องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 415

สายตาของหลินซิ่วไฉยังคงแน่วแน่ เขาลุกขึ้นยืน เดินไปที่เสี่ยวเจาช้าๆ หยิบปิ่นปักผมออกจากมือของนาง

สายตาของเขาจริงใจและเป็นประกาย เขาพูดอย่างจริงจังว่า

“เมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์ ต้องเคารพพ่อแม่ เมื่อแม่ทำผิดเป็นเรื่องปกติที่ความผิดนั้นจะต้องตกมาอยู่ที่ลูก”

น้องหญิงเสี่ยวเจา เราสองคนรักกันจริงๆ แม้ว่าเราจะต้องลงนรก ข้าก็จะขออยู่กับเจ้าตลอดไป”

“ชาตินี้เราไม่อาจเป็นสามีภรรยากันได้ ข้า หลินซิ่วไฉ จะขอแต่งงานกับเจ้าในชาติหน้าอย่างแน่นอน!”

ทันใดนั้นทั้งสองคนต่างโผเข้ากอดกัน โดยไม่สนใจคำตัดสินหรือจรีตประเพณีแม้แต่น้อย

ทั้งสองคนรักกันด้วยใจจริง กอดกันต่อหน้าทุกคน มีความสุขไปกับความสุขสุดท้ายของชีวิต เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากที่สุด

ท่าทีที่กล้าหาญนี้ทำให้คนโดยรอบต่างพากันเงียบ ทุกคนเฝ้าดูอย่างอดทน

“แปะๆๆ”

ฉินเหยียนปรบมือขัดจังหวะภาพละครหลังข่าวของคู่รักสุดรันทดคู่นี้

“รักแท้มีอยู่จริงในโลกใบนี้ ช่างน่าสนใจจริงๆ!”

หลินซิ่วไฉมองไปที่ฉินเหยียนอย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเขาเองกำลังกัดฟันด้วยความเกลียดชัง

เขามองขึ้นไปบนฟ้าแล้วประกาศกร้าวว่า

“พ่อ แม่ ข้าไม่อาจสร้างเกียรติให้แก่ตระกูลหลินได้อีกต่อไปแล้ว ข้าเป็นลูกอกตัญญู!”

พูดจบเขาก็คุกเข่าลงอย่างเด็กเดี่ยว และจ้องไปที่ฉินเหยียน

“นักบุญใจร้าย ปฏิบัติต่อประชาชนเช่นสุนัข หากเจ้าต้องการทำร้ายพวกเรา ไม้ไผ่สามารถเผาได้ แต่ปมของมันไม่อาจทำลายได้ หากเจ้าอยากจะฆ่าก็ฆ่าเราเสีย!”

“แม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าก็ขอตายไปพร้อมกับน้องหญิงเสี่ยวเจา!”

ในเวลานี้หลู่เจาน้ำตาไหลออกมา ร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น

“พี่หลิน ทำไมพี่ช่างโง่เช่นนี้...”

หลินซิ่วไฉยิ้มออกมาอย่างขมขื่น และพูดด้วยความโล่งใจ

“น้องหญิงเสี่ยวเจา ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ ไม่กล้าแสดงความรู้สึกกับเจ้า ไม่เข้ามาขอเจ้าแต่งงาน แต่ข้าก็ไม่อาจปล่อยให้เรื่องจบลงเช่นนี้ได้!”

ฉินเหยียนประทับใจในความรักที่แข็งแกร่งของทั้งคู่ ปรบมือพร้อมกล่าวชื่นชม

“ช่างเป็นความรักที่ลึกซึ้งเสียจริงๆ!”

ฉินเหยีนยืนขึ้น และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า

“ไม้ไผ่สามารถเผาได้ แต่ผมของมันไม่อาจทำลายได้!”

“หากเจ้าให้สัญญากับข้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากเจ้าให้ความร่วมมือกับข้า ข้าจะช่วยพวกเจ้าทั้งสอง”

“ถุย!”

หลินซิ่วไฉรู้สึกว่าฉินเหยียนพูดไร้สาระ

“หากไม่ร่วมมือกัน เจ้าก็คิดจะฆ่าข้าอยู่ดี เจ้าอยากจะให้ข้าเป็นสุนัขรับใช้ของเจ้าต่างหาก!”

ฉินเหยีนยิ้มแยกเขี้ยว

“นี่เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิดอยู่มิใช่หรือ?”

เขานั่งยองตรงข้ามหลินซิ่วไฉ พวกเขาทั้งสองมองหน้ากัน

“ประการแรก พวกเจ้าใส่ร้ายข้า ข้าตกเป็นเหยื่อของเจ้า”

“ประการที่สอง ข้าเห็นว่าเจ้ามี่ความซื่อสัตย์ มีความสามารถ คิดอยากให้เจ้ามีโอกาสประสบความสำเร็จ ในเมื่อเจ้าไม่ตกลง ข้าจะไว้ชีวิตน้องหญิงเสี่ยวเจา แต่จะฆ่าเจ้าแทน”

“ไม่ได้!”

แม่ม่ายหลู่ก้มหน้าและพูดอย่างเต็มใจ

“ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของผู้ดูแลตระกูลอวี๋ เงินที่เขาให้ข้า ข้ายังไม่ได้ใช่เลยเจ้าค่ะ ข้ายินดีคืนเงินให้พวกเขาเพื่อชดใช้ความผิดของพวกเรา!”

ฉินเหยียนพยักหน้าและสั่งทันที

“ต้าหย่ง พาคนของเราไปพร้อมกับแม่ม่ายหลู่เพื่อจับกุมเขา”

“รับทราบขอรับ!”

ต้าหย่งนำแม่ม่ายหลู่ไปยังจวนตระกูลอวี๋เพื่อจับกุมคนผิด

อน่างไรก็ตาม ตระกูลอวี๋ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เมื่อตอนที่ฉินเหยียนเปิดเผยตัวตนของเขา เด็กรับใช้รีบวิ่งกลับไปรายงานข่าวทันที

เมื่อพวกเรารู้ว่าคนที่มาถึงนั่นคือองค์ชายสิบสี่ ตระกูลอว่พลันตกใจกลัว เพื่อไม่ใช่ความผิดตกมายังตนเอง ตอนที่ต้าหย่งเข้ามาจับกุมพวกเขา ผู้อาวุโสของตระกูลจึงแสดงความอ่อนแอและพูดว่า

“ได้โปรดส่งข้อความนี้ถึงองค์ชายสิบสี่ด้วยว่าได้โปรดยกโทษให้ข้าในความประมาทเลินเล่อของข้าเอง ข้าตาบอดและใส่ร้ายองค์ชายสิบสี่ ได้กระทำความผิดที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก”

“ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าความผิดนี้ไม่อาจให้อภัยได้ ข้าจะขอแขวนคอเพื่อขอโทษสำหรับความผิดของข้า ได้โปรดองค์ชายสิบสี่ช่วยให้อภัยข้าด้วย!”

หลังจากพูดดังนั้น เด็กรับใช้ตระกูลอวี๋อุ้มศพมาและวางไว้ตรงหน้าเขา

ต้าหย่งมองไปที่แม่ม่ายหลู่ แม่ม่ายหลู่ขมวดคิ้วพร้อมกับพยักหน้า

“นั่นคือเขา”

คนตายพูดไม่ได้อีกต่อไป เมื่อผู้ดูแลตระกูลอวี๋ได้ตายลง ก็ไม่มีหลักฐานอย่างอื่นอีก

เขาได้ทำความผิดทั้งหมดด้วยตัวเอง ตระกูลอวี่เองก็ได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว

ต้าหย่งทำได้เพียงนำศพกลับมา ฉินเหยียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน

“ตระกูลอวี๋ต้อนเขาให้รับความผิดนี้แล้ว ถือเสียว่าเขาได้ยอมแพ้ เรื่องนี้จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องสอบสวนอีก ถึงเวลาจัดการธุระเสียที”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์