“ยังคิดจะไปที่ใดอีกรึ? ถึงที่หมายแล้ว รีบลงมาจากรถม้าซะ!”
เหล่าชาวตาดต่างก็มีปฏิกิริยาที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย แถมยังจ้องมองพวกนางไม่หยุด แววตาคู่นั้นร้อนแรงอย่างยิ่ง
ภาพนี้ทำให้พวกเฉินอวิ๋นฟางอึ้งไปหมด จู่ๆก็รู้สึกว่าชาวตาดที่คอยดูแลพวกนางอย่างเอาใจใส่ในระหว่างเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ทำให้พวกนางรู้สึกขนลุกไปหมด
“เหตุใดจึงให้ลงจากรถม้าที่นี่? เราจะไปที่ดินแดนชาวตาดกันไม่ใช่รึ? แล้วที่นี่คือที่ใด?” ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น
“ฮ่าๆๆ ไปดินแดนชาวตาดรึ?” ชาวตาดทรงผมบ๊อบคนหนึ่งแสยะยิ้มเผยฟันเหลืองๆของเขาออกมา
“ที่นี่คือดินแดนชาวตาดไงเล่า รีบลงมาซะ!”
“ที่นี่คือดินแดนชาวตาดงั้นรึ?”
ประโยคนี้ราวกับฟ้าผ่า ทำให้เหล่าหญิงสาวในรถม้าต่างก็ตกตะลึงอยู่กับที่
ผู้หญิงคนหนึ่งฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ชาย พวกเจ้าชาวตาดช่างเป็นคนหวานซึ้งและมีอารมณ์ขันเสียจริง ถึงตอนนี้แล้วยังล้อพวกข้าเล่นอีก ฮ่าๆๆ......”
ชาวตาดทรงผมบ๊อบขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างรำคาญใจว่า
“บอกให้ลงก็ลงมา พูดมากเสียจริง จะให้พวกข้าลากลงมางั้นรึ?”
“พี่ชาย พวกข้า......”
ผู้หญิงคนนั้นยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ชาวตาดทรงผมบ๊อบคนนั้นก็ได้ยื่นมือไปดึงแขนของนาง
“กรี๊ด!” หญิงสาวตกใจแล้วรีบดิ้นรน
แต่ชาวตาดทรงผมบ๊อบแรงเยอะอย่างยิ่ง สามารถดึงนางลงมาจากรถม้าได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็เห็นว่าเพื่อนร่วมทางของนางเองก็ถูกดึงออกมาอย่างหยาบคาย
แม้แต่เฉินอวิ๋นฟางก็ไม่เว้น พวกนางถูกบังคับให้ลงมารถม้าแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จู่ๆก็มีเชือกมาสวมอยู่ที่คอของพวกนาง
“กรี๊ด พวกเจ้าจะทำอะไรกัน?”
“ข้าจะหายใจไม่ออกแล้วนะ รีบปล่อยซะ!”
“ทำอะไรของพวกเจ้า”
เหล่าหญิงสาวกระวนกระวายไปทันที อยากจะใช้มือไปดึงเชือกออกจากคอ
ชาวตาดผมบ๊อบคนนั้นหัวเราะแล้วหรี่ตายิ้มว่า
“พวกเจ้าคิดว่าที่นี่คืออาณาจักรฉินรึไงกัน? ตอนนี้พวกเจ้าอยู่ในเขตของชาวตาดแล้ว อย่ามาทำท่าทีคุณหนูคุณนายหน่อยเลย ไม่มีใครยอมตามใจพวกเจ้าหรอกนะ คุกเข่าลงให้หมดซะ!”
“ว่าอย่างไรนะ คุกเข่ารึ?”
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย?”
“ข้าไม่ไปแล้ว ข้าจะกลับอาณาจักรฉิน แก้เชือกให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ!”
พวกนางร้องตะโกนอย่างกระวนกระวาย แต่จู่ๆก็มีแส้โบกไปทางพวกนางทันที
ในที่สุดพวกนางก็ได้สติแล้วกรีดร้องออกมา
“กรี๊ด ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
พวกนางดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่กลับถูกชาวตาดกดเอาไว้กับพื้นจนดิ้นไม่ได้
ในหัวของเฉินอวิ๋นฟางปรากฏความทรงจำที่แสนเจ็บปวดขึ้นมา นางตะโกนอย่างหวาดผวาว่า
“ปล่อยข้านะ ข้าคือผู้หญิงของทั่วป๋าเยี่ยน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าตั้งครรภ์ลูกของเขาด้วย พวกเจ้า......”
เมื่อพูดได้แค่นั้นเฉินอวิ๋นฟางก็อึ้งไปทันที เพราะนางพบว่าคำพูดข่มขู่ของนางไม่ได้ทำให้พวกชาวตาดหยุดลงได้ แถมพวกมันยังมองนางอย่างร้อนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
“ฮ่าๆ ผู้หญิงที่ท่านทั่วป๋าเคยเล่นสนุกงั้นรึ งั้นพวกข้าคงต้องลิ้มลองให้ดีแล้ว”
“ท่านทั่วป๋าดีต่อพวกเราจริงๆ ให้เจ้าเป็นรางวัลแก่พวกข้าด้วย วันนี้พวกข้าจะลิ้มลองได้สาสม!”
เหล่าผู้ชายชาวตาดต่างก็หัวเราะแล้วยื่นมือไปหานาง
“กรี๊ด! ช่วยด้วย! ไสหัวไปนะ!”
เฉินอวิ๋นฟางกรีดร้องอย่างสุดเสียง แต่เสียดายที่ที่นี่มีแต่พวกนาง ไม่มีใครเลย ความสิ้นหวังเช่นนี้ทำให้นางยิ่งหวาดกลัว ราวกับตกลงเหวลึก
เสียงร้องอนาถดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้หญิงอยากจะต่อต้าน แต่สิ่งที่พวกนางได้รับก็คือการทุบตีที่รุนแรงยิ่งกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...