักรฉิน แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ดึงอาณาจักรแข็งแกร่งหลายๆอาณาจักรมาร่วมมือเพื่อจัดการกับอาณาจักรฉิน

ใช่ว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ และบัดนี้เขามีทางเลือกเพียงแค่สองทาง นั่นคือการเร่งพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้น หรือไม่ก็เพิ่มความต้านทานของตนเองให้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้อื่นกล้ามาหมายปองของของเขา หรือไม่ก็หยุดการโจมตี หลบซ่อนเพื่อสะสมกำลัง

การทำเช่นนี้จะทำให้ไม่เสียเวลาและกำลัง และหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้ เมื่อถึงยามที่แข็งแกร่งมากพอแล้ว จึงจะตามหาโอกาสดีๆ แต่ฉินเหยียนรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอยู่เฉยๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์