องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1316

“ผู้คุมหอขอรับ อู๋เจี๋ยจากเยี่ยนเป่ยขอเข้าพบขอรับ”

“อู๋เจี๋ยรึ?” หลิวเชียนเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “ให้เขาเข้ามา!”

นางจำอู๋เจี๋ยได้ รายชื่อเมื่อครู่นี้มีข้อมูลของเขาอยู่

ไม่นานอู๋เจี๋ยก็ก้มศีรษะแล้วยืนอยู่เบื้องหน้าของหลิวเชียนเชียนอย่างประหม่า เขาทำความเคารพว่า

“ผู้คุมหอขอรับ”

หลิวเชียนเชียนคือคนสนิทของอ๋องเหยียนเชียวนะ เป็นคนที่เขาไม่อาจเอื้อมถึง ต่อให้เป็นพ่อของเขา หากต้องพบกับหลิวเชียนเชียนก็ต้องเกรงใจอย่างยิ่ง

“อืม!” หลิวเชียนเชียนพยักหน้าแล้วถามเข้าประเด็นว่า “มีเรื่องใดต้องการเข้าพบข้ารึ ไหนว่ามาสิ”

อู๋เจี๋ยกลืนน้ำลาย ไม่รู้ว่าทำไมเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายมีความน่าเกรงขามที่กดดันอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะเป็นชายร่างกายกำยำ แต่ก็ยังรับความกดดันเช่นนี้ไม่ไหว เขารีบประสานมือคารวะแล้วพูดว่า

“ผู้คุมหอขอรับ ข้ามีบางเรื่องอยากจะออกความเห็นของตนเองขอรับ”

หลิวเชียนเชียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “หือ! ว่ามาสิ”

“ไม่ทราบว่าข้าขอถามคำถามหนึ่งก่อนได้รึไม่ขอรับ?” อู๋เจี๋ยลองเชิงถามขึ้น

“ถามมาสิ!” หลิวเชียนเชียนโบกมืออย่างไม่มีความลังเล

อู๋เจี๋ยถอนหายใจยาวๆแล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า

“ผู้คุมหอขอรับ ข้าได้ยินมาว่าชาวตาดจะส่งคณะทูตมายังอาณาจักรฉิน แถมยังเตรียมวัวแกะมาให้ด้วย เรื่องนี้คือจริงหรือเท็จรึขอรับ?”

“เจ้าอยากถามเรื่องนี้รึ?”

หลิวเชียนเชียนไม่คิดว่าเขาจะถามเรื่องนี้ นางสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นก็พยักหน้าพูดว่า

“เป็นเช่นนั้นจริง แต่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เจ้าพบข้าในวันนี้รึ?”

“คือ......” อู๋เจี๋ยลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันแล้วพูดว่า “การเคลื่อนไหวของชาวตาดในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาที่ดีขอรับ พวกมันไม่ได้มาดี แต่มีแผนที่ร้ายยิ่งกว่านั้นขอรับ!”

“แผนที่ร้ายยิ่งกว่ารึ!”

หลิวเชียนเชียนเลิกคิ้ว นางแสดงสีหน้าเพลิดเพลิน แล้วถามอย่างสนใจว่า “เจ้าลองว่ามาสิ”

อู๋เจี๋ยจัดระเบียบชุดแล้วได้พูดแบบเดียวกับพี่หลิวอวี่หลินบอกกับเขาในวันนี้อย่างจริงจัง

ที่จริงหลิวเชียนเชียนไม่ได้มีความเห็นเรื่องนี้มากนัก ดังนั้นเริ่มแรกนางไม่ได้จริงจังกับมัน นึกว่าอู๋เจี๋ยแค่พูดเรื่องไร้สาระและกำลังสร้างเรื่องเท่านั้น เพียงแต่เมื่ออู๋เจี๋ยยิ่งพูดยิ่งมีความละเอียดแล้ว สุดท้ายนางก็แสดงสีหน้าจริงจังขึ้นมา

สุดท้ายสีหน้าของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และรู้สึกตกตะลึงขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ หากเป็นไปตามที่อีกฝ่ายกล่าวมาจริง เช่นนั้นความทะเยอทะยานที่บ้าระห่ำของชาวตาดก็ปรากฏชัด แล้วอาณาจักรฉินก็จะตกอยู่อันตราย!

“คือ.....ผู้คุมหอเชื่อรึไม่ขอรับ?” อู๋เจี๋ยมองสีหน้าของหลิวเชียนเชียนแล้วถามขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ

หลิวเชียนเชียนสูดลหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดว่า

“มันไม่สำคัญว่าข้าเชื่อรึไม่ ข้าจะนำเรื่องนี้รายงานต่ออ๋องเหยียน หากเป็นความจริง อ๋องเหยียนจะต้องตอบแทนเจ้าแน่นอน”

เมื่อเห็นว่าผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว ทั่วป๋าเยี่ยนที่ขี่อยู่หลังม้าก็มองไปยังผู้ติดตามแล้วถามอย่างรำคาญใจว่า

“อีกนานเพียงใดกว่าจะถึงเมืองหลวงอาณาจักรฉิน?”

“พ่ะย่ะค่ะ คำนวณจากเวลาแล้ว......ราวเจ็ดแปดเดือนก็จะถึงเมืองหลวงอาณาจักรฉินพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้ติดตามตอบกลับ

“นานเพียงใดนะ?!” ทั่วป๋าเยี่ยนเสียงดังขึ้นมา เขาเบิกตาพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า

“นานเพียงใดนะ อีกเจ็ดแปดเดือนงั้นรึ? เช่นนี้หากเดินทางไปกลับก็ต้องใช้เวลาหลายปีสิ? แล้วข้าจะทำอย่างไร?”

“เอ่อ......” ผู้ติดตามเหงื่อแตก ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

แต่ทั่วป๋าเยี่ยนกลับไม่หยุด เขายังคงด่าทอว่า “แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่รีบบอกเร็วกว่านี้ หากเจ้าบอกว่าต้องไปกลับหลายปี ข้าก็ไม่มีทางเสนอมาเองแน่ คิดว่าข้าว่างมากนักรึ?”

“โปรดอย่าได้โกรธเกรี้ยวไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!” ผู้ติดตามตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาคุกเข่าอยู่กับพื้นแล้วพูดว่า

“ช่วยไม่ได้นี่พ่ะย่ะค่ะ ดินแดนเก้าแคว้นกว้างใหญ่อย่างยิ่ง อีกอย่างเมืองหลวงแห่งอาณาจักรฉินก็อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ เราจะต้องเดินทางผ่านเก้าแคว้นกว่าครึ่งจึงจะถึงอาณาจักรฉิน อีกอย่างเรายังมีสัตว์มาด้วย จะ......จะโทษกระหม่อมได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ......”

“เจ้า......”

ทั่วป๋าเยี่ยนชี้ผู้ติดตามแล้วโกรธเกรี้ยวอย่างมาก

“นายท่าน พักสักเดี๋ยวเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์