เมืองหลวงอาณาจักรฉิน เมื่อฟ้าค่อยๆเริ่มสาง
เหล่าองค์ชายต่างก็เจ็บปวดรวดร้าวใจ และรวมตัวกันที่ตำหนักจินหลวนเพื่อฟ้องฉินเหยียน เมื่อคืนเกิดความโกลาหลรุนแรง เผยแพร่ไปทั่วทั้งพระราชสำนักไปหมด แน่นอนว่าฮ่องเต้ฉินเองก็รู้ว่าเมื่อคนเกิดอะไรขึ้น
แต่สิ่งทีทำให้เขาเดือดดาล ไม่ใช่เรื่องที่ฉินเหยียนทำการสังหารพวกกากเดนตระกูลขุนนาง แต่เป็นเหล่าตระกูลขุนนางบังอาจลอบสังหารลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา กำเริบเกินไปแล้ว
ดังนั้นแม้ว่าเหล่าลูกชายจะมารวมตัวกันอยู่นอกตำหนักจินหลวน ฟ้องโดยไม่สนผิดชอบชั่วดี เขาที่เป็นพ่อก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แถมยังสั่งให้ขันทีเกาไปดูสถานการณ์ของฉินเหยียนที่จงเหรินฝู่ และพาเขาเข้าพระราชสำนักในตอนเช้าที่ตำหนักจินหลวนด้วย
ในพระราชสำนัก
เหล่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราต่างก็ฟ้องฮ่องเต้ฉินกันใหญ่
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสิบสี่ไม่สนกฎเกณฑ์ เข่นฆ่าผู้คนบริสุทธิ์ ต่อให้เหล่าตระกูลขุนนางจะเคยกระทำเรื่องผิดมาก่อน แต่ก็ควรจะมีการพิจารณาคดีก่อน จึงจะทำการลงโทษได้พ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสิบสี่เผด็จการ เพียงแค่คืนเดียวก็เข่นฆ่าผู้คนไปมากมาย ไม่สนใจกฎระเบียบ โปรดทรงลงทัณฑ์ต่อองค์ชายสิบสี่ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาทโปรดตรวจสอบอีกครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสิบสี่ไม่สนใจกฎระเบียบ จะปล่อยไปง่ายๆไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
เหล่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราแย่งกันพูด ฟ้องการกระทำเมื่อคืนของฉินเหยียนไม่หยุด
แต่ฮ่องเต้ฉินกลับฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เขาเป็นห่วงแต่ความปลอดภัยของฉินเหยียน ไม่รู้ว่าเจ้าสิบสี่ได้รับบาดเจ็บรึไม่
ทันใดนั้นเอง นอกตำหนักก็วุ่นวายกันใหญ่ เหล่าองค์ชายด่าทออยู่นอกตำหนักอย่างเดือดดาล ไม่สงวนกิริยาความเป็นราชวงศ์เลย เมื่อได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าฉินเหยียนมาแล้ว
นอกตำหนักจินหลวน หากไม่มีทหารรักษาพระราชวังคอยรักษาการณ์อยู่ เหล่าองค์ชายคงพุ่งเข้าไปทำลายฉินเหยียนด้วยตนเองแล้ว หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าฉินเหยียนคงจะถูกพวกเขาฆ่าไปนับพันครั้งแล้ว
ทุกคนต่างจ้องฉินเหยียนอย่างโกรธแค้น แล้วด่าทอสาปแช่งว่า
“ฉินเหยียนเจ้าคนสารเลว เสียแรงที่เป็นพี่น้องกัน เจ้าบังอาจเข่นฆ่าตระกูลของท่านแม่ข้าจนหมด ไร้ยางอายเสียจริง!”
“ฉินเหยียนสมควรตาย คืนชีวิตท่านปู่ของข้ามา!”
“ฉินเหยียนเจ้าคนสารเลว ต้องไม่ตายดี ข้าจะฟ้องเจ้าต่อท่านพ่อ ให้เจ้าตายตามท่านลุงของข้า!”
ฉินเหยียนไม่ได้สนใจคำด่าทอและคำสาปแช่งเหล่านี้ เพิ่งจะมาคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันเนี่ยนะ เมื่อคืนตอนวางแผนลอบสังหารเขาเหตุใดจึงไม่เคยคิด ว่าฉินเหยียนคือพี่น้องของเขา!
“บังอาจเกินไปแล้ว! เจ้าพวกสารเลว บังอาจจะฆ่าลูกชายข้า! กำเริบเกินไปแล้ว สมควรตายกันหมด!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็โยนกระดาษลงพื้นแล้วพูดอย่างเย็นชา “จงดูซะ!”
เหล่าเจ้าหน้าที่ตรวจตราเก็บกระดาษขึ้นมาแล้วเปิดอ่านอย่างละเอียด สีหน้าของพวกเขาแย่อย่างมาก ต่างก็พากันเหงื่อแตกและไม่กล้าพูดอะไรอีก
ฮ่องเต้ฉินถอนหายใจยาวๆแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ลุกขึ้นเถิดเหยียนเอ๋อร์ เรื่องนี้ไม่โทษเจ้า เจ้าพวกทรยศสมควรตายแล้ว!”
ฉินเหยียนลุกขึ้นประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “ท่านพ่อพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้ใกล้จะถึงช่วงสอบราชการแล้ว อย่าให้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้กระทบการสอบหน้าพระที่นั่งเลยพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อฉินเหยียนพูดเตือนขึ้นมาฮ่องเต้ฉินจึงจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้คือวันสอบ เป็นวันสำคัญในการคัดเลือกคนใหม่ๆทำประโยชน์แก่พระราชสำนัก
เขาหายใจเข้าลึกๆแล้วสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เหยียนเอ๋อร์พูดถูก ไม่ว่าในพระราชวังจะเกิดเรื่องวุ่นวายแค่ไหน ก็จะให้มีผลกระทบต่อการสอบหน้าพระที่นั่งไม่ได้ เผยแพร่คำสั่งให้เปิดการสอบได้ ประกาศให้เหล่าผู้เข้าสอบทุกคนเข้าสู่สนามสอบได้!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็โบกมือ
“น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” ขันทีเกาประสานมือคารวะแล้วรีบสั่งให้นำข้อสอบออกมา ข้อสอบถูกส่งไปยังสนามสอบโดยมีทหารรักษาพระราชวังคอยคุ้มกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...