องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 191

เมื่อฉินเหยียนผลักประตูเข้าไปและเห็นจ้าวจือหย่าเอนกายพิงหัวเตียงกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่จึงรีบเกลี้ยกล่อมว่า

"โธ่ เจ้าอ่อนแอถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่พักผ่อน ยังจะเขียนอะไรอยู่เล่า"

จ้าวจือหย่ายิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

"ไม่เป็นไรเพคะ วันนี้ท่านอ๋องได้ทำเรื่องที่น่าตกใจอีกอย่างที่จือหย่าไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน จือหย่ากลัวที่จะพลาดรายละเอียดไปจึงต้องรีบจดบันทึกเอาไว้เพคะ"

ฉินเหยียนจึงกล่าวว่า

"อย่างไรก็ต้องดูแลร่างกายให้ดีก่อนที่จะทำอย่างอื่น"

ขณะที่กล่าวเขาก็เก็บพู่กันและกระดาษของจ้าวจือหย่าขึ้น และยกน้ำหวานมาค่อยๆป้อนให้นางทีละช้อน

"ร้อนไหม ข้าเป่าให้เจ้าสักหน่อย"

ความอบอุ่นไหลไปสู่หัวใจของจ้าวจือหย่า แม้ว่าฉิงเหยียนมักจะดูเหมือนเป็นคนหยาบคายแต่จริงๆแล้วเขามีความพิถีพิถันใส่ใจเป็นอย่างมาก นางส่ายศีรษะและกล่าวว่า

"ไม่ร้อนเพคะ หวาน"

หลังจากดื่มน้ำหวานอุ่นๆหนึ่งชามจ้าวจือหย่าก็รู้สึกว่าอาการวิงเวียนศีรษะบรรเทาลงไปมาก

ฉินเหยียนหยิบน้ำเกลือขึ้นมาอีกชามแล้วเป่าอย่างระมัดระวังและป้อนนางต่อ

จ้าวจือหย่ารู้สึกว่าฉิงเหยียนดูเหมือนจะมีเรื่องในใจจึงถามขึ้นมาว่า

"ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะมีเรื่องในใจหรือเพคะ?"

ฉินเหยียนป้อนนางพลางกล่าวว่า

"ข้ากำลังคิดถึงบางเรื่องอยู่จริงๆ จ้าวจีเอ๋อร์เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของราชวงศ์ของอาณาจักรจ้าว ทั้งยังเป็นหมู่เลือดที่หายาก"

"ตีให้ตายข้าก็ไม่เชื่อว่าเจ้ากับจ้าวจีเอ๋อร์มีหมู่เลือดเดียวกัน"

มือของฉินเหยียนหยุดชะงัก เขาจ้องมองจ้าวจือหย่าไม่วางตา และกล่าวต่อว่า

"ดูเหมือนว่าสถานะของเจ้าก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน"

จ้าวจือหย่าตกใจจนแทบจะคุกเข่าลงด้วยความตื่นตระหนก

"ท่านอ๋องเพคะ จือหย่าไม่มีเจตนาปิดบังนะเพคะ เพียงแต่......"

ฉินเหยียนรีบประคองนางและตัดบทว่า

"จู่ๆคุกเข่าด้วยเหตุใดกันเล่า ข้าเพียงสงสัยมิใช่คาดคั้น หากเจ้าไม่ประสงค์จะบอกข้าก็จะไม่ถาม"

เมื่อประคองจ้าวจือหย่านั่งลงแล้วเขาก็ขยี้จมูกของนาง

"เรามีความสัมพันธ์อันใด ข้าจะสงสัยเจ้าได้อย่างไร"

"ท่านอ๋องเพคะ!"

จ้าวจือหย่ายิ่งรู้สึกซาบซึ้งใจมากขึ้นจนน้ำตาไหล

"หม่อมฉันมีความลับบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ ทว่าหม่อมฉันไม่มีเจตนาที่จะปิดบัง ขอท่านอ๋องโปรดอภัยเพคะ"

ฉินเหยียนลูบใบหน้าของจ้าวจือหย่าพลางยิ้มและกล่าวว่า

"ไม่เป็นไร รอเมื่อเจ้าพร้อมอยากพูดเมื่อไหร่ค่อยพูด เพียงแต่วันนี้ลำบากเจ้าแล้ว ข้าจึงอยากจะให้รางวัลแก่เจ้า"

เขาโอบคอจ้าวจือหย่าและออกแรง จากนั้นทั้งสองก็เผชิญหน้ากันจนหายใจรดกัน และฉินเหยียนก็จูบนาง

"ท่านอ๋อง ฟ้ายังไม่มืดสนิทเลย อย่าเพคะ...."

"ข้าสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน มาเถิด ที่รักของข้า"

จากนั้นเขาก็อุ้มจ้าวจือหย่าวางลงบนเตียง และเริ่มเปลื้องผ้า

.........

แต่การรอคอยนั้นดำเนินไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน

ในขณะที่หลิ่วเชียนเชียนกำลังงีบหลับนั้นเอง

ฟ้าเพิ่งจะสางและไก่ก็เพิ่งจะขัน

"ฉินเหยียน องค์ชายสิบสี่แห่งต้าฉิน เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!"

เสียงคำรามที่สั่นสะเทือนเลือนลั่นดังก้องไปทั่วลานด้านหลังของจวนเจ้าเมือง

หลิ่วเชียนเชียนสะดุ้ง และได้ยินว่า

"นักฆ่า! กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อม!"

สิ่งที่ตามมาคือการเผชิญหน้าอันตึงเครียด

หลิวเชียนเชียนวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และเตือนว่า

"ท่านอ๋องเกลียดที่สุดก็คือการรบกวนการนอนของท่าน ผู้ใดกล้าหาญถึงเพียงนี้?"

เมื่อเพ่งมองผู้ที่เผชิญหน้ากับองครักษ์ก็พบว่าเป็นสตรีที่องอาจกล้าหาญในชุดเกราะและถือหอกเงินแวววาว

นางก็คือหยางจิ่นซิ่วผู้ที่กำลังท้าดวลโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น

"ฉินเหยียน เจ้าสารเลวฉาวโฉ่ เศษสวะของต้าฉิน เดรัจฉานของราชวงศ์ เจ้าขี้ขลาด รีบออกมาเดี๋ยวนี้!"

การหยามเกียรตินี้ทำให้องครักษ์ทุกคนโมโหและอยากจะกินหยางจิ่นซิ่วทั้งเป็นทันที

ในขณะที่ความโกรธเกือบจะควบคุมไม่ได้จนกำลังจะลงมือนั้นเอง

"ผู้ใดมาด่าแต่เช้าเช่นนี้?"

ฉินเหยียนสวมเสื้อพลางเดินออกไปอย่างรวดเร็ว และปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์