องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 518

เสียงต่อสู้นอกจงเหรินฝู่ดังสนั่นลั่นฟ้า

ต้าหย่งเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ เกิดเรื่องร้ายแล้วพ่ะย่ะค่ะ มีคนอยากวางเพลิงเผาจงเหรินฝู่! กระหม่อมจะพาพระองค์หลบหนีจากทางลับเองพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนสีหน้าเย็นชา “เหตุใดต้องหนี ก็แค่พวกอันธพาล ออกไปฆ่าพวกมันด้วยกันให้สิ้นซาก!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็หยิบปืนพกลูกโม่จากใต้หมอนออกมา แล้วรีบเดินออกไปทันที หยางจิ่นซิ่วเองก็รีบถือหอกยาวแล้วตามฉินเหยียนไป

ฉินเหยียนเพิ่งจะเปิดประตูก็เห็นมีชายคนหนึ่งที่อาบเลือดยืนขวางอยู่หน้าประตู ฉินเหยียนตกตะลึงอย่างมาก ชายคนนี้ถูกลูกธนูยิงเต็มตัว และมีเลือดท่วมตัวราวกับรูปปั้น เบื้องหน้าของเขาคือศพของเหล่าหน่วยกล้าตายที่เกลื่อนกลาดที่ถูกเขาฆ่าตาย

คนๆนั้นตะโกนอย่างสุดเสียงว่า “พวกสารเลว ผู้ใดที่หมายจะทำร้ายอ๋องเหยียน ก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”

ฉินเหยียนเห็นเช่นนั้นก็ตะลึงอย่างมาก เขาถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “ท่าน ท่านเป็นใครรึ?”

เมื่อหนิวเถี่ยจู้ได้ยินเสียงของอ๋องเหยียนแล้วก็หันกลับไปมอง พบว่าอ๋องเหยียนปลอดภัยดี เขายิ้มอย่างน่าสังเวชแล้วทรงตัวไม่อยู่ จากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นทันที

ฉินเหยียนกระวนกระวายอย่างมาก เขาตะโกนว่า “ฆ่ามัน แล้วจับเป็นมาด้วย!”

เหล่าองครักษ์เงาเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก พวกเขาพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเหล่าคนชุดดำทันที

หยางจิ่นซิ่วเองก็พุ่งเข้าไป นางถือหอกยาวต่อสู้กับเหล่าคนชุดดำเช่นกัน

ฉินเหยียนไม่มีจิตสังหารเลย เขาอุ้มคนขายเนื้อวัวที่กระอักเลือดเอาไว้ เขามั่นใจว่าไม่เคยพบคนผู้นี้มาก่อน และรู้สึกสับสน เมื่อหนิวเถี่ยจู้เห็นว่าอ๋องเหยียนปลอดภัยดี เขากระอักเลือดแล้วยอมตายไป ไม่เสียใจเลย

ฉินเหยียนขมวดคิ้วแน่น เขาพยายามเรียกให้คนขายเนื้อวัวตื่น “อย่าตายนะ บอกข้าทีได้รึไม่ว่าเจ้าคือใคร?”

แต่บาดแผลสาหัสเกินไป ไม่อาจช่วยได้ ไม่นานเหล่าองครักษ์เงาก็คุมตัวเหล่าหน่วยกล้าตายเรียบร้อยแล้ว

หยางจิ่นซิ่วถือหอกยาวแล้วเดินมาทางฉินเหยียน เมื่อมองทหารผู้กล้าหาญที่ไร้ลมหายใจแล้วนางก็พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจว่า

“คนผู้นี้ เหตุใดข้าจึงรู้สึกคุ้นตานักนะ คล้ายว่าเขาจะเป็นนายร้อยแห่งกองทัพตระกูลหยาง”

ฉินเหยียนรู้สึกประหลาดเล็กน้อยแล้วถามขึ้นว่า “งั้นรึ เขาชื่ออะไร?”

หยางจิ่นซิ่วยักไหล่ “กองทัพตระกูลหยางมีจำนวนคนนับแสน ข้าจะไปจำชื่อทุกคนได้อย่างไร”

ฉินเหยียนรู้สึกสับสนไปหมด รู้เพียงว่าเขาเดือดดาลอย่างมาก เขาลุกขึ้นแล้วชิงดาบของต้าหย่งมาแล้วเดินไปเบื้องหน้าของคนชุดดำ แล้วถามอย่างเย็นชาว่า

“ใครส่งเจ้ามา?”

คนชุดดำไม่ยอมพูด ฉินเหยียนชูดาบขึ้นแล้วบั่นคอของหน่วยกล้าตายไปทันที จากนั้นก็หันไปมองอีกคนแล้วถามขึ้นว่า

“บอกว่า ว่าใครส่งพวกเจ้ามาฆ่าข้า?”

คนชุดดำยิ้มประชด “จะทางไหนก็ต้องตาย ฆ่าข้าเลยสิ!”

ฉินเหยียนเดือดดาลอย่างมาก เขาไม่พูดมากความ ดวงตาประกายความดุร้ายแล้วตวัดดาบ

คนชุดดำร้องอย่างอนาถ “อ๊าก!” มือร่วงหล่นลงพื้น ข้อมือมีเลือดไหลมากมาย

ฉินเหยียนถามขึ้นอย่างเย็นชาอีกครั้งว่า “จะไม่บอกก็ย่อมได้ แต่ข้าจะค่อยๆฟันเจ้าให้ตายช้าๆ!”

หยางจิ่นซิ่วขานรับแล้ววิ่งไปหยิบเหล้ามาหนึ่งไห จากนั้นก็เทใส่จอกส่งให้ฉินเหยียน

ฉินเหยียนดื่มหนึ่งคำแล้วเทที่เหลือลงพื้นแล้วพูดเสียงเบาว่า “ผู้ที่เข้าใจข้าบอกข้าเป็นทุกข์ใจ ผู้ที่ไม่เข้าใจกลับถามข้าต้องการสิ่งใด เมื่อก่อนมีสหายร่วมรบข้างกายข้ามากมาย แต่คนแปลกหน้าที่ร่วมรบข้านั้น เจ้าเป็นคนแรก ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร ไม่รู้ว่าชื่ออะไร พอมีเรื่องนี้ ข้ากลับติดหนี้บุญคุณต่อเจ้าอย่างใหญ่หลวง”

ฉินเหยียนนั่งอยู่ข้างศพอยู่แบบนั้น ลมยามค่ำคืนพัดผ่านไม่หยุดจนกระทั่งฟ้าค่อยๆเริ่มสาง

ต้าหย่งนำทัพมารายงานว่า “กากเดนตระกูลขุนนางทุกตระกูลถูกกำจัดหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นี่คือผู้นำของพวกมันพ่ะย่ะค่ะ”

ในมือของเหล่าองครักษ์เงาถือศีรษะที่มีเลือดหยดอยู่ทุกคน

ฉินเหยียนพยักหน้าอย่างเย็นชา ราวกับว่าการกำจัดกากเดนของตระกูลขุนนางคือเรื่องเล็กอย่างมาก

จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปปิดตาของคนขายเนื้อวัวแล้วลูบเบาๆพร้อมพูดเสียงเบาว่า “พวกมันตายตามเจ้าแล้ว เจ้าตายตาหลับได้แล้วนะ”

หยางจิ่นซิ่วพูดปลอบใจว่า “อย่าได้โทษตนเองเลย ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”

ฉินเหยียนรู้สึกโศกเศร้า เขามีดีอะไรถึงได้ต้องให้ผู้อื่นสละชีวิตให้ เขาถอนหายใจยาวๆแล้วพูดว่า

“ตรวจสอบตัวตนมา จัดพิธีศพให้ใหญ่ โดยใช้มาตรฐานขุนพล”

“พ่ะย่ะค่ะ” ต้าหย่งประสานมือคารวะ แต่ในใจกลับตะลึงอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าฉินเหยียนจะจัดพิธีศพมาตรฐานขุนพลให้แก่คนขายเนื้อธรรมดาๆ ทำให้คนต่ำต้อยเช่นเขาได้รับความสำคัญอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พวกเขาก็ยิ่งหนักแน่น ว่าต่อให้ต้องเสียสละชีวิตเพื่ออ๋องเหยียน ภักดีจนตาย พวกเขาก็ไม่เสียใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์