ในการแข่งขันต่อจากนั้นเซี่ยชิงเอาชนะศัตรูทุกคนมาได้ นางโดดเด่นและชนะติดต่อกันหลายครั้ง จนกระทั่งมาถึงรอบผู้บัญชาการทหารม้าขั้นที่หกระดับสูง
มีคนที่อยู่ตรงที่นั่งผู้ชมแล้วพูดว่า “กำเริบเสิบสานนัก ปล่อยให้นางผู้หญิงเอาชนะมาได้จนถึงรอบผู้บัญชาการทหารม้าเนี่ยนะ!”
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป การสอบจอหงวนบู๊ในปีนี้คงถูกแม่นางผู้นี้ชิงไปได้แน่”
“จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ อาณาจักรฉินสถาปนาอาณาจักรโดยการรบ ผู้ชายต่างเก่งกาจกล้าหาญ จะปล่อยให้หญิงชาวบ้านธรรมดามาเหยียบย่ำได้อย่างไร ขืนใครรู้เข้าคงหัวเราะเยาะกันใหญ่!”
ผู้บัญชาการขั้นที่สี่ระดับสูงคนหนึ่งตะคอกต่อผู้บัญชาการทหารม้าที่กำลังจะประลองว่า
“เจ้าใส่ชุดเกราะลงสนามซะ หากพ่ายแพ้ข้าจะลดตำแหน่งเจ้าสามขั้น ให้ไปยืนเฝ้าประตูเมือง!”
ผู้บัญชาการทหารม้ารู้สึกว่าเซี่ยชิงขวางหูขวางตามานานแล้ว ปล่อยให้ผู้หญิงเข้ารอบเรื่อยๆแบบนี้จะให้เหล่าทหารที่เข้าร่วมสมรภูมิอย่างพวกเขา เอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่ว่าอย่างไรรอบนี้ก็จะต้องทำให้นางตกหลังม้าให้ได้
เขาประสานมือคารวะแล้วพูดเสียงดังว่า “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่งขอรับ!”
เมื่อผู้บัญชาการทหารม้าลงสนามแล้ว เหล่าแม่ทัพต่างก็ยังคงพูดไม่หยุด
“เป็นผู้หญิงแท้ๆแต่ไม่ยอมอยู่ดูแลครอบครัว ดันทุรังจะมาสอบจอหงวนบู๊ ไม่เจียมตัวเลยนะ”
“นั่นสิ กะอีแค่วิชาติดตัวเล็กน้อยแค่นั้น ยังกล้าออกมาขายหน้าอีกนะ”
“หากนางไม่ใช่คนของอ๋องเหยียน ทหารอย่างเราจะปล่อยให้นางโอหังเพียงนี้ได้อย่างไร?”
ฉินเหยียนทนไม่ไหวจึงได้หันกลับไปพูดว่า “นี่พวกเจ้าหมายความว่าที่เซี่ยชิงชนะมาได้ เพราะพวกเจ้ายอมอ่อนข้อให้เพราะเห็นแก่ข้างั้นรึ?”
ทหารนายหนึ่งประสานมือคารวะพูดว่า “อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่อดีตไม่มีหญิงสาวคนใดที่สามารถได้ตำแหน่งจอหงวนในการสอบจอหงวนบู๊พ่ะย่ะค่ะ หากไม่ใช่เพราะพระองค์ นางจะผ่านเข้ารอบได้อย่างไร”
“กระหม่อมคิดว่าอ๋องเหยียนพอเท่านี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ ตัดสินให้นางแพ้เสียในรอบนี้ จะได้ไม่ทำให้ฝ่าบาทพิโรธ”
“นั่นสิท่านอ๋อง การสอบจอหงวนบุ๋นยอมให้หญิงสาวได้ครองจอหงวนแล้ว แต่จอหงวนบู๊ยอมได้จริงๆพ่ะย่ะค่ะ ไม่เช่นนั้นหากเผยแพร่ออกไปแล้วจะเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนไม่ยอมความคิดอันคร่ำครึของเหล่าแม่ทัพพวกนี้ เขาพูดอย่างจริงจังว่า
“เหตุใดเป็นหญิงไม่ได้ ผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชาย พวกเจ้าอยากชนะก็อย่าเอาแต่พูด ไปเอาชนะนางให้ได้สิ อย่าหาว่าข้าดูถูกพวกเจ้าเลยนะ วิชาแค่นี้ของพวกเจ้า ไม่มีทางเอาชนะเซี่ยชิงได้ในสนามรบหรอก”
“พวกข้าเอาชนะไม่ได้งั้นรึ!” รองผู้บัญชาการยืนขึ้นทันที “ข้าจะลงสนามเดี๋ยวนี้ แล้วทำให้แม่นางผู้นั้นตกจากหลังม้า!”
หยางจิ่นซิ่วไม่ชอบเหล่าแม่ทัพพวกนี้มานานแล้ว นางกอดอกแล้วจับจ้องเหล่าแม่ทัพอาณาจักรฉินด้วยสายตาที่เฉียบคมแล้วถามขึ้นว่า
“อยากจะลงสนามก็ได้ กล้าประลองกับข้าสักรอบรึไม่?”
รองผู้บัญชาการกำลังเดือดดาล เขารีบตอบกลับทันทีว่า “เหตุใดจะไม่กล้า ประลองก็ประลองสิ ข้าทำสงครามมาหลายปี เคยเจอศัตรูมาทุกรูปแบบ คิดว่าจะโดนผู้หญิงอย่างเจ้าข่มขวัญงั้นรึ!”
หยางจิ่นซิ่วเองก็พูดอย่างไม่ยอมถอยว่า “พอดีเลยรอบต่อไปยังไม่เริ่ม ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าสักหน่อยละกัน!”
รองผู้บัญชาการยืนขึ้นแล้วส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า “มือเท้าไม่มีตาหรอกนะ หากทำให้เจ้าเจ็บก็อย่าร้องไห้ละกัน!”
“รายงานพ่ะย่ะค่ะ!” รองผู้บัญชาการคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วร้องขอว่า “ท่านซินหวังโปรดเป็นพยานเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าจะสู้กับแม่นางคนนี้ให้รู้ดำรู้แดง ให้นางได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกข้า ฮ่าๆๆ......”
เมื่อเหล่าแม่ทัพพากันหัวเราะ สีหน้าของฉินชงก็ไม่สบอารมณ์ เพราะหยางจิ่นซิ่วสวมใส่ผ้าบังหน้าเฉยๆหรอก หากนางถอดออก อย่าว่าแต่สู้ให้รู้ดำรู้แดงเลย พวกเจ้าคงตกใจกลัวจนฉี่ราดยอมแพ้แล้ว
เขาจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เงียบซะ อย่าพูดมาก หยุดแล้วดูการแข่ง!”
เมื่อถูกด่าทอเหล่าแม่ทัพก็หุบยิ้มแล้วเงียบลงตามๆกัน
หยางจิ่นซิ่วทำเสียงเย็นชาแล้วกลอกตาใส่เหล่าแม่ทัพ “เจ้าพวกขี้แพ้ พ่ายแพ้แล้วยังกล้าพูดมากอีกนะ!”
ฉินชงยิ้มอย่างเก้อเขินแล้วใช้ศอกสะกิดฉินเหยียน จากนั้นก็กระซิบถามว่า
“ผู้ที่เข้าสอบไม่ใช่หยางจิ่นซิ่ว แล้วเป็นนักรบหญิงที่ไหนอีก หรือว่าจะเป็นคนอาณาจักรจ้าวเหมือนกัน?”
ฉินเหยียนรีบปฏิเสธว่า “เปล่า นางเป็นคนอาณาจักรฉิน”
ฉินชงดีใจอย่างมาก “ไม่ใช่คนอาณาจักรจ้าวก็ดี ข้าละกลัวว่าเจ้าจะไปเอาแม่ทัพหญิงอาณาจักรจ้าวมาอีกคน แล้วให้มาเข้าสอบจอหงวนบู๊อาณาจักรฉิน เรื่องที่หญิงสาวแย่งชิงตำแหน่งข้ายังพอรับมือได้ แต่หากเป็นคนอาณาจักรจ้าวข้าก็ไม่รู้จะทูลต่อท่านพ่ออย่างไร”
ที่จริงแล้วฉินชงเป็นคนไร้เดียงสามาก เขาเกิดในตระกูลแม่ทัพ ตระกูลของท่านแม่ล้วนเป็นแม่ทพผู้เลื่องชื่อ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่อยู่ในกรอบ แต่ชอบผู้หญิงที่มีอิสระ
ในสนามสอบมีหญิงที่เข้าสอบผ่านเข้ารอบคนหนึ่ง หญิงสาวที่เก่งกาจและกล้าหาญเช่นนี้หาพบได้ยากนัก เมื่อเขาได้รู้แล้วก็รู้สึกใจเต้นขึ้นมาบ้าง หากการประลองสิ้นสุดลง เขาจะต้องเห็นให้ได้ว่าผู้หญิงที่เก่งกาจและกล้าหาญเพียงนั้นมีรูปลักษณ์อย่างไร หากหน้าตางดงามยังสามารถให้น้องสิบสี่ช่วยแนะนำและตบแต่งได้
ในขณะที่คิดอยู่ เสียงกลองการประลองก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...