องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 424

“ฮัดเช้ย”

ฉินเหยียนที่กำลังนั่งอยู่บนรถม้าจามออกมาหลายครั้ง พลางลูบจมูกตนเอง

จ้าวจีเอ๋อร์ยื่นผ้าเช้ดหน้าให้อย่างรวดเร็ว

“ท่านทำงานหนักมาหลายวัน เจอทั้งลมทั้งอากาศหนาว ยังไม่ระวังตัวอีก”

ฉินเหยียนเช็ดจมูกแล้วพูดว่า

“ข้ารู้สึกเหมือนมีคนคิดถึงฉันและกำลังพูดลับหลังข้า”

จ้าวจีเอ๋อร์ถามกลับ

“ท่านรู้อีกแล้ว ถ้าอย่างนั้นท่านคิดว่าใครกำลังพูดถึงท่านอยู่?”

ฉินเหยียนพูดออกมาอย่างภูมิใจ

“ความเป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเป็นพ่อของข้า”

“รายงานการสู้รบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าอาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวในเมืองอวิ๋นเฉิงกำลังเข้าสู่ทางตัน”

“องค์ชายแปดถูกจับแล้ว ทำให้กองทัพอาณาจักรฉินเดินทัพได้อย่างล่าช้า”

“คงใช้เวลานานกว่าจะโจมตีเมืองอวิ๋นเฉิงได้ ฮ่องเต้ฉินที่พำนักอยู่ในพระราชวังคงร้อนใจ มิฉะนั้นเขาคงไม่เร่งข้าให้รีบกลับไปแน่นอน”

การคาดเดาของฉินเหยียนค่อนข้างถูกต้องเลยทีเดียว ฮ่องเต้ฉินเป็นกังวลอย่างมากในช่วงนี้ ไม่เพียงแต่ยังไม่สามารถยึดเมืองอวิ๋นเฉิงมาได้ อีกทั้งยังมีเรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวอีกเรื่องเช่นกัน

ในรายงานการสู้รบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกของตระกูลชนชั้นสูงตายจากการสู้รบทางฝั่งแนวหน้าในทุกวัน งานศพของตระกูลชนชั้นสูงจนถึงทุกวันนี้ยังต้องจัดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน สถานการณ์เอาแน่นเอานอนไม่ได้เลย

เมื่อเห็นว่าเมืองอวิ๋นเฉิงที่เป็นประตูมุ่งเข้าสู่อาณาจักรจ้าวนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่กลับต้องพบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ เราไม่อาจปล่อยให้ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ต้องสูญเปล่า

ดังนั้นฮ่องเต้ฉินรู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก เขารีบมีรับสั่งให้ตามตัวฉินเหยียนกลับไปยังเมืองหลวงทันที เพื่อกลับมาทำหน้าที่ของเขา

บนรถม้า

ฉินเหยียนนั่งไขว่ห้าง ฮัมเพลง ไม่ได้รีบร้อนกลับแต่อย่างใด

มีเสียงดังขึ้นจากด้านนอกรถม้า เป็นหญิงงามที่ถูกรับตัวมาจากทั่วทุกแห่ง

ในขณะที่รถม้าเคลื่อนตัวไปฉินเหยียนและจ้าวจีเอ๋อร์พูดคุยกัน

“ภายในระยะเวลาสามเดือน การนำพื้นที่เกษตรกรรมกลับคืนมาเป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่นั้นแนวหลังอาณาจักรฉินก็มั่นคง ประชาชนมีชีวิตที่ดี งานที่เราทำมาตลอดสามเดือนมานี้ไม่ได้สูญเปล่า”

จ้าวจีเอ๋อร์มองออกไปนอกรถแล้วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“แน่นอนว่าการที่ท่านทำงานหนักมาตลอดสามเดือนนั้นมิได้สูญเปล่า องค์ชายได้คัดเลือกหญิงสาวหลายร้อยคนจากต่างที่ต่างเมืองมาเป็นจำนวนมากขนาดนี้ ท่านไหวหรือเจ้าคะ?”

ฉินเหยียนยิ้มและพูดอย่างเชื่องช้า

“ดูที่เจ้าพูดสิ ข้าเลือกพวกนางมา แต่ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรกับพวกนางเลย! ทำไมสิ่งที่พูดออกมาจากปากเจ้าพูดเหมือนว่าข้าเป็นคนนิสัยไม่ดีอย่างไรอย่างนั้น?”

“แล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”

จ้าวจีเอ๋อร์ถามกลับ

“หญิงงามและบริสุทธิ์จำนวนมากเช่นนี้ ท่านมิได้คิดจะเก็บไว้ข้างกายท่านเลยหรือ? เช่นนั้นเหตุใดท่านถึงพาตัวพวกนางมาด้วยเล่าเจ้าคะ?”

ฉินเหยียนอธิบายอย่างรวดเร็ว

จ้าวจีเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าช่างกล้าเสียจริง! หากผู้หยิงคิดอยากเป็นฮ่องเต้ หยินและหยางจะต้องสลับด้านกัน ทำให้แผ่นดินนี้สับสนวุ่นวาย!”

ฉินเหยียนลูบแก้มทั้งสองข้างและจ้องไปที่จ้าวจีเอ๋อร์ ทำให้นางรู้สึกกลัวเล็กน้อย

“ข้าคิดแค่ว่า หากเจ้าไม่เชื่อ ข้าสามารถทำให้เจ้าได้เป็นฮ่องเต้หญิงองค์แรกในประวัติศาสตร์ได้!”

“จริงหรือเจ้าคะ?”

ดวงตาของจ้าวจีเอ่อร์เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง

ในฐานะองค์หญิง คงเป็นเรื่องโกหกหากนางพูดว่านนางไม่มีใจคิดปรารถนาถึงอำนาจ

แต่ฉินเหยียนกลับพูดว่าจะให้นางเป็นฮ่องเต้หญิงองค์แรกในประวัติศาสตร์

“องค์ชาย ท่านมิได้กำลังล้อข้าเล่นใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

ฉินเหยียนปรบมือและตัดสินใจว่า

“แม้ว่าจะเป็นความคิดที่เพิ่งจะผุดขึ้นมา แต่ข้าก็ตัดสินใจแบบนี้จริงๆ ต่อจากนี้ไปข้าจะฝึกเจ้าให้เป็นฮ่องเต้หญิงแห่งอาณาจักรจ้าว เพื่อปัญหาวุ่นวายที่ยากจะจัดการจะได้หมดไป ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไข”

จ้าจีเอ๋อร์รู้สึกระหลาดใจและมีความสุข สีหน้าของนางไม่อาจปกปิดได้ ไม่ว่าจะเป็ฯความรู้สึกหวาดกลัว ทำอะไรไม่ถูก จะยิ้มก็ไม่กล้ายิ้มออกมา นางถามออกไปอย่างลองเชิงอีกครั้งว่า

“องค์ชาย ท่านอยากให้ข้าทำเรื่องใด ได้โปรดรับสั่งข้ามาเถิด”

“ข้าต้องการให้เจ้าและข้าวางแผนสำหรับอนาคต”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์