“ข้าจะถามอีกครั้ง เจ้าคือใคร?”
ฉินอวี่ถามขึ้นอีกครั้ง เดิมทีทั่วป๋าเยี่ยนยังอยากจะด่าทอต่อ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถือไม้ปลุกสติแล้วจะตีอีกครั้ง ก็รีบพูดอย่างกระวนกระวายว่า
“ทั่วป๋าเยี่ยน ข้าชื่อทั่วป๋าเยี่ยน หยุดตีได้แล้ว!”
สุดท้ายเขาก็เป็นแค่คนที่ รังแกคนที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า ปกติเขาเอาแต่กดขี่รังแกคนดี ไม่เคยถูกกระทำเช่นนี้มาก่อนเลย
เขาเองก็ไม่ได้โง่เขลา ต่อให้ตนเองจะโกรธแค่ไหน ก็ต้องได้รับอิสระก่อนแล้วจึงค่อยล้างแค้น
“อ๋อ ทั่วป๋าเยี่ยน!” ฉินอวี่ค่อยๆวางไม้ปลุกสติลงแล้วพูดเสียงเรียบว่า
“ข้าขอถามเจ้า เรื่องที่เจ้าขืนใจหลินเสี่ยวหย่านั้นคือเรื่องจริงรึไม่?”
ทั่วป๋าเยี่ยนกัดฟันแล้วพูดว่า “นางเป็นคนมาให้ท่าข้าเอง นางให้ท่าข้า เจ้าเข้าใจรึไม่? นางให้ท่าข้า!”
ฉินอวี่หรี่ตาแล้วถามว่า “เรื่องมาจนถึงขั้นนี้แล้วยังพูดไร้สาระอีกรึ?”
“เป็นความจริง หากนางไม่ได้ให้ท่าข้า แล้วเหตุใดจึงมาปรากฏตัวตรงหน้าข้าบ่อยๆเล่า?”
ทั่วป๋าเยี่ยนได้ยินดังนั้นก็กระวนกระวาย
เมื่อได้ยินดังนั้นฉินอวี่ก็ยิ่งเดือดดาล เขากัดฟันแล้วพูดว่า
“ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดอย่างเจ้าเนี่ยนะ เจ้าเอาความมั่นใจมาจากที่ใดถึงได้พูดจาไร้ยางอายเช่นนี้ได้? อาณาจักรฉินของเรามีนิสัยชอบเลี้ยงสุนัข เจ้าคงได้พบเจอสุนัขบนถนนไม่น้อย แล้วสุนัขพวกนั้นมันก็ให้ท่าเจ้างั้นรึ? แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่ลากมันขึ้นเตียงด้วยเล่า?”
คำพูดของฉินอวี่ทำให้นักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างๆแทบจะกลั้นไม่อยู่
แต่ทั่วป๋าเยี่ยนกลับโกรธเกรี้ยวเพราะคำพูดอย่างยิ่ง เขาตะโกนด้วยดวงตาแดงก่ำว่า
“เจ้าบังอาจเหยียดหยามข้ารึ?”
ฉินอวี่กลับพูดอย่างดูถูกว่า “ข้าเหยียดหยามเจ้ารึ? ข้ายังจะตัดสินโทษเจ้าด้วย!”
“บังอาจ! ข้าคือคณะทูตชาวตาด หากเจ้ายังอาจทำบุ่มบ่ามต่อข้า กองกำลังชาวตาดก็จะเคลื่อนทัพลงใต้ทันที และอาณาจักรฉินก็จะต้องถูกล้มล้าง!”
ทั่วป๋าเยี่ยนตะโกนเสียงดังขึ้น “อีกอย่างข้าก็เป็นราชวงศ์ชาวตาด เป็นหลานของข่านแห่งชาวตาด เจ้าไม่มีสิทธิ์ลงโทษข้า!”
ตอนนี้เขากลัวมากจริงๆ เพราะเขาพบว่าคนตรงหน้าป่าเถื่อนยิ่งกว่าชาวตาดอย่างพวกเขาเสียอีก
ฉินอวี่กลับหัวเราะแล้วพูดว่า “ทั่วป๋าเยี่ยน เจ้ายังจำข้าได้รึไม่?”
ทั่วป๋าเยี่ยนอึ้งไป แล้วส่ายหน้าพูดว่า “จำไม่ได้”
“หึหึ เมื่อครึ่งปีก่อน ข้ากล้านำกองทัพไม่กี่พันคนเผชิญหน้ากับกองกำลังหลายหมื่นนายของเจ้าที่ที่ลาดวั่งเฟิง บัดนี้เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวการข่มขู่ของเจ้าในดินแดนอาณาจักรฉิน ดินแดนของข้างั้นรึ?”
ทั่วป๋าเยี่ยนอึ้งไปทันที จากนั้นก็พูดอย่างตะลึงว่า “เจ้าคือคนที่เฝ้าอยู่ที่ที่ลาดวั่งเฟิงในตอนนั้นงั้นรึ?”
สงครามที่ที่ลาดวั่งเฟิง จะบอกว่าเป็นความอับอายและแผลในใจทั้งชีวิตของทั่วป๋าเยี่ยนก็ว่าได้ กองทัพหลายหมื่นนายของเขาเกือบจะบุกทะลวงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สุดท้ายมีแต่เขาและคนไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดพ้นไปได้
ส่วนทั่วป๋าเยี่ยนที่เป็นชาวตาดก็ไม่เข้าใจความหมายของมันเลย
ฉินอวี่ยืนขึ้นแล้วมองไปยังเจ้าเมืองจิงจ้าว เบาโบกมือพูดว่า
“จะปล่อยมันกลับวัดหงหลูทั้งๆที่ยังไม่ได้ตัดอุปกรณ์ก่อเหตุงั้นรึ?”
“คือ......คือ......จะตัดจริงๆงั้นรึพ่ะย่ะค่ะ?”
สีหน้าของท่านซุนแปลกประหลาดอย่างยิ่ง เขามองทั่วป๋าเยี่ยนแล้วพูดขึ้นอย่างลังเล
ฉินอวี่จ้องเขม็ง “เจ้ามีปัญหางั้นรึ?”
“เอ่อ......ไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นก็ปฏิบัติเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว ไปก่อนล่ะ!”
ฉินอวี่หันหลังเดินจากไป เหลือเพียงเหล่านักการในศาลาว่าการที่งุนงงไปหมด
ส่วนขณะนี้ทั่วป๋าเยี่ยนเห็นว่าเรื่องได้จบลงแล้วจึงได้โล่งอก และได้สาบานเอาไว้ว่าจะต้องล้างแค้นความอับอายในวันนี้ให้ได้ ผู้ติดตามพยุงเขาขึ้นมา
เมื่อมั่นใจว่าฉินอวี่ไปแล้ว เขาก็มองไปยังท่านซุนแล้วกัดฟันพูดว่า
“เมื่อครู่นี้เขาบอกว่าหากตัดอุปกรณ์ก่อเหตุแล้วพวกข้าก็จะไปได้แล้วไม่ใช่รึ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...