องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1321

“ข้ารู้ว่าแค่ว่าพวกชาวตาดไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินพวกมันต่ำไป พวกมันเป็นได้แค่หมาป่าเจ้าเล่ห์ก็เท่านั้น”

ฉินชงกัดฟันพูดอย่างเกลียดชัง

จดหมายฉบับนี้เขียนอย่างละเอียด แจ้งว่าพวกชาวตาดส่งวัวและแกะมาเพื่อแสดงความเสียใจต่อชาวอาณาจักรฉิน และพวกเขาอาจจะลงมือทำอะไรบางอยย่างในอนาคตก็เป็นได้

หลังจากที่วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้ว ยังถือว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ หากอาณาจักรฉินพลาดท่าไป แน่นอนว่าต้องได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน

อาณาจักรฉินอาจจะตกอยู่ในภัยพิบัติอีกครั้งด้วยซ้ำ

ในเวลานี้ จู่ๆ ฉินชงก็สงบนิ่งขึ้น ขมวดคิ้วแล้วถามว่า

“เจ้าสิบสี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

ฉินเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยๆ พูดออกมาว่า

“ข้ารู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกชาวตาดไม่ได้มีเจตนาดีตั้งแต่แรก จดหมายฉบับนี้ช่วยคลายความสงสัยของข้าให้กระจ่างในทันที ในเมื่อตอนนี้เข้าใจวัตถุประสงค์ของพวกมันแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องให้กังวลอีกต่อไป”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และยิ้มออกมา

“พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่าครั้งนี้พวกชาวตาดจะฉวยโอกาสนี้ไม่สำเร็จอีกทั้งยังขาดทุนอีกด้วย!”

ฉินชงเหลือบมองฉินเหยียนด้วยสายตาสงสัย

ฉินเหยียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า

“พวกเขาไม่ได้อยากทำสงครามทางวาจากับพวกเราหรือ? ดีเลย พวกเราค่อยๆ เล่นกับพวกมันเถิด ตอนนี้อาณาจักรฉินของเราก็ไม่มีหน่วยรับมือที่เหมาะสม พี่ใหญ่ ข้าอยากแนะนำให้สร้างแผนกใหม่ขึ้นมา”

“อ้อ เจ้าสิบสี่พูดให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่?” ฉินชงมองฉินเหยียนด้วยสายตาสนใจ

“แผนกโฆษก” ฉินเหยียนตอบ

“พวกเรากสามารถยึดตามโครงสร้างพื้นฐานของกรมพิธีการได้ และเพิ่มแผนกโฆษกเข้าไปในกรมพิธีการใช้เป็นตัวแทนอาณาจักรฉิน จากนั้นคอยประกาศข่าวให้ทุกคนทั่วโลกทราบว่าพวกชาวตาดต้องการกลั่นแกล้งพวกเรา พวกเราไม่กล้าสู้กลับ หรือประกาศไปว่าพวกมันกำลังรอให้พวกเราตอบโต้กลับและใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ”

“ในกรณีนี้ พวกเราจะไม่ตอบโต้กลับ แต่จะเน้นป้องกัน พวกมันมีกี่คนพวกเราค่อยๆ จัดการให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกัน ก่อนที่พวกมันจะเปลี่ยนเรื่องโกหกให้เป็นเรื่องจริง ให้แผนกโฆษกของกรมพิธีการประณามการกระทำของพวกมันต่อหน้าอาณาจักรอื่น และขัดขวางทุกวิธีการที่พวกมันต้องการกลับเรื่องโกหกให้เป็นเรื่องจริง”

“หากยังเป็นเช่นนี้ ทุกอาณาจักรจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่พูดเรื่องจริง”

ฉินเหยียนที่พูดออกมาแต่ละประโยค สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ฉินชงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตามอย่างชื่นชม

“เอาล่ะ น้องสิบสี่ เช่นนั้นทำตามที่เจ้าพูด ข้าจะตั้งแผนกโฆษกและทำตามที่เจ้าว่ามาทันที” ฉินชงพูดอย่างเคร่งขรึม

หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันอีกนิดหน่อย จากนั้นฉินเหยียนก็กลับไป

ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง เขาเห็นจ้าวจือหย่าเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า

“เจ้าอ่านจดหมายฉบับนั้นแล้วหรือ?”

จ้าวจือหย่าพยักหน้าและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“หากพี่หลิวมั่นใจเช่นนี้ ข้าเกรงว่าสิ่งที่นางพูดในจดหมายจะเป็นเรื่องจริงเพคะ”

ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าบุตรแห่งกิเลนยังอยู่ที่อาณาจักรอู๋ ตอนนี้เขาคงทำงานที่ท่าเรืออยู่?”

จ้าวจือหย่าอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นตระหนักได้ว่า “ท่านอ๋อง พระองค์ทรงกำลังพูดถึงหลิวอวี่หลินแห่งตระกูลหลิวอยู่หรือเพคะ?”

ฉินเหยียนหัวเราะเสียงดังและพูดว่า

“นอกจากเขาแล้วยังมีคนอื่นอีกหรือ?”

“ดังนั้นคนที่มองจุดประสงค์ของพวกชาวตาดออกความจริงแล้วไม่ใช่อู๋เจี๋ย แต่เป็นหลิวอวี่หลินหรือเพคะ?”

“ถูกต้อง”

“เหตุใดเขาถึงทำเช่นนั้นเพคะ? ไม่สู้บอกมาตรงๆ เลยว่าเป็นความคิดของเขา เช่นนั้นท่านอ๋องอาจจะเลื่อนตำแหน่งให้เขา เขาจะได้ไม่ต้องเป็นคนคอยดูแลกรมโยธาธิการอะไรนั่นแล้ว” จ้าวจือหย่าถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

ฉินเหยียนหัวเราะ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“ข้าเกรงว่าหลิวอวี่หลินคิดว่าแม้ว่าเขาจะทำผลงานได้มากมาย ข้าก็จะไม่คิดและทำอะไรเกี่ยวกับเขา คิดว่าเขาควรต้องทำงานที่นั่นและปิดบังตังตนไปอีกสองสามปี เขาก็ยังทำเช่นนั้นต่อไป”

จ้าวจือหย่าเข้าใจเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง แต่ยังไม่ได้เข้าใจทั้งหมด

ฉินเหยียนอธิบายอีกครั้งด้วยรอยยิ้มว่า

“ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเร็วๆ นี้ อู๋เจี๋ยต้องการสมัครเข้าเป็นคนของกองทัพเรือใช่หรือไม่? เจ้าเขียนจดหมายกลับไปหาเชียนเชียนให้นางแต่งตั้งตำแหน่งให้อู่เจี๋ยเป็นแม่ทัพระดับกลาง ให้เขาลองทำดูก่อน”

จ้าวจือหย่าพูดด้วยความประหลาดใจ

“ท่านอ๋อง พระองค์ก็ทราบมิใช่หรือเพคะว่าคนที่มองแผนการของพวกชาวตาดออกมิใช่อู๋เจี๋ย เหตุใดท่านยังส่งเสริมเขาอีกเพคะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์