องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 14

ขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นต่างมองไปที่องค์ชายสิบสี่ด้วยความงุนงง ทุกคนต่างแสดงท่าทีเยาะเย้ยและดูถูกออกมา

ไท่ฟู่เป็นคนโค้งคำนับจ่อฝ่าบาท แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับการยั่วยุของฉินเหยียน

“การทดสอบหมากรุกถูกกำหนดโดยฝ่าบาท ท่านมีข้อสงสัยประการใด?”

มีคนพูดเยาะเย้ยเบาๆ

“ข้าคิดว่าเขาคงไม่กล้ากระมัง”

“ที่เจ้าพูดมาไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เขาเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่ใช่คนโง่”

“แม้คิดว่าเขาเป็นคนฉลาด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าการทดสอบในวันนี้คือหมากรุก”

“ที่พูดมาก็สมเหตุสมผล”

ฉินเหยียนมองไปทั่วทั้งท้องพระโรงด้วยสายตาว่างเปล่า

เขากลัวพวกเศษขยะเหล่านี้หรือ?

เหอเหอ!

ประสานมือและกล่าวว่า

“เสด็จพ่อ ในเมื่อต้องการแข่งหมากรุก เช่นนั้นข้าจะไม่รังแกบรรดาท่านพี่”

“แข่งหมากรุกเพื่อท้าทายพวกเขาทุกคน!”

เสียงตะโกนอย่างมั่นใจดังขึ้นในตำหนักจินหลวน

คำพูดที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง!

บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และบุ๋นต่างพากันเงียบ และเบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ

แม้แต่ฮ่องเต้ฉินและฮองเฮาเองก็ยังแสดงท่าทีเหมือนกัน

ทุกคนต่างคิดว่าองค์ชายสิบสี่จะยอมถอยเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แต่ไม่มีใครคาคคิดว่าเขาจะยังกล้าพูดจาอวดดีและท้าทายทุกคนเช่นนี้

“เขาเสียสติไปแล้วกระมัง?”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้

ทำให้ทั้งท้องพระโรงที่เงียบสงัดเกิดเสียงดังเซ็งแซ่ดั่งคลื่นซัดสาด

“องค์ชายสิบสี่ทรงตรัสว่าอะไรหรือ? ข้าได้ยินผิดไปแน่ๆ!”

“เจ้าได้ยินถูกต้องแล้ว! ข้าเองก็ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น!”

“เขา เขาเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน?”

“อะแฮ่ม!”

หลังจากที่ฮ่องเต้ฉินได้สติ เขากระแอมออกมาสองครั้ง

หัวหน้าขันทีกล่าวว่า

“เงียบ!”

เสียงที่ดังเซ็งแซ่ค่อยๆ เงียบลง

จากนั้นฮ่องเต้ฉินจึงถามในสิ่งที่เขาสงสัย

“เหยียนเอ๋อร์ ที่เจ้าพูดว่าจะท้าทายทุกคน หมายความว่าอย่างไร?”

ฉินเหยียนมองไปยังรอบๆ และพูดอย่างมั่นใจว่า

“หมายความว่า ข้าไม่สนใจว่าพวกเขาจะส่งมากี่คน หรือจะมีพวกอาจารย์คอยประกบบอกพวกๆ ท่านพี่ว่าควรเล่นอย่างไร ข้าก็ไม่ปฏิเสธ ข้าสามารถเล่นหมากรุกกับพวกเขาทุกคนได้ในเวลาเดียวกัน”

“เพียงแค่หากข้าแพ้ในครั้งนี้ ข้าจะยอมถูกตัดหัวให้พวกเขาเอาไปโยนเล่น!”

“เสียสติไปแล้ว! เขาเสียสติไปแล้วจริงๆ!”

บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นในท้องพระโรงต่างหารือกันอีกครั้ง

ไม่ใช่เพราะคิดว่าองค์ชายสิบสี่มีความสามารถเล่นหมากรุกได้จริงๆ แต่กลับคิดว่าองค์ชายสิบสี่นั้นถูกเวทย์ควบคุมหรือไม่ก็คงเป็นคนโง่จริงๆ

คนๆ เดียจะสามารถแข่งกับคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาแพ้ เขายอมถูกตัดหัว นี่ไม่เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือ!

ในที่สุดฮ่องเต้ฉินพลันได้สติกลับมา แต่ก่อนที่จะทันได้ห้ามปราม ฮองเฮาฉินซวงหลานพลันลุกขึ้นเต็มไปด้วยความโกรธและพูดอย่างรวดเร็วว่า

“เช่นนั้นก็เป็นไปตามนี้! หากแพ้ต้องยอมถูกตัดหัว!”

“ฮองเฮา!”

ฮ่องเต้ฉินต้องการหยุดนาง แต่ฮองเฮาฉินซวงหลานยังคงพูดอย่างจริงจัง

“ฝ่าบาท ท่านเองก็ทรงเห็นว่าองค์ชายสิบสี่ไม่สนใจเรียนรู้มาตั้งแต่ยังเด็ก นิสัยดื้อรั้น หากท่านไม่มอบบทเรียนให้แก่เขา อีกทั้งยังปล่อยให้กำเริบเสิบสานเช่นนี้ไปอีกเรื่อยๆ อาจจะสร้างปัญหามากมายอีกในอนาคตเพคะ!”

“อืม ที่ฮองเฮาพูดก็มีเหตุผล”

ฮ่องเต้ฉินเห็นด้วยกับคำกล่าของฮองเฮา

“เตรียมหมากรุก!”

บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นที่เล่นหมากรุกได้ ทุกคนต่างรวมตัวกันในกลุ่มของตน ปรึกษาหารือกันว่าใครจะเล่นอย่างไร

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ท้องพระโรงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคัก

มีเพียงฉินเหยียนเท่านั้นที่ตัวคนเดียว สายตายังคงมองไปยังรอบๆ เหมือนกันหงส์ในฝูงกา

จ้าวจือหย่าที่ถูกฉินเหยียนพิชิตใจด้วยความรู้ของเขา เมื่อเห็นว่าเขากลายเป็นเป้าหมายอีกครั้ง นางอดไม่ได้ที่จะกังวล

หลังจากคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว นางเดินช้าๆ ไปยังด้านหน้าฉินเหยียน ประสานมือของนางไว้ที่หน้าอกแล้วพูดว่า

“องค์ชายสิบสี่ ด้วยความรู้และความสามารถที่ท่านแสดงในวันนี้ หากมีโอกาสเช่นนี้ท่านคงจะกลายเป็นอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

“แต่ด้วยพระลักษณะนิสัยของท่าน สุดท้ายแล้วก็วนกลับมาทำร้ายท่าน ท่านอดทนมาหลายต่อหลายปี เหตุใดวันนี้ถึงร้องขอความตายล่ะเจ้าคะ?”

คนสมัยโบราณเหล่านี้จะรู้ได้อย่างไรว่าทักษะการเล่นหมากรุกของพวกเขาดีเพียงใด ผู้เล่นหลังเมื่อเริ่มเล่นก็ถูกนำหน้าไปห้าหมากครึ่งแล้ว อีกอย่างฉินเหยียนเคยศึกษารูปแบการเล่นหมากรุกตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงสมัยปัจจุบันมาก่อน

ทุกคนในท้องพระโรงต่างมีความคิดที่แตกต่างกันทันที ขันทีได้ย้ายเก้าอี้ยาวมาวางไว้กลางท้องพระโรง

“เชิญองค์ชายสิบสี่นั่งเถิดขอรับ”

ฉินเหยียนไม่เกรงใจอีกต่อไป สะบัดชายเสื้อและนั่งลงไปทันที

เสียงขันทีประกาศดังว่า

“เริ่มเล่นได้!”

ผู้เล่นคนอื่นที่เข้าร่วมเล่นหมากรุกกับฉินเหยียนได้แก่

องค์ชายใหญ่ องค์ชายสี่ องค์ชายแปด ไท่ฟู่ บัณฑิต เสนาบดีกรมพิธีการ เสนาบดีกรมกลาโหม แม่ทัพทหารม้า...

มีทั้งหมดสามสิบสี่คน แม้แต่อาจารย์หลี่ที่ไม่ได้มีความสามารถก็เข้าร่วมเล่นในครั้งนี้

“พึ่บพั่บ”

ฉินเหยียนสะบัดพัดออก พัดไปที่หน้าอกเขา แล้วพูดว่า

“หมากตัวแรกมุมบนขวาสุด เดิน”

โดยมีจ้างจือหย่าเป็นคนรับผิดชอบในการเป็นตัวหมาก นางเดินหมากตัวแรกออกไป

คนที่เล่นหมากรุกคนต่อๆ ไปก็ค่อยๆ เคลื่อนหมากตัวที่สอง พิลึกพิลั่น พบตัวหมากวางในทุกตำแหน่ง

แม้แต่ตรงจุดตัดยังมีคนเคลื่อนหมากไปวาง

ฉินเหยียนหลับตา และมีภาพกระดานหมากรุกที่ทั้งสามสิบสี่คนวางอยู่ในใจ

ขณะนี้เข้าเปรียบเสมือนนักวางแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ

จัดทำแผนเชิงกลยุทธ์ เอาชนะพื้นที่ห่างไกลออกไปหลายพันลี้

“มังกรบินไป รุกฆาตเสีย”

“เอาออกไป”

ด้วยคำพูดที่มีพลังของเขา อาจารย์หลี่เป็นคนแรกที่ถูกกำจัด

เขามองไปยังกระดานหมากรุกที่อยู่ตรงหน้า ร่างของเขาชาไปทั้งตัว ไม่มีแม้แต่ทางออก

ความพ่ายแพ้เปรียบเสมือนภูเขาที่พังทลายลงมา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือขององค์ชายสิบสี่

“นี่ เป็นไปได้อย่างไร!”

จนกระทั่งขันทีได้เดินไปข้างหน้า แบกอาจารย์หลี่ออกไปอาจารย์หลี่ยังคงตกใจไม่หาย

อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ทำให้ขุนนางทั้งท้องพระโรงตระหนักได้ถึงความจริงอันเลวร้าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์