“ตามพระประสงค์ของฝ่าบาท!”
ขุนนางทุกคนในห้องโถงต่างเห็นพ้องต้องกัน
ฉินชงโบกมือปัดแล้วถามว่า
“หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็กลับกันไปทำงานต่อเถิด”
หลังจากพูดเช่นนี้ เขาก็เดินออกจากท้องพระโรงไป
เมื่อขุนนางเห็นเช่นนี้ พวกเขาต่างแสดงสีหน้าเปลี่ยนไป
หลังจากที่ออกมาจากท้องพระโรง ฉินเหยียนเดินออกไปพร้อมกับหลิวอวี่หลินและถอนหายใจออกมา
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถโน้มน้าวพวกขุนนางได้จริงๆ”
หลิวอวี่หลินยิ้มและพูดว่า
“ทำไมหรือท่านอ๋อง? นี่มิใช่เรื่องที่น่ายินดีหรือพ่ะย่ะค่ะ? ท่านไม่ดีใจหรือ?”
ฉินเหยียนส่ายหน้า หัวเราะแล้วพูดว่า
“แน่นอนว่าข้าต้องดีใจ หลังจากเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ อาณาจักรฉินได้รับการช่วยเหลือ แต่หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าจะจัดการไปได้ถึงจุดใด”
“ท่านอ๋องได้โปรดวางใจเถิดพ่ะย่ะค่ะ ช่วงเวลาต่อจากนี้ ชื่อเสียงของกระหม่อมจะแย่ลงมาก ท่านอ๋องหยุดการติดต่อกับกระหม่อมเถิด เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาใหญ่ตามมา”
หลิวอวี่หลินยิ้มอ่อน
ฉินเหยียนเม้มปากแน่น ในที่สุดก็พยักหน้าออกมา
“อาณาจักรฉินจะต้องจำการเสียสละของเจ้าในวันนี้ สักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วข้าจะแต่งตั้งและสร้างชื่อให้เจ้าอย่างเหมาะสม”
หลิวอวี่หลินยิ้มอ่อนและไม่ตอบอะไรกลับไป
หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ฉินเหยียนและพูดว่า
“ท่านอ๋อง กระหม่อมต้องขอตัวไปทำงานต่อแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ไปเถิด”
หลิวอวี่หลินจะแยกตัวออกไป
เมื่อตอนที่เขาถึงเมืองหลวง เขายังไม่ได้พักผ่อนเลย อีกทั้งยังถูกฉินเหยียนลากตัวไปคุยตลอดทั้งคืน
เช้าวันนี้เขาได้ใช้วาจาเอาชนะเหล่านักปราชญ์ผู้รู้ ตัดสินใจเกี่ยวกับงานของตน จากนั้นเขาไม่มีเวลาให้หยุดพักแล้ว ต้องแสดงความสามารถในการทำงานของตัวเองออกมา
หลิวอวี่หลินไม่สนใจเรื่องพักผ่อนเลย เขากลับไปที่ศาลาว่าการของตนเอง หลังจากจัดการเจ้าหน้าที่ในฝ่ายโฆษกของตัวเองแล้ว ตอนบ่ายเขาก็พาคนของเขาเป็นตัวแทนอาณาจักรฉินไปยังสถานที่ที่ตัวแทนกลุ่มผู้หญิงได้พักอยู่
ตอนที่เขาได้พบผู้หญิงกลุ่มนั้น หลิวอวี่หลินยิ้มอย่างอ่อนโยน ทำให้ผู้หญิงรู้สึกสบายใจทันที
“ท่านคือใต้เท้าหลิวใช่หรือไม่เจ้าคะ? ฝ่าบาทและอ๋องเหยียนให้ท่านเป็นคนตัดสินหรือเจ้าคะ?”
ผู้หญิงหลายคนมองไปที่หลิวอวี่หลินด้วยสายตาประหม่า
หลิวอวี่หลินยิ้มและพูดว่า
“แม่นางอย่าเพิ่งตกใจไปเลย เรื่องนี้ทำให้ฝ่าบาทโกรธมาก ข้ามานี่ที่เพื่อคอยจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเจ้า ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน”
หลังจากได้ยินหลิวอวี่หลินพูดเช่นนั้น แพวกนางก็ผ่อนคลายเล็กน้อย
ถามออกไปอย่างระมัดระวังว่า
“เช่นนั้นคนรักของข้าจะถูกปล่อยตัวออกมาใช่หรือไม่เจ้าคะ? ในอนาคตหากพวกเราต้องการย้ายไปยังดินแดนชาวตาด อาณาจักรฉินจะขัดขวางพวกเราหรือไม่เจ้าคะ?”
หลังจากผู้หญิงกลุ่มนั้นจากไป หลิวอวี่หลินก็ยิ้ม มองตามหลังเขาไปและยิ้มเยาะออกมา
หลังจากรวบรวมความคิดของตัวเองเสร็จแล้ว หลิวอวี่หลินมองไปที่คนของเขาแล้วถามว่า
“เป็นอย่างไรบ้าง? คนของสำนักพิมพ์ในแต่ละพื้นที่มาถึงกันหรือยัง?”
ลูกน้องประสานมือแล้วตอบกลับว่า
“รายงานท่านใต้เท้า ข้าได้เรียกคนของสำนักพิมพ์มาตามคำแนะนำของท่านแล้วขอรับ”
“ดีมาก!”
หลิวอวี่หลินพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะ พวกเราไปพบพวกเขากันเถอะ”
จากนั้นกลุ่มของพวกเขาก็ออกจากที่นั่นและมาถึงห้องโถงใหญ่ที่มีคนของของสำนักพิมพ์มารวมตัวรอกันอยู่แล้ว
เมื่อเห็นหลิวอวี่หลิน ทุกคนต่างทำความเคารพและพูดว่า
“สวัสดีท่านใต้เท้าขอรับ”
หลิวอวี่หลินยิ้ม โบกมือบอกให้พวกเขานั่งลง
“ลำบากพวกท่านเลย ฝ่ายโฆษกของอาณาจักรฉินเพิ่งก่อตั้งขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ในอนาคตข้าจะร่วมมือทำงานกับพวกท่าน หวังว่าพวกเราจะร่วมทำงานกันอย่างมีความสุขและราบรื่น เพื่อส่งเสริมให้อาณาจักรฉินรุ่งเรือง”
น้ำเสียงของหวิงอวี่หลินจริงจังมาก
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างไม่กล้าพูดอะไรออกมา ต่างพูดแสดงความเกรงใจออกมาสองสามประโยค
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...