องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 192

ฉินเหยียนขยี้ตาที่สะลึมสะลือและเพ่งพินิจ

เอ๋ หยางจิ่งซิ่ว เจ้าเล็กพริกขี้หนูนี่มีพลังเหลือล้นจริงๆ ตื่นแต่เช้าถึงเพียงนี้เพื่อมาดุเขา นับว่าเป็นคนแรก

ทว่านิสัยที่หยาบกระด้างนี้หาได้ยากจริงๆ แทนที่จะโกรธเขากลับยิ้มและกล่าวว่า

"วางอาวุธในมือลงเสีย ไม่มีจำเป็นที่จะรบราฆ่าฟันแต่เช้า!"

"พวกเจ้าก็ด้วย วางอาวุธลงเสีย"

หลิ่วเชียนเชียนไม่เข้าใจบางอย่าง สตรีเสียสติผู้นี้มองดูท่าทางแล้วไม่ได้มีเจตนาที่ดี เหตุใดท่านอ๋องจึงยังให้ท้ายนาง?

เหล่าทหารชั้นยอดก็สับสนเช่นกัน หยางจิ่นซิ่วหมิ่นเกียรติท่านอ๋องและมายั่วยุแต่เช้า ท่านอ๋องไม่เพียงไม่ออกคำสั่งให้จับกุมกลับยังเข้าข้างนางเล็กน้อยอีกด้วย

ทุกคนต่างก็สับสน ในเมื่อท่านอ๋องมีคำสั่งพวกเขาจึงทำได้เพียงวางอาวุธและถอยไปด้านข้างแต่โดยดี

หยางจิ่นซิ่วถ่มน้ำลายใส่ฉินเหยียนและดุด่าว่า

"เจ้าหยุดเสแสร้งได้แล้ว ข้าว่าเจ้าเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกแสร้งทำเป็นคนดีก็เท่านั้น! ทหารเหล่านี้ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเจ้าล้วนถูกเจ้าหลอกแล้ว เจ้ามันเป็นแค่คนหน้าเนื้อใจเสือ!"

ฉินเหยียนขมวดคิ้ว

"เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้?"

"เสียแรงที่องค์หญิงสามของข้าเดินทางหมื่นลี้มาเพื่ออภิเษกสมรสกับต้าฉินของพวกเจ้า เจ้าไม่เพียงไม่ให้ฐานันดรศักดิ์แก่นางยังลดสถานะนางเป็นทาส ทำให้นางอับอายและรังแกนาง นางสูงศักดิ์ถึงเพียงนั้นจะทนความอัปยศนี้ได้อย่างไร!"

"เจ้ามันเป็นคนสารเลวที่ไร้หัวใจ ชั่วร้าย ไม่มีจิตสำนึก เลวทราม องค์หญิงสามจะต้องหน้ามืดตามัวเพราะเจ้าจึงยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเจ้า มิเช่นนั้นผู้ที่นอนรอความตายอยู่บนเตียงเมื่อวานนี้ต้องเป็นเจ้าจึงจะถูก!"

"ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ข้าจะต้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับองค์หญิงสามให้จงได้!"

หยางจิ่นซิ่วกล่าวอย่างขุ่นเคือง ทว่าในสายตาของฉินเหยียนสตรีที่โง่เขลาและตรงไปตรงมาผู้นี้น่ารักและโง่เขลาจริงๆ ช่างเหมาะกับชื่อหู่นิวของนางเสียจริง

แม้ว่าจะถูกด่าอย่างรุนแรง ทว่าฉินเหยียนยังคงฟังคำดุด่าของนางด้วยความสนใจก่อนจะกล่าวว่า

"พูดมาตั้งนานเจ้าคิดจะทวงคืนความยุติธรรมให้นางอย่างไร?"

หยางจิ่นซิ่วมือหนึ่งเท้าสะเอวอีกมือหนึ่งกระแทกหอกเงินบนพื้นดัง "ตึง" และกล่าวว่า

"จ้าวจีเอ๋อร์เป็นองค์หญิงของอาณาจักรจ้าว จะต้องคืนสถานะองค์หญิงและการรับรองดูแลให้แก่นาง!"

ฉินเหยียนกอดอกพลางพยักหน้า และกล่าวว่า

"ไม่มีปัญหา นับจากนี้ไปคืนสถานะองค์หญิงให้แก่จ้าวจีเอ๋อร์ ข้าจะเลือกนางกำนัลสักสองสามคนที่ฉลาดหลักแหลมมาปรนนิบัตินาง เจ้าพอใจหรือยัง?"

หยาวจิ่นซิ่วไม่คาดคิดว่าฉินเหยียนจะรับปากอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ คำพูดที่เตรียมมาดุด่ามากมายก่อนหน้านี้กลับยังไม่ได้ใช้

ทว่านางมิอาจเสียท่วงท่าได้ดังนั้นจึงกล่าวต่อว่า

"ไม่เพียงแต่เจ้าต้องให้สถานะแก่นางเท่านั้น ยังต้องให้ความเคารพนางด้วย ให้คนของเจ้าปฏิบัติต่อนางด้วยความเคารพและคารวะเมื่อพบนาง!"

ฉินเหยียนพยักหน้าอีกครั้ง และกล่าวกับเหล่าทหารชั้นยอดที่อยู่รอบๆว่า

"ภายภาคหน้าเมื่อพบองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าว จงจำไว้ว่าต้องทักทาย ห้ามเสียมารยาท"

"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ท่านอ๋องจะนอนต่ออีกสักหน่อยไหมเพคะ?"

หลังจากผ่านความวุ่นวายนี้ของหยางจิ่นซิ่วมาฉินเหยียนก็นอนไม่หลับ และความง่วงก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง

"ช่างเถิด วันนี้ยังมีภารกิจต้องทำ ตื่นเลยก็แล้วกัน"

จ้าวจือหยาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉินเหยียน ในระหว่างนั้นสายตาของฉินเหยียนจ้องมองราวกับว่ามีเรื่องในใจและคิดบางสิ่งอยู่

จ้าวจือหย่ารู้สึกเสียใจ และอธิบายว่า

"ท่านอ๋องยังถือโทษเรื่องสถานะของหม่อมฉันอยู่ใช่หรือไม่เพคะ มิใช่ว่าจือหย่าไม่ประสงค์จะพูดเพียงแต่มิอาจพูด อย่างน้อยก็ยังไม่ถึงเวลา ขอท่านอ๋องโปรดอภัยเพคะ"

นางกล่าวพลางโค้งคำนับ

ฉินเหยียนรีบขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว

"พูดอะไรอย่างนั้น เมื่อวานนี้มิใช่บอกแล้วหรือว่ารอเมื่อเจ้าประสงค์จะพูดเมื่อไหร่ค่อยพูด เหตุใดจึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเล่า"

จ้าวจือหย่าซาบซึ้งใจมากจนน้ำตาไหล

"ขอบพระทัยท่านอ๋อง เป็นจือหย่าเองที่เข้าใจท่านอ๋องผิดเพคะ"

ฉินเหยียนกล่าวต่อว่า

"ข้าเพิ่งมีความคิดดีๆเหมือนกัน และอยากจะสร้างกองทัพพิเศษที่ครอบคลุมทุกยุคทุกสมัย"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์