องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1348

ผลลัพธ์กลางๆก็คือการที่ไม่แพ้ไม่ชนะ อาณาจักรฉินไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยเหลือกลับมาได้ แถมยังสูญเสียทหารนับแสนด้วย ร่วมปราบปรามกับอาณาจักรอื่นๆ

ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด คืออาณาจักรพ่ายแพ้ ชาวตาดได้รับชัยชนะ ทุกอาณาจักรต่างพากันเคลื่อนไหวตามอย่างโง่เขลา อาณาจักรฉินถูกล้อมโจมตี

ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์แบบไหน อาณาจักรฉินที่โดดเด่นก็ต้องเกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ถึงขั้นที่ต่อให้เขาใช้เวลาอีกยี่สิบปี ก็ไม่แน่ว่าจะพาให้อาณาจักรฉินกลับมายังจุดเดิมได้รึไม่

เมื่อจ้าวจือหย่าได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดเซียวทันที ก่อนหน้านี้นางไม่ได้คิดลึกซึ้งมากเพียงนั้น บัดนี้เมื่อได้ยินฉินเหยียนพูดมา ก็รู้สึกว่าไม่ควรบุ่มบ่ามจริงๆ

แต่ว่านางก็พูดอย่างลังเลว่า “แต่ว่าท่านอ๋องเพคะ พระองค์จะห้ามเรื่องนี้ไม่ได้นะเพคะ หากทรงออกหน้าห้ามเองจะต้องทำให้เกิดความฮือฮาอย่างแน่นอน ต่อให้พระองค์จะยุติเรื่องนี้ลงได้ แต่ในอนาคตอาณาจักรฉินกับพระองค์ก็จะแตกความสามัคคีนะเพคะ......”

จ้าวจือหย่าไม่กล้าพูดต่อไป

ฉินเหยียนสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง เขารู้หลักเหตุผลที่ง่ายดายนี้อยู่แล้ว เขาเองไม่ได้โอหังในตนเอง เขารู้ดีว่าหากอาณาจักรฉินไม่มีเขาก็คงจบเห่ เขาเองก็ลังเลกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง และคิดไม่ไหวแล้ว

แต่ทว่าทันใดนั้นเองจู่ๆเขาก็นึกถึงชื่อหนึ่งได้ คนที่เขาเพิ่งจะพูดถึงเมื่อครู่นี้นั่นเอง หลิวอวี่หลิน

ฉินเหยียนยืนขึ้นแล้วถามว่า “บัดนี้หลิวอวี่หลินอยู่ที่ใด?”

ฉินเหยียนร้อนใจอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนออกคำสั่งให้หลิวอวี่หลินไปเป็นผู้รับเหมาและผู้ตรวจการต่อเรือที่อาณาจักรอู๋เองแท้ๆ สุดท้ายตอนนี้กลับเลอะเลือนไปเอง

จ้าวจือหย่าพูดอย่างประหลาดใจว่า

“ท่านอ๋องให้เขาไปเป็นฝ่ายควบคุมกรมโยธาธิการที่หัวถิงไม่ใช่รึเพคะ?”

ฉินเหยียนตบหน้าผากแล้วพูดว่า “ดูข้าสิ” ว่าแล้วฉินเหยียนก็ออกคำสั่งทันทีว่า “ส่งคนไปรับเขากลับมายังเมืองหลวงซะ ฝ่ายควบคุมกรมโยธาธิการอะไรกัน เขาเป็นนักวิชาการไม่เหมาะกับการทำด้านนี้ น่าขันสิ้นดี เรื่องนี้เร่งด่วนอย่างยิ่ง......หากเขาไม่พึงใจที่ถูกลดตำแหน่งก็ปล่อยให้เขาไม่พึงใจไปก่อน รับเขากลับที่เมืองหลวงก่อน!”

จ้าวจือหย่าอึ้งไปแล้วพูดว่า “เพคะ หม่อมฉันจะรีบส่งคนไป......”

ฉินเหยียนออกคำสั่งแล้วก็ยืนขึ้นพูดอย่างเคร่งขรึมว่า

“ข้าจะไปพบพี่ใหญ่ก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเกลี้ยกล่อมท่านพี่ หยุดการเคลื่อนทัพก่อนดีกว่า”

......

รุ่งเช้าแล้ว แต่ท้องฟ้าอาณาจักรอู๋ยังคงครึ้มอยู่ เพียงพริบตาวันใหม่ก็ได้ผ่านไปครึ่งวันแล้ว สำหรับอาณาจักรอู๋แล้วก็ได้มาถึงฤดูกาลที่เกิดพายุไต้ฝุ่นบ่อยครั้งแล้ว

พายุฝนใกล้จะมาถึงแล้ว การก่อสร้างอู่ต่อเรือหลวงเองก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว หลิวอวี่หลินกำลังจะไปรายงานตัวที่เสมียนตรวจสอบที่อู่ต่อเรือ

“เจ้าจะไปแล้ว จะไปที่ใดรึ?”

อู๋เจี๋ยรู้สึกว่าอาหารไม่อร่อยเสียแล้ว ต่อไปเขาจะต้องคอยอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นชินคนเดียวงั้นรึ?

หลิวอวี่หลินถอนหายใจแล้วพูดว่า “ไม่รู้เหมือนกัน อีกอย่างข้าก็แค่คาดเดาแล้วพูดไปอย่างงั้น”

เขาพูดแล้วก็ถือตะเกียบขึ้นมาคีบเส้นทาน

อู๋เจี๋ยงุนงงไปหมด แต่เห็นสีหน้าที่ผ่อนคลายของเขาแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อทานเสร็จแล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันไป หลิวอวี่หลินได้มุ่งหน้าไปยังอู่ต่อเรือหลวง

วันนี้ยามบ่ายเป็นวันแรกของการทำงานอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่อู่ต่อเรือหลวงสร้างเสร็จ และจะมีการหารือกัน เมื่อเราไปถึงลานกว้างแล้วก็พบว่าที่นี่มีแต่คนมากมาย เหล่าคนงานต่างก็ชะเง้อหน้ารอคอยอยู่ พวกเขาหลายคนมีทั้งคนงานก่อสร้าง และช่างต่อเรือธรรมดา

งานหลายอย่างในการต่อเรือนั้นอาศัยความแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องมีเทคนิคอะไรมากมาย เพราะตำแหน่งที่ต้องใช้เทคนิคมากมีคนคอยรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนพวกเขาที่อยู่ต่อนั้นก็แค่อยากจะหาเลี้ยงชีพต่อไปเท่านั้น

ท่ามกลางฝูงชน มีหลายคนเป็นคนที่หลิวอวี่หลินรู้จัก เช่นเหล่าพี่ชายที่คอยดูแลเขาก่อนหน้านี้ บัดนี้เมื่อเห็นหลิวอวี่หลินแล้วก็ต่างยิ้มแย้มให้ แล้วทักทายให้เขารีบมา จากนั้นก็เริ่มคุยกัน

“ดูไม่ออกเลยนะว่าเจ้ามีความสามารถเพียงนี้ ตอนนั้นเจ้าก็เป็นฝ่ายควบคุมแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์