องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 257

วันต่อมา

หลังจากที่ฝนตก ท้องฟ้าก็แจ่มใส มีรุ้งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

แสงแดดยามเช้าลอดผ่านเมฆ สาดส่องมายังศาลเจ้าผุพังนั้น เผยให้เห็ฯสีหน้ามีความสุขของชายและหญิงคู่หนึ่ง

นอกศาลเจ้า ทหารชั้นดีตะโกนไปทั่วทุกสารทิศ

“องค์ชาย องค์ชาย อยู่ที่ไหนขอรับ?”

ฉินเหยียนและหยางจิ่นซิ่วที่นอนกอดกันอยู่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงเรียกนั้น

หยางจิ่นซิ่วลืมตาขึ้น พลันสบตากับฉินเหยียน ลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นตระหนก

“อ๊ะ...”

ความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้ามา หยางจิ่นซิ่วนอนขดตัวกอดเข่า น้ำตาไหลอาบแก้ม

ฉินเหยียนยืนขึ้น วางมือบนไหล่เนียนสวยของนางและพูดปลอบใจว่า

“ไม่ต้องกังวล ข้ารับผิดชอบทุกอย่างแน่นอน หากชีวิตนี้เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ข้าก็ไม่มีวันทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน!”

หยางจิ่นซิ่วไม่พูดอะไร ร้องไห้สะอึกสะอื้น และสะบัดมือฉินเหยียนที่วางบนไหล่นางออก ร้องไห้อย่างเงียบๆ

“องค์ชาย ท่านอยู่ไหน...”

ด้านนอกศาลเจ้ามีเสียงตะโกนเรียกไม่หยุดหย่อน ฉินเหยียนหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาและสวมให้หยางจิ่นซิ่ว จากนั้นเขาก็เดินออกไปข้างนอกพลางสวมเสื้อผ้าไปพลาง

ทันทีที่ออกไป เห็นทหารชั้นดีตะโกนอยู่รอบๆ ศาลเจ้า

“หยุดตะโกนได้แล้ว ข้าอยู่นี่!”

ทหารชั้นดีประสานมือแล้วก้าวไปข้างหน้าพร้อมพูดว่า

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียน!”

“ข้าน้อยมาช่วยพระองค์ช้าไป โปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วยขอรับ!”

ฉินเหยียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้!”

“ตะโกนอยู่นั้น ศาลเจ้าใหญ่ขนาดนี้ มองไม่เห็นก็คงตาบอดแล้ว ยังจะตะโกนไม่ทั่วอีก กับข้าเจ้ายังต้องแกล้งทำเช่นนี้อีกหรือ”

ทหารชั้นดีหัวเราะแหะแหะ ก้าวไปข้างหน้าช่วยปัดเศษใบไม้พร้อมกับพูดว่า

“ข้าน้อยกลัวว่าจะรบกวนท่าน ทำให้ท่านเดือดร้อนใช่เรื่องดีที่ไหนกันเล่าองค์ชาย!”

ฉินเหยียนพูดอย่างเย็นชา

“ถือว่าเจ้าตาดีอยู่ ไปเอาม้ามา”

“รับทราบ!”

ทหารชั้นดีรีบไปเอามาทันที

ฉินเหยียนกลับไปที่ศาลเจ้า หยางจิ่นซิ่วสวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีแดงและสวมชุดเกราะสีเงินแล้ว เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือทันที

การเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนทำให้หยางจิ่นซิ่วหน้าแดงอีกครั้ง นางยอมรับความสัมพันธ์อันลึกซึ้งครั้งแรกของนางในใจจนหมดสิ้น หลังจากที่สวมชุดเกราะสีเงินแล้ว นางก็ช่วยฉินเหยียนแต่งตัว

หลังจากที่ทั้งสองแจ่งตัวเสร็จ ก็เดินออกไปพร้อมกัน

หยางจิ่นซิ่วเหมือนเด็กที่ทำความผิดมา เดินตามฉินเหยียนอย่างเงียบๆ

ฉินเหยียนเดินไปข้างหน้าและหยุดกะทันหัน และศีรษะของหยางจิ่นซิ่วก็ชนเข้ากลับหลังของฉินเหยียนดัง “ตึก”

เมื่อเงยหน้าขึ้นพลันสบสายตาที่อ่อนโยนของฉินเหยียน หน้านางแดงก่ำอีกครั้ง และยังคงติดตามฉินเหยียนอย่างเชื่อฟัง

สำหรับฉินเหยียน หยางจิ่นซิ่วในตอนนี้เหมือนเม่นตัวน้อยที่ทิ้งหนามอันแหลมคมและมอบความใจที่อ่อนโยนให้กับเขาจนหมดสิ้น

ทั้งสองขึ้นหลังม้าไปพร้อมกัน ขี้ม้าเคียงข้างกันโดยมีแสงแดดสาดส่องผ่านใต้ร่มไม้

เวลาที่อบอุ่นและอ่อนโยนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองมาถึงประตูเมืองใหม่ ทหารชั้นดีรีบเข้ามารายงานทันที

ฉินเหยียนเหลือบมองหยางจิ่นซิ่วอย่างมีความหมาย

พูดจบ สะบัดมือฉินเหยียนออก

ฉินเหยียนเงยหน้าขึ้นมองไปที่นาง

“เพื่อข้า เจ้าไม่ไปไม่ได้หรือ?”

หยางจิ่นซิ่วกลั้นน้ำตา คว้าหอกและชี้ไปยังหน้าอกของฉินเหยียน

“ขัดคำสั่งเบื้องบนไม่ได้ เจ้าและข้าถูกลิขิตมาให้เดินต่างเส้นทาง!”

ฉินเหยียนพูดอย่างเคร่งเครียด

“แต่พวกเรา...”

“หุบปาก!”

หยางจิ่นซิ่วดุ นางอยากจะเพิกเฉยต่อคำสั่งและอยู่กับฉินเหยียนต่อ แต่อาณาจักรมีคำสั่งให้นางกลับไป

นางวางหอกลงแล้วพูดอย่างจริงจัง

“ลืมข้าไปเถอะ ข้าและเจ้าไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ หลังจากนี้หากได้พบกัน ก็คงเป็นศัตรูกันไปแล้ว อย่าให้ข้าเห็นเจ้าในสนามรบ มิฉะนั้น อย่าหาว่าข้าไร้ความเมตตา!”

พูดจบโดยไม่รอให้ฉินเหยียนพูด นางขึ้นหลังม้าและคุมบังเหียน เตะท้องม้าและตะโกนเสียงดังว่า

“ไป!”

ร่างของวีรบุรุษหายไปกับฝุ่นหินดินทราย

ขี่ม้าและใช้แส้ฟาดราวกับนักรบ

เพิ่งจะมีความรัก มอบร่างกายให้ฉินเหยียน แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องแยกจากกัน

เมื่อลับสายตาคน หยางจิ่นซิ่วไม่อาจแบกรับความเสียใจในใจได้อีกต่อไป นางร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กน้อย

“ฮือฮือฮือ! อา...”

เสียงร้องไห้แห่งความเสียใจดังไปพร้อมกับเสียงควบม้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์