องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 436

อีกด้านหนึ่ง

ฉินเหยียนและทุกคนเดินทางมาใกล้ชายแดนอาณาจักรฉินแล้ว อีกเพียงแค่สองวันก็จะไปถึงด่านเจียยวี่แล้ว

เมื่อมองไปจากหน้าต่างแล้ว ก็เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามด้านนอก ภูเขาสีเขียวและแม่น้ำที่ใสสะอาด เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน จึงได้เรียกให้หยุดขบวนแล้วออกคำสั่งว่า

“วันนี้จะตั้งค่ายกันที่นี่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

กองทัพหยุดเดินทางแล้วแบ่งหน้าที่กันเพื่อตั้งค่ายอย่างชัดเจน จุดไฟเพื่อทำอาหาร

ในยามค่ำคืน

เมื่อฉินเหยียนทานอาหารเสร็จแล้วก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ในเต็นท์ เหล่าปิ่นหิรัญย์ต่างรวมตัวที่นี่ราวกับว่าได้ตกลงกันมา ทุกคนต่างล้อมรอบฉินเหยียนแล้วพูดอย่างกล่าวโทษว่า

“ท่านอ๋องเพคะ ท่านให้เสี่ยวเยว่ร่วมนอนด้วยแล้ว เมื่อไรจะหม่อมฉันจะได้ร่วมนอนบ้างละเพคะ?”

“ท่านควรพระราชทานพระเมตตาอย่างทั่วถึงสิเพคะ จะเอาใจเสี่ยวเยว่ผู้เดียวได้อย่างไรเพคะ”

“นั่นสิคะท่านอ๋อง เมื่อไรท่านจะเปิดไพ่ของหม่อมฉันบ้างละเพคะ!”

เหล่าปิ่นหิรัญย์ต่างดึงแขนของฉินเหยียนแล้วออดอ้อนขอให้สนใจไม่หยุด

ฉินเหยียนยิ้มออกมาอย่างลำบากใจแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้เป็นคนพลิกไพ่นะ หลายวันมานี้ข้ายุ่งมากจริงๆ!”

แล้วก็มองไปทางจ้าวจีเอ๋อร์แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เพราะเจ้าแท้ๆเลย มาทำเปิดไพ่อะไรกันเนี่ย ดูพวกนางสิ ไม่ยอมตั้งใจเล่าเรียน วันๆเอาแต่บอกให้ข้าพลิกไพ่ ข้าเองก็เหนื่อยนะ!”

จ้าวจีเอ๋อร์กลั้นหัวเราะแล้วจงใจพูดว่า “ทรงพอพระทัยเถิดเพคะท่านอ๋อง ในที่กลางป่ากลางเขาเช่นนี้ยังมีหญิงงามมากมายคอยปรนนิบัติ แอบดีใจเถิดเพคะ!”

ขณะนั้นต้าหย่งก็ปรากฏตัวอย่างทันทีเวลา มือของเขายังถือชามน้ำซุปร้อนๆไว้ แล้วเดินมาพูดว่า

“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ นี่คือกวางป่าที่เพิ่งล่ามาพ่ะย่ะค่ะ ซุปทำจากองคชาตกวางสำหรับบำรุงไตพ่ะย่ะค่ะ!”

จ้าวจีเอ๋อร์รับน้ำซุปองคชาตกวางจากต้าหย่งมาแล้วเป่าให้หายร้อน จากนั้นก็ตักช้อนหนึ่งยื่นไปยังข้างปากของฉินเหยียน

“ท่านอ๋องเพคะ น้ำซุปต้องดื่มทั้งที่ยังอุ่น อ้าปากสิเพคะ”

ฉินเหยียนมองซุปองคชาตกวางแล้วมองไปยังเหล่าปิ่นหิรัญย์ที่ยืนล้อมออดอ้อน เขารู้สึกปวดเอวขึ้นมาเบาๆ มีปีศาจน้อยมากมายขนาดนี้ ต่อให้จะเป็นเอวที่ดีแค่ไหนก็ต้องบาดเจ็บบ้างแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามทำให้พวกนางสมปรารถนา

เขากำลังคิดว่าจะหนีออกจากตรงนี้อย่างไร เสียงของหลินเย้าจู้ก็ดังขึ้นด้านนอกเต็นท์

“หลินซิ่วไฉเข้าเฝ้าท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนกอดอกแล้วจับคาง เขาพูดว่า “ใช้แรงโน้มถ่วงและองศาของลาดเขา สามารถทำให้รถม้าเคลื่อนไหวได้อยู่ระยะหนึ่ง แต่ข้าขอถามเจ้านะ ว่าจะทำให้รถม้าขึ้นลาดเขาได้อย่างไร?”

เมื่อได้ยินคำถามของอ๋องเหยียน สีหน้าของหลินเย้าจู้ก็ลำบากใจ แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าอะไรคือแรงโน้มถ่วง แต่การจะทำให้รถม้าขึ้นไปบนเนินเขาโดยไม่ใช้สิ่งใดช่วยเลย เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ยาก

“เฮ้อ......”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลินเย้าจู้ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ แต่เขาไม่คิดจะยอมแพ้ไปง่ายๆ เขารวบรวมสมาธิแล้วประสานมือคารวะพูดจริงจังว่า

“โปรดให้อภัยด้วยเถิดท่านอ๋อง ข้าจะค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดต่อพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนเอามือไพล้หลังแล้วพูดอย่างลึกซึ้งว่า “คิดเถิด โลกนั้นกว้างใหญ่ ทุกสิ่งมีฟ้าดินของมันเอง!”

หลินเย้าจู้สีหน้าหนักใจ หลายวันมานี้เขาไม่มีอารมณ์ทานข้าวทานน้ำเลย เอาแต่คิดหาคำตอบอย่างเดียว

ฉินเหยียนยืนมองภูเขาและแม่น้ำอยู่บนเนินเขา บังเอิญมองเห็นหลินเย้าจู้ที่พยายามค้นคว้าอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า ช่างมีคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์จริงๆ

ขณะนั้นเองหลู่เจาก็ยกซุปข้าวมาให้หลินเย้าจู้ นางชักมาหนึ่งคำแล้วเป่าให้หายร้อนแล้วพูดปลอบใจไปด้วยว่า

“สามี ทานหน่อยเถิด หลายวันมานี้ไม่ดื่มไม่ทานเลยแบบนี้จะได้อย่างไร!”

หลินเย้าจู้พูดด้วยสีหน้าที่คิดหนักว่า “หากข้าตีโจทย์แตกไม่ได้ แล้วจะทำให้ตระกูลหลินรุ่งเรืองอีกครั้งได้อย่างไร!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์