หลังจากที่ฉินเหยียนเงียบไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า
“ข้ายังยึดมั่นในความคิดของข้า หากอาณาจักรคุชะยอมจำนนต่ออาณาจักรฉิน เช่นนั้นพวกเราจะส่งกองกำลังไปยังดินแดนชาวตาดในยามจำเป็นเท่านั้น”
เมื่อฉินชงได้ยินดังนั้น เขาก็ขมวดคิ้วแน่น
“แต่เจ้าสิบสี่ หากเราทำเช่นนี้ สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดถือว่าขาดทุนเชียวนะ!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ถือว่าพวกเขายอมจำนนต่ออาณาจักรฉินแล้วอย่างไรรึ พวกเราได้อะไรกลับมา? อีกทั้งยังเป็นการคร่าชีวิตทหารอย่างไร้เหตุผลอีกด้วย”
ฉินอวี่พยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่ เรื่องนี้เสี่ยงเกินไป!”
ฉินเหยียนส่ายหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“แต่พวกท่านพี่เคยคิดบ้างหรือไม่ว่า หากพวกเราไม่สู้จะเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินชงและฉินอวี่ก็อึ้งไป
เพราะฉินเหยียนพูดถูก หากไม่ต่อสู้ กองทัพชาวตาดจะเข้ามาในเมืองในอีกไม่ช้า
เมื่อถึงเวลานั้น อาณาจักรฉินจะใช้อะไรมาต้านทานพวกมันได้ล่ะ?
มีแต่จะแย่ลงมิใช่รึ?
แต่หากพวกเขาสู้ อาณาจักรฉินเองก็จะเป็นฝ่ายสูญเสียมิใช่น้อย?
“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อพวกเราก็ต้องแพ้อยู่แล้ว ลองมาเดิมพันกันสักตั้งไม่ดีกว่าหรือ?”
ฉินเหยียนมองไปที่ฉินชงและฉินอวี่ด้วยสายตาจริงจังและพูดต่อว่า
“ตอนนี้มีกว่าสามสิบอาณาจักรที่กำลังคิดจะฮุบดินแดนอาณาจักรฉิน หากพวกเรามัวแต่ยอมถอย ไม่อาจรับรองได้ว่าพวกอาณาจักรเหล่านี้จะไม่ย่ำกรายเข้ามา”
“หากลองเปรียบเทียบดู แทนที่จะปล่อยให้อาณาจักรเหล่านี้รุกล้ำเข้ามาทีละขั้น จะเป็นการดีกว่าที่พวกเราจะขัดขวางพวกมันก่อน!”
เมื่อฉินชงและฉินอวี่ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาพลันเข้าใจ
ฉินชงถอยหายใจแล้วพูดว่า
“น้องสิบสี่ ข้าเข้าใจวิธีของเจ้า และรู้ดีว่าพวกเราต้องยอมเสีย แต่พวกเรายังต้องคิดพิจารณาให้รอบคอบกันอีกรอบ”
“อืม”
ฉินเหยียนพยักหน้าและตอบว่า
“ข้าเข้าใจ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของอาณาจักร แต่ข้าอยากจะบอกว่า ตีแค่หมัดเดียวเพื่อป้องกันหมัดอีกนับร้อยเชียวนะท่านพี่”
เมื่อฉินชงได้ยินเช่นนั้น เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่น
“แต่น้องสิบสี่ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าหากแพ้แล้ว พวกเราจะเป็นอย่างไร?”
“หากพวกเราแพ้ นับตั้งแต่นี้ไปอาณาจักรฉินห้ามอวดดีและต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยม”
“เมื่อถึงเวลานั้น อาณาจักรฉินของเราจะกลายเป็นแค่เนื้อชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”
“เฮ้อ ตกลงควรเลือกแบบใดกันแน่?”
เมื่อฉินอวี่ได้ยินเช่นนั้น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและเงียบไป
ฉินชงมองไปที่ฉินเหยียนและพูดอย่างจริงจัง
“กราบทูลรายงานท่านอ่องพ่ะย่ะค่ะ ตามที่กระหม่อมได้รับข่าวมา กองทัพพันธมิตรของชาวตาดจำนวนสามแสนนายได้บุกเข้าอาณาจักรคุชะแล้ว ในวันนี้อาณาจักรคุชะเต็มไปด้วยหมอกควัน เกรงว่าประชาชนในอาณาจักรจะได้รับความเดือดร้อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เมืองหลวงของอาณาจักรคุชะเองก็กำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
“ตามที่คาดการณ์ไว้ อาณาจักรคุชะน่าจะอยู่รอดได้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้นและจะล่มสลายในที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”
“อะไรนะ?”
เมื่อฉินชงและฉินอวี่ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็อุทานออกมาด้วยความตกใจทันที
สีหน้าของฉินชงจริงจังมากขึ้น กัดฟันแน่น
พวกชาวตาดได้ส่งกองกำลังออกไปมากจริงๆ ดูเหมือนว่าพวกมันจ้องจะทำลายอาณาจักรคุชะให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้จัดการกับอาณาจักรฉินต่อ!”
ฉินอวี่กำหมัดแน่นและพูดด้วยความโกรธ
“พวกหมาป่าเหล่านั้นทะเยอทะยานเสียเหลือเกิน หากเป้าหมายพวกมันคือแค่ทำลายอาณาจักรคุชะอย่างเดียว ไม่มีทางส่งกองกำลังมามากมายขนาดนี้แน่”
ฉินเหยียนหรี่ตาลง คิดอยู่นานกว่าจะตอบกลับ
“หากพวกเราส่งกองกำลังเข้าไปยังอาณาจักรคุชะ พวกชาวตาดย่อมส่งกองกำลังเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน พวกเราต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย”
เมื่อพูดเช่นนี้ เขามองไปที่เสนาบดีกรมกลาโหมและถามออกไปว่า
“ท่านเสนาบดี ภายในระยะเวลาสั้นๆ อาณาจักรฉินสามารถระดมกองกำลังทหารได้กี่คนเพื่อเข้าไปช่วยอาณาจักรคุชะ?”
เสนาบดีกรมกลาโหมคิดและตอบกลับว่า
“ตามที่กระหม่อมคำนวณ น่าจะระดมพลได้ทันทีประมาณสามแสนคนพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...