องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 356

ในลานกว้าง

ฉินเหยียนนั่งอยู่ที่ระเบียงโดยมีสาวใช้ของหอเจี้ยวฟางซือคอยปรนนิบัติซ้ายขวา

สตรีนับพันคนมารวมตัวกันจนเต็มลานกว้าง ไม่ว่าจะเป็นชั้นสองของหอ ทางเดิน และแม้กระทั่งภูเขาเทียมก็เต็มไปด้วยเหล่าสตรีที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

ฉินเหยียนกระแอมและเริ่มหลอกลวงว่า

"หลังจากที่ข้าพูดคุยและตรวจสอบมาสามวันก็พบว่าพวกเจ้าส่วนใหญ่ล้วนมีพรสวรรค์ที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจจะช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้ทั้งหมด"

ทันทีที่กล่าวคำพูดนี้ออกไป สตรีแต่ละคนที่อยู่เต็มลานกว้างต่างก็แสดงอิริยาบถที่แตกต่างกันออกไป บ้างส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ บ้างร้องไห้ทั้งน้ำตา บ้างโขกศีรษะแสดงความขอบคุณที่อ๋องเหยียนช่วยชีวิตพวกนางเอาไว้

"เงียบ!"

เมื่อสาวใช้เปล่งเสียงออกมาทั่วทั้งลานกว้างก็เงียบลง

ฉินเหยียนจึงกล่าวว่า

"ข้าจะแบ่งพวกเจ้าออกเป็นสองประเภท คือ ผู้มีพรสวรรค์ และคุณครู"

ทุกคนล้วนไม่เข้าใจ พวกเขาสามารถเข้าใจคำว่าผู้มีพรสวรรค์ ทว่าคำว่าคุณครูนี้หมายความว่าอย่างไร?

"ต่อไปเมื่อข้าอ่านถึงชื่อผู้ใดผู้นั้นก็แบ่งไปอยู่ในกลุ่มผู้มีพรสวรรค์และผู้เป็นคุณครู"

โดยมีสาวใช้เป็นผู้ปฏิบัติการ นางรับประวัติที่แบ่งแยกประเภทจากฉิงเหยียน และเริ่มขานชื่อละคน

มีสตรีผู้หนึ่งที่ได้รับการขานชื่อและถูกแบ่งให้ไปอยู่กลุ่มคุณครู นางจึงก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลงพลางถามด้วยความสับสนว่า

"ขอบังอาจถามท่านอ๋องว่าคุณครูนี้หมายความว่าอย่างไร ขอท่านอ๋องโปรดชี้แนะด้วยเพคะ"

ฉินเหยียนจึงตอบว่า

"ไม่ต้องกังวล ข้ามิได้ขอให้พวกเจ้าทำเรื่องผิดศีลธรรมอย่างแน่นอน แค่ให้พวกเจ้าไปสถานศึกษาและบรรยายหนังสือ คิดบัญชีตามความถนัดของพวกเจ้า"

อะไรกัน!

พวกนางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ แต่กลับสามารถเข้าไปยังสถานศึกษาเพื่อสอนตำราและยังสามารถเข้าห้องบัญชีเพื่อจัดการบัญชีได้อีก ล้อเล่นกระมัง?

“ท่านอ๋อง พวกเราเป็นสตรีที่ต่ำต้อย จะทำได้หรือเพคะ?"

บางคนไม่เข้าใจจึงถามขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง

ฉินเหยินจึงโต้กลับว่า

"ทำได้ไม่ได้อะไรกัน ข้าว่าได้ก็ต้องได้ ข้าต้องพูดให้ชัดเจนตรงนี้"

"สตรีที่ได้รับเลือกให้เป็นคุณครูล้วนเป็นสตรีชั้นหนึ่ง ข้าคิดว่าพวกเจ้าแต่ละคนมีความสามารถและไม่อยากทำให้ความสามารถของพวกเจ้าเสียเปล่า ดังนั้นเมื่อจางอวิ๋นซูต้องการเปิดสถานศึกษา จึงให้พวกเจ้าไปยังแต่ละพื้นที่เพื่อสอนเหล่าผู้ศึกษาเล่าเรียนเล่นฉิน หมากล้อม เขียนอักษร วาดภาพ เล่นผีผา พวกเจ้าไม่เห็นด้วยเช่นนั้นหรือ?"

สตรีที่ได้รับเลือกให้เป็นคุณครูต่างก็ปิติยินดี และคุกเข่าลงพลางโขกศีรษะเพื่อขอบคุณ

"พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่และจะไม่ทำให้ท่านอ๋องผิดหวังเพคะ"

นอกจากนี้ฉินเหยียนยังอธิบายเป้าหมายของสตรีกลุ่มที่มีพรสวรรค์อีกด้วย

"เร็วๆนี้อาณาจักรจ้าวจะจัดงานฉลองที่เรียกว่างานเลี้ยงบุปผา สตรีที่มีความสามารถในใต้หล้าจะมารวมตัวกันที่เปี้ยนจิงแห่งอาณาจักรจ้าวและจะมีสตรีจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีความสามารถมากมาย มันจะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในใต้หล้าในเวลานี้"

ใต้กำแพงเมืององค์ชายใหญ่ฉินชงสวมชุดเกราะต่อสู้ และขี่ม้าตัวเขื่องยืนอยู่ด้านหน้ากองทัพด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

โดยมีทหารผู้กล้านับหมื่นยืนอยู่ด้านหลัง พวกเขาเชิดหน้าขึ้นและพร้อมที่จะเดินทัพ

มีเพียงเหล่าขุนนางจากตระกูลชนชั้นสูงที่ต้องโทษและถูกเนรเทศให้ไปทำความดีลบล้างความผิดเท่านั้นที่ต่างก็หน้านิ่วคิ้วขมวดและร่วมทัพด้วยความเศร้า

เวลานี้ไท่ฟู่ก็อยู่ในกองทัพด้วย นักปราชญ์ที่สวมชุดเกราะและมีดาบพาดอยู่ที่เอวช่างแตกต่างกับก่อนหน้าที่สวมชุดขุนนาง และถือพัดนัก

ความไม่เต็มใจทั้งหมดที่อยู่ในใจของเขาล้วนเขียนไว้บนใบหน้า เขาจ้องมองไปที่ฮ่องเต้ฉินที่อยู่ด้านบนอย่างไม่วางตา

เมื่อฮ่องเต้ฉินเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงกล่าวอย่างจริงจังว่า

"ชงเอ๋อร์ การเผชิญหน้ากับอาณาจักรจ้าวครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างแน่นอน เจ้าจะต้องระมัดระวังในทุกสิ่ง ข้าจะรอฟังข่าวดีจากพวกเจ้า!"

องค์ชายใหญ่ฉินชงก้มศีรษะลงพลางประสานมือ และกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า

"หม่อมฉันจะต้องพาทหารทั้งหมดกลับมาพร้อมชัยชนะอย่างแน่นอนพะยะค่ะ!"

ฮ่องเต้ฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจพลางกวาดตามองกองทัพ และออกคำสั่งว่า

"เคลื่อนทัพได้!"

ทันทีที่คำพูดนี้จบลง กลองรบบนกำแพงเมืองก็ลั่นขึ้นอย่างดุเดือดและเสียงแตรก็ส่งเสียงอย่างฮึกเหิม

องค์ชายใหญ่ฉินชงจึงเริ่มต้นการเดินทางอันยิ่งใหญ่พร้อมเหล่าทหารนับหมื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์