องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 520

สนามสอบ

เหล่านักเรียนต่างก็ต่อแถวยาวเหยียด เพื่อป้องกันการคดโกง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ก่อนจะเข้าสอบจะต้องถูกค้นตัวก่อน ห้ามไม่ให้นำตัวอักษรที่เกี่ยวข้องกับการสอบเข้าไปในสนามสอบเด็ดขาด เมื่อค้นตัวเรียบร้อยแล้วเหล่านักเรียนก็เข้าไปในห้องเล็กๆตามลำดับ เริ่มโม่หมึกเพื่อเตรียมสอบ

เมื่อข้อสอบถูกส่งมาถึง ก็ได้แจกจ่ายข้อสอบให้ทุกคนอย่างเรียบร้อย ขันทีเกามองเวลาแล้วตะโกนประกาศว่า

“ถึงเวลาแล้ว เริ่มการสอบได้!”

“ตึง” เสียงตีฆ้องดังขึ้น เหล่าผู้เข้าสอบต่างก็ถือพู่กันขึ้นแล้วลงมือเขียนตอบคำถาม

......

ตำหนักจินหลวน

เพราะกรมพิธีการและกรมมหาดไทยไม่มีผู้ที่สามารถมาคุมสอบได้เลย ดังนั้นการสอบในครั้งนี้จึงได้รับการประเมินโดยฮ่องเต้ฉิน

ใช้เวลาตอบคำถามประมาณสองชั่วโมง ในระหว่างนี้เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นต่างก็ชะเง้อหน้ามอง แล้วรอผลลัพธ์อย่างร้อนรน

เพราะเรื่องการลอบสังหารเมื่อคืนนี้ ฮ่องเต้ฉินจึงเป็นห่วงสุขภาพของฉินเหยียน และได้จัดที่นั่งให้ที่ตำหนักจินหลวนโดยเฉพาะ

ส่วนเหล่าองค์ชายที่สร้างปัญหานั้น ได้ทำให้ฮ่องเต้ฉินโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขาออกคำสั่งให้ทหารรักษาการณ์คุมตัวกลับไปยังตำหนักของใครของมัน ปิดประตูให้ทบทวนความผิด และได้ให้ทหารหัวกะทิคอยเฝ้าไม่ให้พวกเขาเข้าออกตามอำเภอใจ รอให้สิ้นสุดการสอบแล้วจึงจะตัดสินโทษ

ขณะเดียวกันนั้นเอียนอ๋องที่แปดฉินอู่ก็ใช้โอกาสนี้แอบไปหาท่านแม่ที่ตำหนักเย็น นางคืออดีตฮองเฮาแห่งอาณาจักรฉิน ฉินซวงหลาน

ที่ตำหนักเย็นมีทหารคอยเฝ้าอยู่แน่นหนา ฉินอู่วางมาดองค์ชายแล้วออกคำสั่งว่า “เปิดประตู ข้าจะเข้าไป”

ทหารรักษาพระราชวังถ้อยคำรุนแรงไม่ไว้หน้า “เอียนอ๋องที่แปดโปรดประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทมีคำสั่งไม่ให้ผู้ใดเข้าออกตำหนักเย็นพ่ะย่ะค่ะ”

ในเมื่อเป็นคำสั่งของท่านพ่อฉินอู่ก็ไม่กล้าบุกเข้าไป จึงทำได้เพียงตะโกนเสียงดังผ่านประตูว่า

“ท่านแม่! ท่านแม่พ่ะย่ะค่ะ! อู่เอ๋อร์มาเยี่ยมท่านแล้ว!”

นับตั้งแต่ที่ถูกส่งมาตำหนักเย็น ฉินซวงหลานก็ผ่านวันคืนมาอย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย นางตั้งปณิธาน เพียงรอให้ลูกชายกลับมา บัดนี้นางได้ยินเสียงเรียกของลูกชายแล้ว ฉินซวงหลานคิดว่าฝันไปจึงตั้งใจฟัง เป็นเสียงของลูกชายฉินอู่จริงๆ!

ฉินซวงหลานรีบลุกขึ้นจากที่นอนแล้ววิ่งล้มลุกคลุกคลานไปยังหน้าประตู นางมองผ่านช่องประตูแล้วเห็นฉินอู่ที่ยืนอยู่ด้านนอก ทันใดนั้นฉินซวงหลานก็น้ำตาคลอ จากนั้นน้ำตาของนางก็ไหลรินลงมามากมาย นางพูดอย่างตื่นเต้นว่า

“อู่เอ๋อร์ ใช่ลูกรึไม่อู่เอ๋อร์?”

ฉินอู่มองมารดาแห่งอาณาจักรที่เคยอ่อนโยนมีคุณธรรม มีเกียรติและสูงส่ง บัดนี้กลับมีสภาพทรุดโทรม หน้าตาซูบผอมแล้วก็เจ็บปวดใจอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็ระเบิดอารมณ์แล้วคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้ราบกรานผ่านประตู

เมื่อพูดดังนั้นแล้วแววตาของฉินอู่ก็ปรากฏจิตสังหารออกมา

......

อีกด้านหนึ่ง ณ ตำหนักสอบราชการ เมื่อเหล่าผู้เข้าสอบได้ทำการเขียนคำตอบสองชั่วโมงแล้ว ในที่สุดการสอบก็สิ้นสุดลง ข้อสอบทุกฉบับจะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราคอยตรวจสอบในตำหนักจินหลวน โดยมีฮ่องเต้ฉินคอยควบคุม

ข้อสอบของผู้เข้าสอบจะถูกเย็บเล่มเอาไว้ มองไม่เห็นชื่อ เห็นเพียงเนื้อหาคำตอบเท่านั้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด บทความของผู้เข้าสอบในปีนี้ล้วนเขียนได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก ล้วนมีความสามารถกันหมด

ไม่ว่าจะเป็นด้านพลเรือน อาณาจักร หรือการค้าขาย ล้วนมีเหตุมีผลอย่างมาก เหล่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราที่ตรวจข้อสอบต่างก็ตกตะลึงอย่างมาก และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า บัดนี้อาณาจักรฉินมีผู้มีความสามารถมากมายเหลือเกิน!

เมื่อฮ่องเต้ฉินได้เห็นบทความที่องอาจเหล่านี้แล้ว ความฉุนเฉียวก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมด หากเป็นเมื่อก่อน ผู้เข้าสอบเหล่านี้คงอยู่ในสามอันดับแรก แต่ตอนนี้กลับมีมากมายเช่นนี้ จำนวนคนมากขนาดนี้กลับไม่สามารถจัดอันดับได้ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก

ฮ่องเต้ฉินทำการตรวจสอบข้อสอบด้วยตนเองทุกฉบับ อ่านอย่างละเอียด ยิ่งอ่านก็ยิ่งตื่นเต้น อาณาจักรฉินช่างมีผู้มีความสามารถมากมายยิ่งนัก สวรรค์เข้าข้างอาณาจักรฉินจริงๆ ในที่สุดก็เติบโตขึ้นแล้ว!

ฮ่องเต้ฉินพยายามทั้งคืน ไม่กินไม่นอนพักผ่อน เขาตกอยู่ในภวังค์นั้นจนไม่อาจนอนหลับได้เลย หลังจากการตัดสินทั้งคืน ฮ่องเต้ฉินก็คัดเลือกด้วยตนเอง เลือกคนที่ยอดเยี่ยมท่ามกลางคนยอดเยี่ยม แบ่งเป็น ดีมาก ปานกลาง พอใช้ สามอันดับ

รวมถึงสามผู้ที่ได้ดีมากสามคน ที่ได้อันดับหนึ่ง ฮ่องเต้ฉินต้องการจะเรียกมาเข้าเฝ้าแล้วตัดสินผู้ที่ได้จอหงวน ปั๋งเหยี่ยนและทั่นฮวา ที่เหลือเป็นผู้ที่สอบผ่าน โดยในการสอบครั้งนี้มีถึง 453คน

ฮ่องเต้ฉินตื่นเต้นอย่างมาก เขาอยากจะประกาศรายชื่อการสอบในครั้งนี้จนแทบอดใจไม่ไหวแล้ว แต่เมื่อเห็นชื่อของผู้ที่ทำได้ดีมากทั้งสามคนแล้ว สีหน้าของฮ่องเต้ฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์