องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 246

เมืองใหม่

จวนเจ้าเมือง

ฉินเหยียนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างยกมือขึ้นแล้วออกคำสั่งว่า

“รีบส่งนกพิราบส่งจดหมายออกไปบอกให้พวกเขาแย่งเสบียงอาหารมาให้หมด รีบลงมือเสีย แล้วขายให้กับพวกคนรวยท้องถิ่นในราคาต่ำ”

“รับทราบ!”

กลุ่มองครักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่ตอบรับทันทีและจากไปอย่างรวดเร็ว

ฉินเหยียนเหล่ตาและมองไปไกล อาณาจักรจ้าวเริ่มมีการตอบสนองมากขึ้น

จากนั้นเรียกตัวจ้าวจือหย่ามาสอบถาม

“ข้าสั่งให้เจ้าเตรียมตัวและแอบซุ่มกำลังคนจากภายในอาณาจักรจ้าว เจ้าดำเนินการไปถึงขั้นใดแล้ว?”

จ้าวจือหย่าประสานมือไว้ข้างหน้า โค้งคำนับกล่าวว่า

“กราบทูลรายงานต่อองค์ชาย เตรียมการใกล้เสร็จแล้วเจ้าค่ะ รอแค่อ๋องเหยียนมีรับสั่ง”

ฉินเหยียนพยักหน้าและพูดว่า

“ให้พวกเขามาที่จวน ข้าจะสั่งพวกเขาเอง อีกอย่าง มื้อเที่ยงวันนี้...”

หลังจากที่กระซิบออกมาสองสามคำ จ้าวจือหย่าก็พยักหน้าเข้าใจในทันที

“รับทราบเจ้าค่ะ”

หลังจากที่ได้รับคำสั่งแล้ว นางก็ออกมาทันทีเพื่อเตรียมตัวเรียกกองกำลังเข้ามา

...

ทหารชั้นดีทำตามคำสั่งของฉินเหยียน และนำทหารในหมู่เชลยศึกของอาณาจักรจ้าวที่ดูมีแววให้เข้ามารับการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง ถูกพาตัวมาที่ด้านหลังจวน

“นี่คือห้องหนังสือของอ๋องเหยียน เจ้ารอที่นี่เถิด”

“รับทราบ”

หลังจากที่ทหารชั้นดีเดินจากไปแล้ว ทหารของอาณาจักรจ้าวพลันรู้สึกไม่สบายใจ กระสับกระส่าย

เขาถูกอ๋องเหยียนเรียกตัวเข้าไปพบอย่างลับๆ อย่างกะทันหันเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเจออ๋องเหยียนมาก่อน แต่การที่ผู้คนต่างพูดถึงอ๋องเหยียนว่าเป็นดั่งเทพเจ้านั่นทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเคารพนับถือ

เรียกคนต่ำต้อยอย่างพวกเขามาที่นี่ มีเรื่องอันใดหรือ?

พวกเขารู้สึกประหม่าและกระวนกระวายใจ เดินพึมพำไปมาไม่หยุดหย่อน

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียน กระหม่อม ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าข้าน้อยผู้ต่ำต้อย ใช่ ข้าน้อยผู้ต่ำต้อยชื่อว่าสือเหล่ย บ้านเกิดอยู่ที่อวิ๋นเฉิง อาณาจักรจ้าวขอรับ”

“ตอนนี้ข้าน้อยได้ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองใหม่ ขอบพระทัยในความเมตตาของท่าน ข้าน้อยรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก...”

“ไม่ได้ๆ ข้าน้อยพูดจากับอ๋องเหยียนเช่นนี้ ท่านจะคิดว่าข้าน้อยพูดเยินยอจนเกินงามหรือไม่ ต้องรอให้อ๋องเหยียนถามก่อนใช่หรือไม่? แต่แบบนั้นดูไม่มีกาลเทศะจนเกินไป เอ่อ...”

นายพลแห่งอาณาจักรจ้าว สือเหล่ยพูดในสิ่งที่เขาเตรียมมาเพื่อพูดต่อหน้าอ๋องเหยียนไม่หยุด ในใจเขาประหม่ามาก

“หรือว่าหาคนถามดีหรือไม่?”

“ไม่ได้ๆ นี่เป็นจวนของอ๋องเหยียน เจ้าจะเดินมั่วซั่วไม่ได้”

ตอนที่สือเหล่ยทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น พลันมีควันพวยพุ่งออกมาจากจวน

“เกิดเพลิงไหม้อย่างนั้นหรือ?”

สือเหล่ยสูดหายใจเข้า พลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงรีบไปยังจุดที่มีควันพุ่งขึ้นมา

ไม่ไกลนัก เห็นคนจุดไฟที่ลานบ้าน มีควันหนาทึบปกคลุมเต็มลานบ้านด้านหลัง

สือเหล่ยก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ และถามด้วยท่าทีจริงจังว่า

“สหาย เจ้ากำลังทำอะไร จุดไฟในจวนของอ๋องเหยียน เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรือ?”

ชายคนนั้นค่อยๆ หันหน้ามา สีหน้าของสือเหล่ยเปลี่ยนไปทันที

“เจ้า หน้าของเจ้า!”

สือเหล่ยกังวลเล็กน้อยพูดว่า

“ไม่คิดว่าในจวนของอ๋องเหยียนจะมีคนกล้าหาญขนาดนี้ เจ้าไม่กลัวอ๋องเหยียนรู้หรือ เจ้าจะถูกลงโทษไหม?”

ฉินเหยียนถามอย่างติดตลก

“เจ้าเคยเห็นอ๋องเหยียนลงโทษคนอื่นด้วยหรือ?”

สือเหล่ยที่กำลังจะตอบโต้กลับ แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยได้ยินข่าวว่าอ๋องเหยียนเคยลงโทษคนรับใช้หรือประชาชนมาก่อนเลย

เขาจึงพูดว่า

“ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ เจ้าเองก็อย่าให้มันมากเกินไป”

สือเหล่ยนั่งลงข้างๆ “พ่อครัว”

“ชีวิตทุกวันนี้ของพวกเจ้าก็ดีมากแล้ว มีอ๋องเหยียนคอยปกป้องคุ้มครอง ประชาชนมีการมีงานทำ ไม่เหมือนกับอาณาจักรจ้าวของข้าที่บรรดาขุนนางข้าราชสำนักต่างกดขี่ประชาชน”

“เจ้าโชคดีมากจนไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีถึงเพียงไหน หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะจงรักภักดีต่ออ๋องเหยียนอย่างสุดหัวใจ และจะไม่ขัดขวางเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เจ้าล่ะ กลับขโมยอาหารของเขากิน หาเหาใส่หัวเสียเหลือเกิน”

ฉินเหยียนยืนขึ้นด้วยความสับสน มองไปรอบๆ

“แถวนี้ก็ไม่มีใครอื่น เจ้าแสดงความภักดีกับใครกัน?”

สือเหล่ยยืนขึ้น ยื่นมือที่ประสานกันออกไป แล้วพูดอย่างจริงจังกับฟ้าดินว่า

“ข้าแสดงความจริงใจต่ออ๋องเหยียน ในสายตาของข้า เขาเป็นพ่อพระที่ฉลาด คนต่ำต้อยเช่นเจ้าจะไปเข้าใจได้อย่างไร?”

ฉินเหยียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ไม่เลวๆ ลองชิมอีกสักสองสามไม้สิ”

“เจ้า!”

เมื่อสือเหล่ยกำลังจะออกตัวอีกครั้ง

ด้านนนอกมีกลุ่มคนหนึ่งรีบกรูเข้ามา เป็นกองทัพที่นำโดยจ้าวจือหย่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์